- 16 เม.ย. 2562
แม่ของน้องเอเดน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก MoChitlada Ekprasertkul ระลึกถึงน้องเอเดน
จากกรณีที่โลกออนไลน์แชร์เรื่องราวของสมาชิกเฟซบุ๊ก Mo’Chitlada Ekprasertkul ได้โพสต์เรื่องราวของ น้องเอเดน ลูกชายวัย 4 เดือน ที่ป่วยด้วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิด ซึ่งจะต้องใช้เงินค่ารักษาพยาบาลด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกสันหลังกว่า 1 ล้านบาท โดยตอนนี้ทางโรงพยาบาลยังไม่สามารถรับเคสการรักษาดังกล่าวได้ เพราะทางครอบครัวมีเงินไม่เพียงพอ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2561 ที่ผ่านมา
ต่อมาแม่น้องเอเดน ได้อัพเดทเรื่องราวเศร้า ผ่านทางเฟซบุ๊ก Mo’Chitlada Ekprasertkul บอกข่าวร้ายว่าลูกชายของตนเองได้เสียชีวิตลงแล้ว ระบุว่า "บันทึกวันที่ 72 ในห้อง ICU #อาการน้องเอเดน #ปอดติดเชื้อรอบ2 04.45 น้องเอเดนจากเราไปอย่างสงบ พ่อกับแม่รักหนูตลอดไปนะครับ เอเดนคนเก่งของแม่ ปิดบันทึก #alwaysfight #น้องเอเดนลูกแม่โมพ่อนก"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : พ่อแม่ "น้องเอเดน" โพสต์ข่าวเศร้า ลูกชายจากไปอย่างสงบ หลังสู้รักษาโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องกว่า 1 ปี
โดยแม่น้องเอเดน ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Mo’Chitlada Ekprasertkul ได้โพสต์ภาพ ขณะเดินทางไปยังสุสาน เพื่อหาบ้านหลังใหม่ให้ลูกชาย พร้อมเขียนข้อความบรรยายว่า "มาดูบ้านใหม่ให้เอเดน สวยจังเลยครับ อีกสองวันหนูก็จะได้ย้ายมาอยู่แล้ว ปล.โมขอเชิญทุกคนที่เอ็นดูน้อง และคอยให้กำลังใจน้องมาตลอด มาร่วมส่งน้องเป็นครั้งสุดท้ายตามกำหนดการที่โมแจ้งไว้นะคะ
ทั้งนี้ชาวโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ว่าน้องเอเดน ได้จากไปอย่างสบายแล้ว น้องไม่ต้องเจ็บปวด และขอให้กำลังใจคุณพ่อ คุณแม่ ที่สูญเสียลูกชายในวัยที่ยังเด็กมากๆ นอกจากนี้หลายคนยังชื่นชมด้วยว่า แม้จะเสียใจแทบใจจะขาด แต่คุณพ่อ คุณแม่ของน้องก็ยังยิ้มสู้
และในวันที่พาร่างของน้องไปฝังที่สุสาน แม่น้องเอเดน ได้โพสต์ข้อความบันทึกอาลัยลูกน้อย เราเชื่อว่า น้องเอเดนเกิดมาพร้อมภารกิจบางอย่าง ภารกิจในการบอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดปฐมภูมิ (โดยเฉพาะโรค SCID) ให้คนอื่นได้รู้ การบอกเล่าของน้องไม่ได้เล่าในรูปแบบของการทนทุกข์ทรมานจากความร้ายแรงของโรค ที่โดยปกติแล้ว ถ้าว่ากันตามตรง โรคนี้อันตรายมากๆ เพราะใครที่เป็นโรคนี้ จะไม่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายมาคอยป้องกันเชื้อโรคต่างๆเลย พร้อมจะป่วยตลอดเวลา และเมื่อป่วยแล้วจะรุนแรง และหายช้ากว่าคนปกติมาก
บันทึกอาการน้องเอเดนใน ICU ที่ผ่านมาของโม เป็นเครื่องยืนยันสิ่งนี้ได้ดีที่สุด แต่ตลอดชีวิตของน้องเอเดน น้องไม่เคยแสดงให้เราเห็นถึงความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมานเลย กลับกัน น้องมีแต่รอยยิ้ม ยิ้มในแบบที่แม้แต่โมกับพี่นกยังคาดไม่ถึง ยิ้มสู้ทุกสิ่งที่ต้องเจอ ป่วยหนักแค่ไหนก็ยิ้มได้ แม้แต่การโดนเจาะคอเพื่อช่วยหายใจ น้องก็ยังยิ้มได้ ซึ่งนี่เป็นกำลังใจสำคัญให้โมกับพี่นกในการดูแลน้องตลอดมา เราสองคนคุยกันเสมอว่า เราจะพยายามไม่เศร้าให้ลูกเห็น ลูกเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเราในการยิ้มสู้ทุกอุปสรรค ลูกเฝ้ามองเราอยู่ เราจะเศร้ามากไม่ได้ รอยยิ้มเท่านั้น ที่น้องเอเดนชอบ
อ่านข่าว : พ่อแม่ "น้องเอเดน" เขียนบันทึกอาลัยรัก ลูกชายวัย 1 ขวบ ยิ้มสู้รักษาอาการป่วยจนนาทีสุดท้าย
ล่าสุดแม่โม แม่ของน้องเอเดน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Mo'Chitlada Ekprasertkul ระลึกถึงน้องเอเดน ระบุว่า "เราโชคดีกว่าใครหลายๆคน ที่รู้ว่าคนที่เรารักจะจากเราไปเมื่อไหร่ เราได้รู้ล่วงหน้า เราได้มีเวลาทำสิ่งที่เราอยากทำ เราได้ทำให้เวลาอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ ทำให้คนที่เรารักมีความสุขจนถึงวันสุดท้ายของเค้า
เท่านี้โมว่าเราก็โชคดีมากๆ แล้วนะคะ ปล.โมขอให้กำลังใจคุณแม่คนนึงและใครหลายๆคนที่กำลังเจอเรื่องร้ายนี้ ให้ทำใจยอมรับความเป็นจริง และอยู่กับมันให้คุ้มค่ามากที่สุด สุดท้ายแล้วผลจะเป็นยังไงโมเชื่อว่าคุณจะไม่เสียดายเวลาเหล่านั้นเลย #น้องเอเดนลูกแม่โมพ่อนก"
ทำให้มีบรรดาชาวโซเชียลที่ติดตามเรื่องราวของน้องเอเดน เข้ามาให้กำลังใจพ่อและแม่ของน้อง อีกทั้งยังนำเรื่องราวนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองมีแรงสู้ต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : คลิปแม่ "น้องเอเดน" เล่านิทานเล่มโปรดให้ลูกชายฟัง
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Mo’Chitlada Ekprasertkul