- 01 เม.ย. 2562
2 ลูกครึ่งเคยเจอของคุณไสยในบ้าน
จากกรณีด.ช.ลูก้า นิรันดร์ โบเรล 12 ปี ด.ญ.พาเมลา นิรันดร์ โบเรล อายุ 11 ปี ลูกครึ่งไทย- สวิตเซอร์แลนด์ ที่เคยตกเป็นข่าวพลัดตกจากที่สูง 4 คนพี่น้อง แต่รอดชีวิตเพียง 2 คน ได้หลบหนีออกจากบ้านพักย่านรามคำแหง เพื่อออกตามหาพ่อชาวสวิตเซอร์แลนด์ หลังถูกแม่ซึ่งเป็นคนไทยทำร้ายร่างกายหลายครั้งเพราะทำความสะอาดห้องไม่เรียบร้อย จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านมาเพื่อมาตามหาพ่อที่พักอยู่ในซอยมีสทีน (รามคำแหง160) ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้า
ต่อมาได้มีการสัมภาษณ์นางสาวมีนี่ คนสนิทของพ่อเด็ก ได้เผยว่า ตอนนี้สภาพจิตใจของเด็กทั้ง 2 คนดีขึ้น เริ่มยิ้มแย้มพูดคุยแล้ว แต่ยังอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม และยืนยันว่าจะไม่กลับไปอยู่กับแม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชาวเน็ตแห่ขุดประวัติแม่ 2เด็กลูกครึ่ง ถามถึงเงินบริจาค พร้อมโยงถึงเหตุการณ์ล่าสุด
โดยตลอด ตลอดช่วงที่ผ่านมามักจะโดนแม่ทุบตีมาตลอด และเตะที่แผลจากอุบัติเหตุตกจากตึก อีกทั้งแม่ไม่เคยพาไปทำแผลที่โรงพยาบาล แต่ซื้ออุปกรณ์มาให้เด็กทำกันเอง บางครั้งมีแผลคล้ายหนอง ลำตัวมีรอยขีดข่วนด้วยเล็บ ซึ่งการหนีออกจากบ้านเพื่อไปหาพ่อ ไม่ใช่ครั้งแรก ในอดีตตอนที่เด็กทั้งหมดอยู่กันครบ 4 คน ทุกคนก็เคยเก็บข้าวของ ตั้งใจจะหนีแม่ แต่ก็ไม่สำเร็จ ถูกตีและสั่งห้ามไว้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ค้นข้อมูลลับ แม่ของ 2 พี่น้องเด็กลูกครึ่ง จนสามีขอแยกทาง
นอกจากนี้ หลังจากที่ตนได้คุยกับเด็ก ทราบว่าภายในบ้าน นอกจากมีซองยาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งคาดว่าเป็นยารักษาโรคซึมเศร้า ภายในลิ้นชักเดียวกัน มีอีก 2 ซิปล็อก มียาเม็ดสีส้มแดง มีอักษรย่อ “WY” ซึ่งเด็กยืนยันชัดเจนว่าหลังจากที่เห็นยาดังกล่าวได้นำไปค้นในอินเตอร์เน็ต พบว่าเป็นยาบ้า บางครั้งในลิ้นชักภายในบ้านยังพบเห็นอุปกรณ์คล้ายคุณไสย ซึ่งเด็กเล่าว่ามีการปั้นหุ่นประกบกัน และมีได้สายสิญจน์พันรอบเอาไว้ โดยเรื่องที่เด็กเล่าให้ฟัง ตัวเองเชื่อว่าไม่มีการปรุงแต่ง เพราะเด็กอายุเพียง 12 ขวบ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 2 ลูกครึ่ง เผยความจริงเรื่องแม่ เห็นหลักฐานชัดในห้อง (คลิป)
ส่วนทางด้านตาของเด็ก ได้ออกมาเผยความอีกด้านว่า หลังได้ทราบแล้วว่าเด็กปลอดภัยดี ซึ่งครอบครัวก็หายเป็นห่วง แต่ก็ยังไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไรที่เด็กทั้ง 2 คน ตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เพราะหากอ้างว่าแม่ทำร้ายลูก ตนเองก็ยังไม่เคยเห็น ที่บ้านดูแลกันปกติ เด็กยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีอาการวิตกหวาดกลัว ไม่เคยเห็นทำร้ายร่างกายต่อหน้าตาและยาย
ไดเทราบว่าเด็กอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ อยู่กับการตัดสินใจของเด็ก ถ้าต้องการกลับมาอยู่บ้าน ตนก็พร้อมรับกลับมา แต่หากต้องการอยู่กับพ่อก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเด็ก ตนมีความกังวลว่า หากเด็กไปอยู่กับพ่อ และพ่อมีภรรยาใหม่แล้ว เด็กจะลำบาก ไม่เหมือนอยู่กับแม่ และกลัวว่าพ่อจะไม่รักลูกแล้วทำร้ายร่างกาย
และสำหรับกรณีเรื่องที่เด็กอ้างว่าเจอยาเสพติดภายในบ้าน ตนไม่เคยเห็น ซึ่งไม่รู้ว่าเด็กพูดได้อย่างไร เพราะที่บ้านไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยอมรับว่าแม่จะต้องทานยาเป็นประจำ หลังจากที่ลูกทั้ง 2 คน เสียชีวิต เพราะหมอได้ให้ยาโรคซึมเศร้า และยาแก้อาเจียน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : พ่อน้องลูกครึ่ง กำหนดวันบินด่วน ยื่นสิทธ์นำลูกกลับไปดูแล