พ่อโพสต์ภาพลูกชาย 4 ขวบ เจอฝุ่นพิษเชียงใหม่เล่นงาน เลือดกำเดาไหลไม่หยุด ซ้ำตรวจพบปอดอักเสบ

จากกรณีที่กรมควบคุมมลพิษ ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา พบว่าค่าฝุ่นละอองเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีแดง 14 พื้นที่ (คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ) สีส้ม 3 พื้นที่ (คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)

ทั้งนี้พบว่าฝุ่นพิษกลับมาปกคลุมอย่างหนาแน่นอีกครั้ง โดยสถานการณ์กลับมาหนักอีกรอบ โดยเว็บไซต์ AirVisual จับอันดับค่า World AQI Ranking โดยเมื่อวันที่ 23 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา เชียงใหม่ติดอันดับ 1 ของโลก โดยค่า AQI อยู่ที่ 415 ทำสถิติติดอันดับ 1 ของโลกอีกแล้ว 

 

ล่าสุดในเฟซบุ๊ก Phu Chiangdao คุณพ่อรายหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้บอกเล่าประสบการณ์ฝุ่นควันพิษ ว่ามันกำลังจะทำลายชีวิตลูกของตนเองแล้ว ระบุว่า ""มันกำลังทำลายชีวิตของลูกผม" "มันกำลังทำลายชีวิตลูกหลานของคุณ"

 

"มันกำลังทำลายทำร้ายปอดของเด็กๆ คนป่วย หญิงมีครรภ์และคนชราฯลฯ
#รัฐส่วนกลางและจังหวัดต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัตเดี๋ยวนี้!

 

ผู้ว่าฯ นายอำเภอ เจ้าหน้าที่รัฐ ต้องรายงานประกาศแจ้งเตือนประชาชนทุก 24 ชั่วโมง ผู้ว่าฯ และรัฐต้องเอางบฉุกเฉินแจกหน้ากากอนามัยให้กับชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยทุกหมู่บ้าน. ไม่ใช่สร้างภาพแจกแค่ข่วงประตูท่าแพ หรือฉีดพ่นน้ำเพียงแค่รอบๆ คูเมืองเท่านั้น หยุดสร้างภาพ มาสัมผัสพื้นที่วิกฤติจริงๆ ดูสิ
ระดมสรรพกำลังสมองช่วยกันในหลายๆ ด้าน อย่างต่อเนื่อง

 

หรือยังคิดว่า...
“ยังไม่ร้ายแรงขนาดนั้น”
พวกท่านคิดได้แค่นี้หรือ!?
ยอมรับความจริงกันเถอะ
#เชียงใหม่เมืองฝุ่นพิษ
#ฝุ่นพิษทำลายชีวิตคน
#ปอดอักเสบ #โรคทางเดินหายใจ
#เขตภัยพิบัติฝุ่นควันพิษเชียงใหม่
#ประกาศเขตภัยพิบัติหรือเขตภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข!?

 

 

หรือว่ามันถึงเวลาให้คนเชียงใหม่ลุกขึ้นมาปกป้องชุมชนด้วยตนเอง
#ผู้ว่าต้องมาจากการเลือกตั้ง!
#อสม.ได้เงินแจกคนละพันแล้วหันมาช่วยชาวบ้านด้วย
#สื่อมวลชนต้องช่วยกันให้มากกว่านี้
#กรมควบคุมมลพิษอยู่ไหน

 

วันนี้วัดค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 สูงถึง 597 (จุดวัด รพ.สต.บ้านปางมะเยา อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่) ซึ่งมันหนักเกินไปสำหรับปอดของเด็กๆ คนป่วย คนชราจะรับไหวแล้วนะ มันน่าจะประกาศเป็นภัยพิบัติอะไรเตือนภัยชาวบ้าน รณรงค์ป้องกันกันอย่างต่อเนื่อง..แต่หลายฝ่ายยังดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!?"

 

 

โดยคุณพ่อยังเปิดเผยด้วยว่า ลูกชายอายุ 4 ขวบ สวมหน้ากากอนามัยบ้าง ถอดบ้าง จนเมื่อสัปดาห์ก่อนมีอาการเลือดกำเดาไหลไม่หยุด จึงรีบพาเข้ารักษาที่โรงพยาบาล โดยนอนพักรักษาตัวอยู่ 3 คืน หมอตรวจพบว่ามีอาการปอดอักเสบ กระทั่งอาการดีขึ้นจึงกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านใน อ.เชียงดาว แต่ก็ยังต้องเจอกับปัญหาหมอกควันและฝุ่นพิษที่รุนแรง จึงต้องสวมหน้ากากอนามัยที่ช่วยกรองฝุ่น ตลอดเวลา แม้กระทั่งในห้องนอน รวมทั้งซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้ในห้องนอนด้วยซึ่งช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ก็อยากฝากถึงรัฐและส่วนกลางให้หันมามองปัญหานี้ด่วน 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ชาวโซเชียลที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ขอให้ลูกชายหายป่วยไวๆ และถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องจัดการอย่างเข้มงวด เพราะเด็กย่อมอ่อนแอกว่าผู้ใหญ่ อย่าให้ประชาชนต้องลุกมาจัดการเองเลย 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เชียงใหม่ยังครองแชมป์ อันดับ 1 ต่อเนื่อง 3 วันติด ค่าฝุ่นพิษทะลุ 250

- ยังโคม่า !!"เชียงใหม่"ค่าฝุ่นยืน1 อากาศแย่สุดในโลกอีกแล้ว คุณภาพอากาศอยู่ที่ 289 AQI

- เครื่องฟอกอากาศทำเอง ราคาประหยัดเเค่30บาท ประยุกต์พัดลมตั้งโต๊ะในบ้าน ลดฝุ่นPM2.5 ได้ 80เปอร์เซนต์

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Phu Chiangdao