- 27 มี.ค. 2562
พี่ใหญ่ สลักพระช้างอายุกว่า 40 ปี บุกเข้าโรงเรียนอนุบาลศรีสวัสดิ์ ในพิธีการเปิดงาน open house ทำเอาคุณครูผู้ปกครองแตกตื่นเป็นอย่างมาก โชคดีที่ไม่ได้มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
วันนี้ (26 มี.ค.) ช้างป่าเพศผู้ ตาบอด ซึ่งเป็นช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ได้ออกมานอกพื้นที่และกินพืชไร่ของเกษตรกร บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านเกาะบุก ตำบลหนองเป็ด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
ภายหลังจากวานนี้ (25 มี.ค. )เวลาประมาณ 09.45 น. ขณะที่คณะครู นักเรียน และผู้ปกครองของโรงเรียนอนุบาลศรีสวัสดิ์ หมู่ 2 บ้านเกาะบุก ตำบลหนองเป็ด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี กำลังร่วมกิจกรรมในพิธีเปิดงาน Open House ของโรงเรียน อยู่ๆได้มีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ บุกเข้ามาหากินภายในโรงเรียน สร้างความแตกตื่นให้กับคณะครู ผู้ปกครองและนักเรียนที่อยู่ภายในงานเป็นอย่างมาก
โดยช้างตัวดังกล่าว ได้เดินเข้าไปภายในเต็นท์ ที่จัดแสดงนิทรรศการและผลงานของนักเรียน พร้อมเดินชนข้าวของต่างๆ จนได้รับความเสียหายคล้ายกับตาของช้างตัวดังกล่าวจะมองไม่เห็น โชคดีที่ช้างตัวดังกล่าวไม่ทำอันตรายใคร โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบ พบว่า ช้างป่าตัวดังกล่าวเป็นช้างป่าเพศผู้ พิการตาบอด จึงเรียกชื่อว่า ไอ้บอด ซึ่งเป็นช้างป่าที่มีอายุมากกว่า 40 ปี โดยดวงตาข้างขวาบอดสนิทส่วนดวงตาข้างซ้ายค่อนข้างพร่ามัว ขณะที่บริเวณขาหลังด้านขวา หูด้านขวาและบริเวณปลายงวงมีแผลขนาดใหญ่ พร้อมประสานสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่าปศุปาลัน มหาวิทยาลัยมหิดลวิทยาเขตไทรโยค เข้ามาตรวจดูอาการเบื้องต้น ก่อนผลักดันกลับเข้าป่า
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังช้างป่าหน่วยพิทักษ์ป่าหม่องกระแทะ ได้สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเฝ้าระวังตลอดทั้งคืนต่อเนื่องจากวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ช้างยังไม่กลับเข้าผืนป่า ยังคงเดินกัดกินพืชไร่ของชาวบ้านที่บริเวณพิกัดที่ 47P 0517147 E 1598168 N หมู่ที่ 2 ตำบลหนองเป็ด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี อย่างไรก็ตามทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระจะได้จัดชุดเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบ ช้างตัวดังกล่าวไม่ได้ทำร้ายใคร แต่เนื่องจากช้างมีอายุมากและมีอาการบาดเจ็บในหลายจุด เจ้าหน้าที่จึงผลักดันให้กลับเข้าป่าด้วยวิธีการปกติได้ยาก จะต้องมีการวางแผนให้สัตวแพทย์ให้ยาและดำเนินการรักษาในเบื้องต้น ก่อนจะวางแผนเคลื่อนย้ายช้างตัวดังกล่าวเข้าสู่พื้นที่ตอนกลางของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระต่อไป อย่างไรก็ตามคาดว่า หากช้างได้กินจนอิ่มแล้ว น่าว่าจะเดินกลับเข้าป่าไปเอง แต่เนื่องจากปลายงวงมีแผลหลายแห่ง ซึ่งส่งผลต่อการกินของช้าง ทำให้ช้างยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวมีชุมชนตั้งประชิดแนวเขตป่า และมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายได้ เนื่องจากช้างจะกลับออกมาหากินอีก
ดังนั้นจะต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นจะได้ประมวลเรื่องเสนอกรมอุทยานแห่งชาติ เพื่อขออนุมัติในการเคลื่อนย้าย เนื่องจากการเคลื่อนย้ายค่อนข้างยากลำบาก ต้องใช้จำนวนคนและอุปกรณ์หลายอย่าง รวมทั้งรถแบคโฮ รถบรรทุก ทีมแพทย์จากอุทยานฯ และทีมสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่าปศุปาลัน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเรื่องการขนย้ายช้าง และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งต้องใช้เจ้าหน้าที่กว่า 70-80 นาย เพื่อความปลอดภัยในการดำเนินการเคลื่อนย้ายในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในเดือนเมษายนนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปิดตำนาน "เจ้าด้วนด่านลอย" ช้างป่าเขาอ่างฤาไน แผลติดเชื้อ ล้มแล้ว โซเชียลแห่อาลัย
- มิตรภาพระหว่างสุนัขกับช้าง เป็นเพื่อนเล่นกันนาน 8 ปี ก่อนจะต้องจากกันด้วยเรื่องเศร้า(คลิป)