ตร.ควบคุมตัวหนุ่มใหญ่ที่ทิ้งร่าง น้องวัฒน์ ไว้ในสวนปาล์มแล้ว

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊กชื่อ ผ้าขอนม้า ทีวี ได้โพสต์เหตุการณ์อันสะเทือนขวัญว่า "#ทุบฆ่าโหดหนุ่มวัย 17 ทิ้งสวนปาล์มอำพรางคดี !! ตร.สภ.บ้านแพง จ.นครพนม จนท.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นครพนม แพทย์เวร รพ.บ้านแพง ชันสูตรศพนายธีระวัฒน์ ประเสริฐศรี วัย 17 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต สวมเสื้อสีน้ำเงินกีฬาของโรงเรียนแห่งหนึ่ง สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกยิงที่ท้ายทอย กระสุนทะลุหัวคิ้วซ้าย 1 นัด บริเวณที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้

โดยเหตุเกิดที่คลองสวนปาล์ม บ.คำนกกก หมู่ 1 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง ห่างจาก บ.นานอ บ้านผู้ตาย 3 ก.ม. หลังญาติบอกว่าผู้ตายจะไปหานายปาน เพื่อนรุ่นพี่ที่บริเวณดังกล่าวแต่ไม่พบ จึงจอดรถ จยย.ฝากไว้ที่กระต๊อบนาเพื่อนบ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุ 300 เมตร

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มวัย 17 ถูกฆ่าทุบหัว ทิ้งศพสวนปาล์มอำพรางคดี คำพูดสุดท้ายบอกญาติไปหารุ่นพี่

 

 

จากการสอบสวนแม่ผู้ตาย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 2 ทุ่ม ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน โดยบอกว่าจะไปพบกับนายปาน อายุประมาณ 30 ปี เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เคยไปมาหาสู่กันที่สวนปาล์มเป็นประจำ แล้วก็ไม่กลับมาที่บ้าน จนเช้าวันรุ่งขึ้น ผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายว่า มีคนถูกฆ่าตาย จึงรีบไปดูศพพบว่าเป็นลูกชายตนเอง

 

หลังจากพระสวดมาติกาบังสุกุลเสร็จก็เริ่มจุดไฟเผาบนกองฟอน นางตุ๊ ราชรามทอง มารดาของผู้ตายถึงกับปล่อยโฮหลั่งน้ำตาร่ำไห้ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาลงโทษโดยเร็ว และตนอยากจะถามเขาว่า "ฆ่าลูกฉันทำไม?"

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เสียงแม่หนุ่มวัย 17 โดนทุบหัว ตะโกนลั่นตอนเคลื่อนศพ  ตร.นครพนมสอบเครียดเพื่อนรุ่นพี่

 

 

 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.เกียรติปกรณ์  ศิริวงศ์ ผกก.สภ.บ้านแพง  พร้อมด้วยทีมชุดสืบสวนได้เร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อติดตามคนร้าย มาดำเนินคดี  เบื้องต้นมุ่งประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งในกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากเคยมีข้อมูล ทะเลาะวิวาทกันมาก่อน  ไปจนถึงขัดแย้งชู้สาว รวมถึงปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยได้มีการควบคุมตัว นายปาน ซึ่งเป็นเพื่อนคนสนิทนอกจากนี้ยังได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย อีก 2 ราย เพื่อนสนิท ที่มีพยานระบุว่า พบเห็นอยู่ด้วยกันก่อนเกิดเหตุ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :  ตร.คุม 2 เพื่อนสนิทหนุ่มนครพนมวัยแค่ 17 ปี เค้นสอบปมสังหาร  เจอแผลบนหัวเป็นรอยกระสุน จ่อยิงจากท้ายทอย
 

ล่าสุดพล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.สส.ภาค 4 พ.ต.อ.ณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภาค 4 พ.ต.อ.เกียรติปกรณ์ รวมวงศ์ ผกก.สภ.บ้านแพง พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชารี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านแพง ได้นำตัวนายพหล หรือ หอน วัย 58 ปี อาชีพค้าโค-กระบือ ชาว ต.หนองแวง อ.บ้านแพง ผู้ต้องหา หลังร่วมกันก่อเหตุกับนายเดชอุดม วะสารชัย อายุ 52 ปี ชาวบ้านคำนกกก หมู่ 2 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม มาสอบปากคำเคร่งอย่างเครียด ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง

 

 

หลังร่วมกันก่อเหตุฆ่านายจีระวัฒน์ หรือ วัฒน์ จนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. เวลาประมาณ 21.00-05.00 น.วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะหลบหนี กระทั่งเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีภรรยานายหอนและทนาย มาร่วมรับฟังการสอบปากคำเบื้องต้นด้วย

 

 

เบื้องต้นนายหอน รับสารภาพว่า วันเกิดเหตุเวลา 21.00 น. วันที่ 30 เม.ย. นายเดชอุดม ได้แวะมาหาที่บ้านพัก ให้ตนช่วยขับรถ จยย.ไปหานายปาน เพื่อทวงหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจมืดจำนวน 8 พันบาท ที่นายปานค้างไว้นานหลายเดือนแล้ว เมื่อขับรถไปถึงก็เดินเข้าไปที่กระต๊อบเถียงนา ไปเจอน้องวัฒน์ผู้ตายพอดีซึ่งได้นำรถ จยย.ของตนเองมาฝากไว้ นายเดชอุดมจึงถามว่านายปานไปไหน ผู้ตายจึงถามมีธุระอะไรจะคุยด้วย น้องวัฒน์บอกว่าจะพาไปหานายปาน แต่ไม่พบเพราะนายปานไปหาแมงกระซอน

 

 

 

นอกจากนี้ นายหอน กล่าวต่ออีกว่า ระหว่างที่เดินไปนายเดชอุดมบ่นว่านายปานเป็นหนี้แล้วไม่จ่าย ต้องสั่งสอน ผู้ตายทราบว่านายเดชอุดมจะไปทำร้ายนายปาน จึงเปลี่ยนใจไม่พาไป นายเดชอุดมจึงควักปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิงน้องวัฒน์ที่ท้ายทอย 1 นัด คว่ำคะมำตกร่องน้ำเสียชีวิต ตนเดินตามมาด้านหลังจึงตกใจ บอกกับนายเดชอุดม มือปืนว่าทำไมถึงทำกันขนาดนี้ ยิงคนเหมือนผักเหมือนปลา นายเดชอุดม มือปืนไม่ยอมตอบ ก่อนหันหลังกลับไปที่รถ จยย .ริมถนน โดยนายเดชอุดมขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สกรู๊ปปี้สีครีมของนายหอน ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้าน

 

 

“จากนั้นตนได้เล่าให้ภรรยาฟังว่านายเดชอุดม ไปฆ่าคนตาย แต่ก็ไม่กล้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะกลัวนายเดชอุดมมาฆ่าเนื่องจากนายเดชอุดม ข่มขู่ไว้แล้ว กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวมาสอบสวน จึงกล้าที่จะพูดความจริงเปิดปากสารภาพเรื่องจริงที่เกิดขึ้น” นายหอนกล่าว

 

 

ส่วนนายเดชอุดม มือปืน ที่ถูกแยกสอบอีกห้องอย่างเคร่งเครียด เบื้องต้นนายเดชอุดม ก่อเหตุลงมือฆ่าน้องวัฒน์จริง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปตรวจค้นที่บ้านพบยาบ้าจำนวนหนึ่ง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ระหว่างที่นำตัวนายเดชอุดม กลับมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.บ้านแพง นายเดชอุดมกลับพลิกลิ้น ปฏิเสธว่าไม่ได้ลงมือฆ่าน้องวัฒน์

 

 

ด้าน พ.ต.อ.เกียรติปกรณ์ กล่าวว่า คดีนี้ไม่หนักใจแม้ว่านายเดชอุดมจะให้การภาคเสธ เนื่องจากนายหอน ผู้อยู่ในเหตุการณ์ให้การเป็นประโยชน์ จึงได้รวบรวมหลักฐานอยู่ระหว่างขอศาลอนุมัติหมายจับนายเดชอุดม ซึ่งจะได้นำตัวนายหอน และนายเดชอุดม นำตัวฝากขังผัดแรก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คัดค้านประกันตัว

 

 

 

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบประวัตินายเดชอุดม มือปืน เคยต้องโทษคดียาเสพติด อยู่ในคุกนาน 19 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ 2 ปีเศษ กระทั่งมาก่อเหตุสลดดังกล่าว

 

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร