เสี่ยเบนซ์โดน3 ข้อหา

จากกรณีเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ศาลาแดง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ บริเวณใกล้เคียงซอยทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก 10 เบื้องต้นพบรถยนต์ซูซูกิสวิฟ สีขาว เฉี่ยวชนประสานงากับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น E250 สีบรอนซ์เงิน โดยพบมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน ติดอยู่ภายในรถยนต์ซูซูกิ ทราบชื่อต่อมา คือ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล อายุ 48 ปี ตำแหน่ง รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 บก.ป.

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รองผกก.กองปราบฯถูกเสี่ยใหญ่เมาปลิ้นซิ่งเบนซ์ชนสลดพร้อมภรรยา ลูกสาวสาหัส

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่านางนุชนาถ อายุ 44 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต และ ลูกสาววัย 16 ปี ซึ่งโดยสารมาด้วยกันได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนขับขี่รถเบนซ์คันหรู ทราบชื่อคือ นายสมชาย อายุ 57 ปี เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทประกอบกิจการด้านผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์แห่งหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน

 

จากการตรวจสอบพบ นายสมชาย มีสภาพมึนเมาระหว่างเกิดเหตุ โดยเมื่อตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ พบว่ามีค่าสูงถึง 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเกินจากระดับที่กฎหมายกำหนดที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยล่าสุดพบว่าผู้ขับขี่เริ่มมีสติกลับคืนมา สามารถให้การกับตำรวจได้ โดยหลังจากนี้ ทางพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหากับนายสมชายต่อไป โดยนางนุชนาถ ภรรยาของ พ.ต.ท.จตุพร ได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังเข้ารักษาที่โรงพยาบาลวิชัยเวช 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เสี่ยเบนซ์เมาขับพุ่งชนรองผกก.กองปราบเสียชีวิตเริ่มสร่างแล้ว คำพูดแรกทำจุกอกไม่รู้เกิดอะไรขึ้น (คลิป)

 

ล่าสุดทางด้านพลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ทำการสอบปากคำนักธุรกิจ ผู้ก่อเหตุขับรถเบนซ์ชนกับรถยนต์เก๋งของตำรวจกองปราบปราม เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาด้วยตัวเอง  เพราะถือเป็นคดีสำคัญและเป็นคดีแรกที่ผู้กระทำผิด เมาแล้วขับรถ จะถูกแจ้งข้อหาหนัก  เพราะมีพฤติกรรมเมา เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต  

 

 

 

พลตำรวจเอกวิระชัย เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การเบื้องต้นว่ ก่อนเกิดเหตุ  ประมาณ 5 ทุ่ม  ระหว่างตีกอล์ฟ ได้ดื่มเบียร์ไปประมาณ 5 ขวด ซึ่งยอมรับว่า รู้สึกมึนเมาจึงขับรถกลับบ้าน ซึ่งห่างจากสนามกอล์ฟ ประมาณ 2 กิโลเมตร  ซึ่งไม่สามารถจำภาพเหตุการณ์ระหว่างนั้นได้ รู้สติอีกครั้ง

 

เมื่อถุงลมนิรภัยกระแทกเข้าที่ใบหน้า  ซึ่งนี่เป็นพฤติกรรมที่บ่งบอกได้ว่า ผู้ก่อเหตุขับรถโดยที่รู้ตัวอยู่แล้วว่า ไม่มีศักยภาพ ไม่สติ ในการขับขี่ยานพาหนะ แต่ยังฝืนขับรถกระทั่ง มาชนเข้ากับรถยนต์ ของผู้อื่น และ มีผู้เสียชีวิต 2 คน  บาดเจ็บสาหัส 1 คน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่พนักวานสอบสวนจะใช้ประกอบการแจ้งข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดแฟ้มทำงาน รองผกก.กองปราบโดนเสี่ยเมาซิ่งเบนซ์ชนดับ รับผิดชอบคดีสำคัญ ภรรยาผู้กองวัชรินทร์เพิ่งมาร้องทุกข์