- 27 เม.ย. 2562
จากกรณีที่เจ้าหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.พนมสารคาม ทหารชุดประสานงานและรักษาความสงบประจำ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำกำลังบุกเข้าทำการจับกุมตัว นายวินัย อายุ 61 ปี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ซ.เกาะบุญนาค ผ่านมาทางอาจารย์ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.พนมสารคาม ว่า ผู้เป็นบิดามีพฤติกรรมในลักษณะกระทำการอนาจารบุตรสาว ซึ่งกำลังเรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 วัย 17 ปี มานานกว่า 4 ปีแล้ว ก่อนที่จะทำการควบคุมตัวนำส่ง ร.ต.อ.สุริยันต์ แก้วพิฑูลย์ พนักงานสอบสวน สภ.พนมสารคาม ให้ทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากกรณีที่เจ้าหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.พนมสารคาม ทหารชุดประสานงานและรักษาความสงบประจำ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำกำลังบุกเข้าทำการจับกุมตัว นายวินัย อายุ 61 ปี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ซ.เกาะบุญนาค ผ่านมาทางอาจารย์ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.พนมสารคาม ว่า ผู้เป็นบิดามีพฤติกรรมในลักษณะกระทำการอนาจารบุตรสาว ซึ่งกำลังเรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 วัย 17 ปี มานานกว่า 4 ปีแล้ว ก่อนที่จะทำการควบคุมตัวนำส่ง ร.ต.อ.สุริยันต์ แก้วพิฑูลย์ พนักงานสอบสวน สภ.พนมสารคาม ให้ทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวินัย ได้ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้กระทำการอนาจารข่มขืนบุตรสาวของตนเองมานานถึงกว่า 4 ปีจริง เริ่มตั้งแต่เมื่อปี 2558 จนมาถูกเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายร่วมกันบุกเข้ามาจับกุมตัวดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า "ข่มขืนกระชำทำเราเด็กซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตนโดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 ,277
กระทั่งต่อมา ร.ต.อ.สุริยันต์ แก้วพิฑูลย์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้ทำการควบคุมตัว นายวินัย ผู้เป็นพ่อที่ก่อเหตุข่มขืนลูกสาววัย 17 ของตัวเอง ออกจากห้องขัง สภ.พนมสารคาม เดินทางไปยังที่บ้าน ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทร เพื่อชี้จุดเกิดเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หน้าซีดคอตก ตร.เพิ่มขัอหาหนักพ่อบังเกิดเกล้า ขืนใจบุตรสาวนาน 4 ปี แม่บินด่วนจากตปท.มารับลูก
ขณะเดียวกันจากการสอบสวน นายวินัย อย่างละเอียดของพนักงานสอบสวนทราบว่า สาเหตุที่เป็นฉนวนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เกินกว่าสังคมจะยอมรับได้ในครั้งนี้ เกิดจากครอบครัวแตกแยก โดยนายวินัยบอกว่า ได้ถูกภรรยาทิ้งแยกทางกันแล้วหนีไปอยู่ยังที่ต่างประเทศ ส่วนตนเองนั้นอาศัยอยู่กับบุตรสาวแต่เพียงลำพัง มาตั้งแต่เมื่อปี 2558 จนทำให้เกิดความใกล้ชิดกันมากระหว่างพ่อกับลูก
และทราบว่าบุตรสาวกำลังมีพฤติกรรมไปในทางที่ไม่ดี ในวันเกิดเหตุนั้นได้ดื่มสุราก่อนที่จะมีอะไรกันด้วยความสมยอมเต็มใจของบุตรสาวเมื่อปี 2558 โดยจะมีกิจกรรมร่วมกันเฉพาะในวันที่บุตรสาวมีความต้องการเท่านั้น โดยที่ผู้เป็นพ่อไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ตามใจชอบ จึงทำตามใจบุตรสาวเมื่อมีความต้องการในลักษณะปล่อยเลยตามเลยเรื่อยมา
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 เม.ย.62 ที่ผ่านมา ผู้เป็นพ่อสังเกตเห็นว่าบุตรสาวมีพฤติกรรมออกห่าง และทราบว่าบุตรสาวนั้นมีแฟนแล้วจึงเริ่มมีพฤติกรรมจะตีจาก ก่อนที่จะนอนพุดคุยกันอยู่ในห้องภายในบ้านพัก โดยฝ่ายผู้เป็นพ่อได้ขู่ว่าได้ทำการใช้กล้องวงจรปิดถ่ายคลิปถ่ายภาพเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างกันไว้แบล็กเมล์แล้วหากบุตรสาวคิดจะมีผู้ชายคนใหม่ ทั้งที่ผู้เป็นพ่อเคยบอกว่าหากบุตรสาวจะมีแฟนมีครอบครัวก็ขอให้บอก
ในระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอยู่ภายในห้องที่บ้านพักนั้น แฟนหนุ่มของบุตรสาวได้เข้ามาแอบฟังจนทราบเรื่องราวทั้งหมด จากนั้นจึงได้วางแผนที่จะหาทางให้ผู้เป็นพ่อออกไปจากชีวิต ด้วยการให้พลเมืองดีโทรศัพท์ไปร้องขอความช่วยเหลือต่อทางหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จนมีเจ้าหน้าที่ พม.เข้ามารับตัวเด็กสาววัย 17 ปีไปทำการสอบสวนบันทึกปากคำไว้
ก่อนที่จะมีการประสานงานและสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายบุกเข้าดำเนินการจับกุมตัวนายวินัยเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ที่บ้านพักและถูกนำตัวมาส่งให้ ร.ต.อ.สุริยันต์ แก้วพิฑูลย์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม ทำการสอบสวนดำเนินคดีใน 2 ข้อหาหนักในที่สุด แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำให้การของนายวินัย แต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
สำหรับเรื่องแผ่นซีดีลามกอนาจารที่พบเป็นจำนวนมากนั้น นายวินัย อ้างว่าชอบสะสมเก็บไว้มาตั้งแต่เมื่อสมัยยังหนุ่มจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบภายในบ้านเป็นจำนวนมากดังกล่าว ส่วนในเมมโมรี่การ์ดโทรศัพท์มือถือนั้น ยังไม่พบคลิปลามกอนาจารหรือภาพที่ถ่ายไว้แบล็กเมล์แต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ตามสื่อต่างๆ ที่ตรวจยึดมาได้ต่อไป