หนุ่มป่วยมะเร็งขอบคุณทุกกำลังใจ เล่าผูกพันฟรีคเกอร์

สืบเนื่องจากกรณีที่ชาวเน็ตได้มีการแชร์เรื่องราวเศร้าปนซึ้งระหว่างเจ้าของและตูบ 4 ขา เนื่องด้วยเจ้าของป่วยด้วยโรคมะเร็ง หวั่นใจว่าจะไม่มีใครดูแลสุนัขที่เขาเลี้ยงไว้ จึงได้นำไปฝากเลี้ยงกับคนที่ไว้ใจ แต่ปรากฏว่าสุนัขตัวดังกล่าวยังคงรอคอยให้เจ้าของกลับมารับไปอยู่ด้วยกัน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  -หนุ่มป่วยห่วงสุนัขที่เลี้ยงไว้ พาไปฝากให้คนดูแล

 

 

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่เรื่องดังกล่าวมีการแชร์ออกไปอย่างมากในโลกโซเชียลชายเจ้าของสุนัขได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "" ว่า...ขอขอบพระคุณในทุกกำลังใจครับ เรื่องตัวผมไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมว่าผมยังมีกรรมอีกเยอะที่ต้องอยู่ชดใช้ อันที่จริงผมไม่ค่อยได้บอกเรื่องนี้กับใคร ผมต่อสู้กับโรคนี้มานานมาก แต่ช่วงนี้อาการมันกำเริบมากขึ้น ก็เลยกังวลเรื่องของเด็ก ๆ ที่ผมดูแลอยู่ว่าถ้าผมอาการหนักขึ้นแล้วพวกมันจะอยู่กันยังไง ไหนจะต้องรักษาไหนจะต้องทำงานหาเงิน จะเอาเวลาที่ไหนมาให้พวกมัน 

 

 

 

ก็เลยพยายามหาบ้านที่ดีให้กับพวกมันโดยติดต่อไปที่โก๋บอล และก็ไม่คิดว่าโก๋บอลจะโพสต์เรื่องนี้ และไหลไปเร็วมากจนรับสายไม่ทันตอบแมสเซนเจอร์ไม่หมดสักที นักข่าวโทรมาอีก เฮ่อ! พระเจ้า ตั้งตัวไม่ทันเลยครับ สรุปเอาเป็นว่าผมให้ "Freaker" เป็นคนเลือกนายใหม่ด้วยตัวมันเองดีกว่าครับ ใครคิดว่าพร้อมมาหาผมที่บ้านเลยครับ ถ้ามันยอมให้คุณจูง ผมก็โอเคแล้วครับ ฟรีคมันเป็นหมาที่ไม่เคยกัดใครครับ แต่มันค่อนข้างหวงตัว ไม่ค่อยให้ใครจับ ผมปล่อยมันวิ่งเล่นที่ตลาดเช้าในหมู่บ้าน มันก็เล่นกับขวดน้ำของมัน วิ่งไปวิ่งมาไม่ยุ่งกะใคร 

 

 

เคยโดนชิวาว่าวิ่งมากัด มันก็วิ่งหนีมาฟ้องพ่อ ผมบอกมันว่าห้ามกัดน้องนะมันก็ไม่กัดแล้วก็นั่งอยู่ข้างผม รอชิวาว่ากลับไป แล้วมันก็วิ่งเล่นต่อ ลองมาดูครับ มาทำความรู้จักกับมันก่อน ผมไม่กล้าตัดสินใจแทนมันแล้วครับ ขอบพระคุณครับ ปล.ไม่รับบริจาคนะครับ ถ้าอยากทำบุญเด่วมาร่วมสร้างบล็อกหล่อพระพุทธรูปหน้าตัก 10 เมตรกัน รายละเอียดจะลงให้ทีหลังครับ

 

พร้อมทั้งอีกข้อความว่า...ชั่วข้ามคืนผมมีเพื่อนเพิ่มอีกหลายร้อย ดีใจที่ยังเห็นน้ำใจของคนไทยที่มีให้กัน ผมขอประกาศให้ทราบเลย ดังนี้

 

1. ผมยังแข็งแรงดียังวิ่งยังปั่นจักรยานยังตีกอล์ฟยังออกกำลังกายวิดพื้น ซิทอัพได้

 

2.ผมเข้าใจในชีวิต มันเป็นวิบากกรรมที่เราทุกคนต้องเจอ ผมไม่เคยกลัวตาย ผมถูกสอนมาว่า "การกลัวที่งี่เง่าที่สุดคือการกลัวตาย" เพราะทุกคนก็รู้อยู่ว่าเกิดมาแล้วต้องตาย เพียงแต่ตอนที่มีชีวิตอยู่คุณต้องทำอะไรบ้างอย่างไร?

 

3.ที่ผมพยายามหาบ้านที่ดีให้กับฟรีคเกอร์ เพราะผมรู้ตัวว่าผมต้องเจอกับอะไร ผมต้องออกไปทำงานหาเงินเพื่อต่อสู้ชีวิตต่อไป
ผมก็เสียใจมากถ้าต้องจากมันไป แต่ก็ดีกว่าให้มันอยู่บ้านตัวเดียว เหงาและก็เห่าเรียกผมอย่างบ้าคลั่ง (เห่าไม่หยุด) เสียงดังมากและชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ เดือดร้อน ฟรีคเกอร์เป็นหมาที่ติดคนมาก ชอบนอนอยู่ใกล้ ๆ คน ชอบให้กอดให้หอม (เอาจมูกชนกัน) ชอบให้พาออกไปเดินเล่นทุกเช้าเย็น แต่มันก็เป็นหมาที่เลือกคนที่จะเล่นด้วยหรือยอมให้จูง ผมกับมันรักกันมาก แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกทางเดินชีวิตก็ต้องตัดสินใจเลือก ไม่งั้นเราคงอดตายทั้งคู่ ถ้ามันได้บ้านที่ดีสำหรับมัน ผมก็ยังไปเยี่ยมหามันได้

 

4.ผมไม่รับบริจาค ผมไม่ใช่ผู้ป่วยติดเตียง ผมยังมีแรงที่จะออกไปทำมาหากินหาเงินมารักษาตัวเองได้

 

5.กรุณาอย่าเอาเรื่องของผมมาเป็นเครื่องมือหากินหรือเครื่องมือทางการตลาดของคุณเลยครับ ผมขอหล่ะ!

 

***ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะโพสต์บอกนะครับ ขอโทษที่ตอบแมสเซนเจอร์ไม่หมด เพราะเข้ามาหลายร้อยข้อความ แต่ถ้ามีเวลาผมจะทักกลับไปนะครับ #ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคนไทยที่มีให้กันครับ

 

ขอบคุณ : Sibtis Chiraphun