- 18 เม.ย. 2562
จากกรณีชาวต่างชาติและภรรยาชาวไทยสร้างบ้านลอยน้ำกลางทะเลไทย โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพาเขากลับสหรัฐ และขอให้ภรรยาได้รับการลี้ภัยด้วย เนื่องจากถูกทางการไทยติดตามไล่ล่าตัว ทั้งที่ไม่มีความผิด ล่าสุด นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยืนยันการกระทำของสามีภรรยาคู่นี้มีความผิดตามกฎหมายไทยหลายฉบับ และยังถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ
จากกรณีชาวต่างชาติและภรรยาชาวไทยสร้างบ้านลอยน้ำกลางทะเลไทย โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพาเขากลับสหรัฐ และขอให้ภรรยาได้รับการลี้ภัยด้วย เนื่องจากถูกทางการไทยติดตามไล่ล่าตัว ทั้งที่ไม่มีความผิด ล่าสุด นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยืนยันการกระทำของสามีภรรยาคู่นี้มีความผิดตามกฎหมายไทยหลายฉบับ และยังถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ
โดย 2 สามีภรรยาเข้าไปอยู่ในบ้านลอยน้ำตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งการสร้างบ้านหลังนี้ไม่ได้ทำเรื่องขออนุญาตจากรัฐบาลไทย เพราะอ้างว่าไม่ได้ทำอะไรที่ต้องห้าม แต่ถ้าหากรัฐบาลไทยมีความกังวลก็ยินดีจะทำตามกฎหมาย แต่ต้องเป็นกฎหมายสากล
ทั้งนี้ชายต่างชาติ และภรรยาชาวไทย สมาชิกกลุ่ม Sea-steading ที่ได้สร้างบ้านลอยน้ำนอกชายฝั่ง ห่างจากเกาะราชา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ประมาณ 12 ไมล์ทะเล ซึ่งตามากองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.เขต 3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านกลางทะเลแล้ว พบว่า บ้านลอยน้ำขนาด 3 คูณ 3 กีดขวางเส้นทางเดินเรือ ทั้งเหนือเเนวน้ำเเละใต้เเนวน้ำ จนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการเดินเรือของเรือชนิดต่าง เนื่องจากสิ่งก่อสร้างนั้นไม่มีอุปกรณ์เตือนภัยใดๆ ในการเเจ้งบอกเรือที่สัญจรไป-มา
อีกทั้ง ยังตั้งอยูในเขตพื้นที่บริเวณเขตต่อเนื่อง 24 ไมล์ทะเลจากฝั่ง และผู้ที่จะดำเนินการก่อสร้างใดๆ ในพื้นที่ จะต้องขออนุญาตก่อน แต่พบว่าสองสามีภรรยาไม่ได้ขออนุญาต ซ้ำยังเชิญชวนให้กลุ่มที่มีความใจเข้ามาพัก หรือ สร้างสิ่งก่อสร้างลักษณะเดียวกันเพิ่มเติม
ทางกองทัพเรือทางทัพเรือภาคที่ 3 ผู้ดูแลพื้นที่ จึงได้ส่งทหารพระธรรมนูญ แจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.วิชิต ในมาตรา 119 เนื่องจากกระทบต่ออธิปไตยไทย และขัดต่ออนุสัญญากฎหมายทะเล คศ. 1982 โดยจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากทะเลในเร็วๆนี้
ล่าสุด พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง ผกก.ตม.ภูเก็ต เปิดเผยว่า สามีชายชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาในไทย โดยยื่นวีซ่าชั่วคราว 90 วัน ซึ่งยังไม่หมดอายุ แต่หลังจากตรวจพบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ตม.ภูเก็ต ก็ได้เพิกถอนวีซ่าทันที และลงบันทึกในบัญชีบุคคลต้องห้าม ขณะที่สองสามีภรรยา ได้อ้างกับสื่อต่างชาติว่าอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมของทางการไทย
ในขณะที่ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยืนยันการกระทำของสามีภรรยาคู่นี้มีความผิดตามกฎหมายไทยหลายฉบับ และยังถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ
ดังนั้น ทางการไทยต้องดำเนินคดีกับทั้งคู่ เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมชี้แจงข้อเท็จจริงกับสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบข้อเท็จจริง ย้ำทุกหน่วยงานดำเนินการกับคดีนี้ตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง หรือทำเกินกว่าเหตุแต่อย่างใด และล่าสุดตำรวจกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อขอศาลออกหมายจับ และขยายผลหาผู้ร่วมโครงการซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ด้านสำนักข่าว ดับเบิลยูเอ็กซ์วายซี (WXYZ) ของเมืองดีทรอยต์ ในรัฐมิชิแกนสหรัฐฯ รายงานว่า นาย แชด เอลวาร์ตอฟสกี และแฟนชาวไทยของเขาคือน.ส. สุปราณี เทพเดช หรือ นาเดีย ยืนยันว่าพวกเขากำลังหลบหนีจากตำรวจในประเทศไทย หลังจากถูกรัฐบาลกล่าวหาว่า พยายามอ้างความเป็นเจ้าของน่านน้ำของไทย ด้วยการสร้าง ‘ซีสเตด’ (seastead) หรือที่พักอาศัยซึ่งตั้งอยู่ในทะเลนอกเขตอำนาจของประเทศใดๆ นอกชายฝั่งเกาะภูเก็ต
ทั้งนี้ นายเอลวาร์ตอฟสกี ระบุในอีเมลที่เขาส่งให้กับช่อง 7 แอคชัน นิวส์ ของดับเบิลยูเอ็กซ์วายซี ว่า ตนเป็นห่วงในชีวิตของตัวเองกับแฟน และตอนนี้พวกเขากำลังหลบซ่อนตัว "ทหารไทยต้องการให้เราตาย วิธีที่พวกเขาใช้ที่นี่คือ สร้างเรื่องราวขึ้นมาในสื่อของพวกเขา และก็เอามันมาใช้ เรื่องราวที่ว่าคือ เราเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ และเราอาจเผชิญโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหาร พวกเขาไม่ต้องการให้เรารอดเพื่อเล่าเรื่องฝั่งเรา"