รพ.บำรุงราษฎร์แถลงทางการ ยอมรับทำคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี

รพ.บำรุงราษฎร์แถลงทางการ ยอมรับทำคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี

จากกรณี นายทาเครุ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น อายุ 24 ปี ผู้ป่วยชายรายหนึ่งออกมาเปิดเผยผ่านรายการทีวีดัง ระบุว่าตนติดเชื้อเอชไอวี โดยไม่รู้ตัวจากการรักษาโรคด้วยการให้เลือดจากโรงพยาบาลดัง ซึ่งตอนแรกทางโรงพยาบาลให้การดูแลรักษา จึงไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ก็หายจากการรักษาไปประมาณ 2 ปี เพราะไปรักษาด้วยสมุนไพร กระทั่งกลับเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวอีกครั้ง ทางโรงพยาบาลกลับระบุว่าไม่มีประวัติการรักษาและเป็นช่วงเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

 

รพ.บำรุงราษฎร์แถลงทางการ ยอมรับทำคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี

 

ล่าสุด โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้มีการชี้แจงว่า ผู้ป่วยเป็นคนไข้ของทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เอง โดยเข้ารับการรักษาอาการโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เริ่มจากปี พ.ศ. 2547 คือ เมื่อ 15 ปีก่อน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของการรักษาได้เพราะถือเป็นความลับของผู้ป่วย แต่ขอชี้แจงขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ 

รพ.บำรุงราษฎร์แถลงทางการ ยอมรับทำคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี

1. ในการให้เลือดนั้น โรงพยาบาลมีข้อปฏิบัติในการรับเลือดจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อให้การรักษาแก่ผู้ป่วย ด้วยเป็นสถาบันที่มีการคัดเลือกและตรวจเลือดผู้บริจาคตามมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากล มีมาตรการคัดกรองผู้บริจาคโลหิตด้วยแบบสอบถามและซักประวัติพฤติกรรมความเสี่ยง มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธีซีโรโลยี่ ด้วยน้ำยาที่มีความไวสูงสุด และตรวจด้วยวิธี Nucleic acid amplification test (NAT) ดังนั้นผลิตภัณฑ์เลือดจะมีความปลอดภัยสูง ผ่านการตรวจคัดกรองการติดเชื้อต่าง ๆ รวมถึงการตรวจคัดกรองเชื้อเอชไอวีด้วย

 

ในช่วงปี พ.ศ. 2547 ซึ่งผู้ป่วยรายนี้เข้ารับการรักษา ทางศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติฯ ได้ใช้เทคโนโลยีการตรวจคัดกรองเลือดผู้บริจาคที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยเทคนิค NAT ที่สามารถตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้มาถึงปัจจุบัน  แต่อย่างไรก็ตามการตรวจคัดกรองการติดเชื้อในเลือดยังมีข้อจำกัดกรณีที่ผู้บริจาคเพิ่งได้รับเชื้อเข้ามาใหม่ซึ่งในเลือดจะมีปริมาณเชื้อไม่มากพอที่จะตรวจพบได้ด้วยวิธีใด ๆ จึงอาจทำให้ผู้ป่วยได้รับเชื้อเหล่านี้ แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นมีน้อยมาก ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าทางโรงพยาบาลต่าง ๆ ล้วนมีข้อปฏิบัติในการให้ผู้ป่วยรับทราบถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการได้รับเลือดซึ่งรวมถึงเชื้อเอชไอวีด้วย แล้วจึงลงนามยินยอมรับการให้เลือดเพื่อการรักษาที่จำเป็น

 

รพ.บำรุงราษฎร์แถลงทางการ ยอมรับทำคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี

 

2. เรื่องการดูแลรักษาเพื่อเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม โรงพยาบาลรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายดังกล่าว และยึดมั่นในการดูแลให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือค่าดูแลรักษาเรื่องเอชไอวี และอาการข้างเคียงอื่น ๆ อันเป็นผลจากเชื้อเอชไอวี โดยปรากฏในประวัติย้อนหลังผู้ป่วย ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการรักษา เป็นจำนวนเงิน กว่า 7 หลัก รวมการเข้ารักษาทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน 266 ครั้ง ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักการการบริบาลด้วยความเอื้ออาทรแก่ผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ยึดมั่นมาตลอดกว่า 38 ปีของการดำเนินงาน

 

รพ.บำรุงราษฎร์แถลงทางการ ยอมรับทำคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี

 

โรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีความเห็นใจต่อตัวผู้ป่วยตลอดจนครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ โรงพยาบาลขอถือโอกาสนี้ ยืนยันที่จะให้การดูแลรักษาผู้ป่วยรายนี้เป็นอย่างดีที่สุดต่อไป รวมถึงการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลตามหลักคุณธรรมและมนุษยธรรมอย่างเหมาะสมต่อไป