- 03 พ.ค. 2562
เมื่อหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการให้เลือดด้วยนั้น
ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนใจใครหลายๆ คน สำหรับการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการให้เลือดด้วยนั้น ปรากฎว่าเวลาผ่านไป หนุ่มรายนี้เพิ่งรู้ตัวว่าติดเชื้อเอชไอวี
ล่าสุดคุณแม่ของหนุ่มคนนี้ ได้พาลูกชายมาออกรายการแฉ ทางช่อง GMM25 เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคุณรัตตินันท์ จิน แม่พร้อม ลูกชาย ลูกครึ่งญี่ปุ่น วัย 24 ปี และครอบครัว ได้เล่าถึงเหตุการณ์พลิกชีวิตครอบครัว โดยแม่บอกว่า ลูกชายป่วย โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือ ลูคีเมีย ตั้งแต่ 9 ขวบ พาไปรักษาที่รพ. หมดค่ารักษาไปเกือบ 7 ล้านแล้ว หมอทำคีโม ปกติ แต่ลูก เม็ดเลือดขาวต่ำ ต้องให้เกล็ดเลือดเพิ่มเลือด
โดยจะทำ 14 ครั้ง ครบคอร์ส จนให้เลือด ถุงที่ 12 ลูกมีอาการทรุด ไข้ขึ้น ยิ่งทรุดลง ผอม พาไปรพ. ต้องอยู่ห้องปลอดเชื้อ หมอบอกลูกมีวัณโรคแทรก รักษาวัณโรค 6 เดือน จนหาย แล้วหมอที่รักษาประจำ ก็มาถามว่า พ่อแม่มีเชื้อ HIV มั้ย แม่ตกใจ เราไม่มีเชื้อ อยู่แล้ว รพ.ก็เรียกประชุม เรียกทนายมา เราไม่อยากเอาความ แต่อยากให้ดูแลลูกให้ดี
ขณะที่ทางด้านพี่ชาย บอกว่ารู้สึกแย่ ไม่อยากฟ้องรพ. หรือ เอาเงิน เรายอมปิดเรื่องนี้ โดยตอนคุยกัน มีคนของสภากาชาด รพ. มาคุย บอกจะรักษาน้องตลอดชีวิต รับผิดชอบทุกอย่าง เราก็ยอม ไม่ติดใจอะไรต่อ เพียงแต่ไม่ให้น้องรู้เรื่อง ก็ไม่ได้ทำสัญญาเป็นเอกสารอะไรกับรพ. ก็ตกลงกันเท่านั้น
แม่และพี่ชายปิดเรื่องเป็นความลับมานาน เพิ่งบอกน้องเมื่อก่อนเข้ารายการ ซึ่งแม่ก็ร้องไห้ ไม่กล้าบอกลูก กลัวลูกคิดสั้น ฆ่าตัวตาย ซึ่งทางฝั่งลูกชาย ก็ถึงกับร่ำไห้ บอกว่า ผมรู้ว่า ผมต้องมีอะไรผิดปกติ เพราะพฤติกรรมครอบครัวผมเปลี่ยนไปหมด คิดว่า เขารังเกียจผม เคยคิดจะฆ่าตัวตาย รู้มาตลอด เอะใจมาตลอด ไม่กล้าถาม จะหนีด้วยการเล่นเกม ฟังเพลง ดูหนัง คุยกับเพื่อน
หลังพบว่าติดเชื้อ รพ.ก็รักษาตามอาการ และลูกก็ใช้ประกันทางญี่ปุ่น ปีละ 7 แสน เนื่องจากพ่อของน้อง ทำงานบริษัทญี่ปุ่น มีประกันให้ครอบครัว แต่เมื่อบริษัทประกันรู้ ก็ไม่รับประกันให้อีก จากที่ครอบครัวเคยมี ตอนนี้เกิดปัญหา พ่อเขาไปทำงานที่เวียดนาม 3 ปี ขาดการติดต่อไปเลย จากที่ก่อนหน้านี้แต่งงานมา 22 ปี อยู่ที่ญี่ปุ่นกัน
นอกจากนี้พี่ชายยังเล่าอีกว่า มีช่วงที่ไม่ได้ไปรักษาที่รพ. พอตอนนี้ ไปรพ. ทางรพ. กลับบอกว่า ต้องไปหาประวัติมา เพราะเปลี่ยน ผอ. แล้ว ไม่มีประวัติคนไข้ ขาดการรักษาต่อเนื่อง ซึ่งที่หายไป รักษาสมุนไพร 2-3 ปี เพราะทานยารพ. แล้ว มีผลข้างเคียงมาก
รพ. บอกให้ไปเอาเอกสารมา ซึ่งเราไม่มี เพราะเรายอมตามที่ รพ. บอกว่าจะรับผิดชอบ ก็ไม่ได้ทำสัญญาตกลงอะไรกัน ตอนนี้ รพ. กลับบอกให้ไปรักษา 30 บาท ถ้าไม่ไหว ยังไงค่อยมาที่รพ.
อยากให้รพ.กลับมารักษา เพราะน้องควรได้เรียนสูงกว่านี้ ครอบครัวเคยยื่นข้อเสนอ ให้รักษา HIV เพราะหากครอบครัวเราไม่อยู่ น้องจะอยู่ยังไงต่อ อยากให้เขามีเงินช่วยดำรงชีพต่อเดือน เขามีความสามารถพูดภาษาญี่ปุ่น มีงานให้เขาทำที่รพ.ได้
อย่างไรก็ตามหนุ่มคนนี้ยังบอกทิ้งท้ายด้วยว่า อยากให้รพ.รับผิดชอบมากกว่านี้ ขณะที่คุณแม่ ฝากว่า ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ ไปเกิดกับลูกของคนอื่นอีก
ขอบคุณรายการ : แฉ ช่อง GMM25