เจอแล้ว ลุงวัย63 หลังไปช่วยขุดฝายช่วยชาวบ้าน จนหลงป่านาน 37 วัน

จากกรณีการปฏิบัติการค้นหานายสมชาย ไทระยะ อายุ 63 ปี ราษฎรหมู่บ้านคลองปลาสร้อย ต.ปางตาไว อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ที่ไปร่วมทำฝายกั้นน้ำ ขากลับแวะยืนแวะปัสสาวะ ที่จอมปลวก ก่อนให้เพื่อนเดินนำไปก่อน ส่วนตนเองเดินหลงป่าหายอย่างมีปริศนา ไปในป่าโปร่ง แนวเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์-บ้านคลองปลาสร้อย อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.62 จนถึงวันนี้ร่วม 37 วัน ที่กำลังเจ้าหน้าที่ไม่ละความพยายามค้นหา  ไปตามแนวชายเขาอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชร 

 

 

โดยนาย เชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ เป็นประธานในการค้นหาบุคคลสูญหายร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปางศิลาทอง กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ทหาร มูลนิธิสว่างจุดปางศิลาทอง ปภ.กำแพงเพชร อาสาฯ ฝ่ายปกครอง และชาวบ้าน โดยค้นหา พื้นที่เขามีทั้งหมด 10 บล็อก แบ่งทีมค้นหาแบบเดินหน้ากระดานเป็น 6 ทีม ซึ่งมีพารามอเตอร์ 4 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ ร่วมบินสำรวจที่ผ่านมา

 

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.14 น.เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ร่วมกับชาวบ้านคลองปลาสร้อยจำนวน 16 คน เป็นเจ้าหน้าที่อุทยานฯแม่วงก์ 6 คน ชาวบ้าน 10 คน ได้แจ้งผ่านทางวิทยุไปยังศูนย์วิทยุด่านตรวจ กม.57 อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ว่าได้พบศพนายสมชาย ไทระยะ อดีตนักการภารโรงเรียนชุมชนบ้านคลองลาน วัย 63 ปี แล้ว บริเวณลำคลองห้วยวัว นายกิติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์  ได้รายงานนายพัชรพล มั่นปาน นายอำเภอปางศิลาทอง พร้อม พ.ต.ท.เชิดชัย ม่วงสิงห์ รอง ผกก.สส.สภ.ปางศิลาทอง พ.ต.ท.หญิง สมหมาย แสงแก้ว นวท.( สบ.2 ) กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกำแพงเพชร  

 

 

ร.ต.อ.พจน์ สุเกษม พนักงานสอบสวนสภ.ปางศิลาทอง หน่วยกู้ภัยสว่างจุดตรวจปางศิลาทอง เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และ พญ.ปัทมพร เข็มเพชร แพทย์เวรโรงพยาบาลปางศิลาทอง เดินทางเข้าพื้นที่โดยใช้รถจักรยานยนต์นั่งซ้อนท้าย เข้าเขตป่า อช.แม่วงก์ ซึ่งห่างจากหมู่บ้านบ้านคลองปลาสร้อย 7 กิโลเมตร และห่างจาก  บริเวณฝายน้ำ ประปาภูเขา ที่ไปขุดฝายเพื่อซ่อมแนวประปา หมู่บ้าน บนยอดเขาคลองปลาสร้อย ป่าโปร่ง ประมาณ 5 กิโลเมตร และต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าเบญจพรรณ อีกประมาณ 1 กิโลเมตร

 

 

สภาพศพ นายสมชาย ไทระยะ นอนเสียชีวิตอยู่ในลำคลองห้วยวัว มีต้นไม้ใหญ่โค่นล้มพาดอยู่ด้านบนข้างๆศพที่ส่งกลิ่นเหม็น เหลือแต่โครงกระดูก ไม่มีเนื้อหนังติดกับตามร่างกาย บริเวณหน้าอกด้านขวา เป็นโพรงใหญ่ อวัยวะภายในไม่มีเหลือ คงเหลือแต่โครงกระดูก ขาขวาขาดหายไป บริเวณดังกล่าว พบเศษเสื้อ กางเกง และกางเกงใน กระจายอยู่รอบๆ บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดที่ร่วมค้น เปิดเผยว่า ได้ออกค้นหาผู้สูญหาย ช่วงเวลา  08.45 น. เดินเท้ามุ่งสู่ศาลใหญ่ บริเวณเขารังเตี้ย โดยทำพิธีเปิดป่า ตามที่ร่างทรงเจ้าพ่อเสือคลองลาน ได้บอกให้มาทำพิธีโดยนำ กล้วย 1 หวี มะพร้าว 2 ลูก  ข้าวสวยและข้าวดำ ข้าวแดง ขมิ้นทอง 1 ตะกร้า  พร้อมกับคนตีฆ้อง ที่ชื่อสมชาย ซึ่งมีนายสมชาย ขออินทร์กลาง อายุ 50 ปี ราษฎรหมู่บ้านคลองปลาสร้อย อาสาเป็นคนตีฆ้อง พร้อม ตะโกนเรียกชื่อนายสมชาย ผู้สูญหาย ไปทั่วป่าที่เดินค้นหา

 

 

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห่างจากจุดทำพิธีประมาณ 400 เมตร ได้กลิ่นเหม็นสาบ ชุดค้นหาจึงเดินตามกลิ่น คาดว่าเป็นศพนายสมชาย แน่นอนนอนหงาย ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวบริเวณลำห้วย แต่ไม่มีน้ำ  แปลกใจทั้งๆที่จุดนี้ก็เคยเดินมาค้นหา แต่ไม่ก็พบ เจ้าหน้าที่พิศูจน์หลักฐาน ตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าคงเสียชีวิตมาเป็นต่ำกว่า 30 วัน สาเหตุการเสียชีวิตคงต้องรอว่าเกิดจากอะไร ส่วนสภาพศพคาดว่าเมื่อเสียชีวิตแล้ว บริเวณหน้าอกที่ถูกกัดซี่โครงจนหายไปเกิดจากเม่นใหญ่ ซึ่งเป็นสัตว์ฟันแทะ และตามร่างกายแขนขาที่ถูกกัด คาดว่าจากการถูกกัดของหมาในหรือหมาป่า ที่ชอบกัดกินซากศพ

 

สำหรับการเดินหลงป่าครั้งนี้ ชาวบ้านคนหนึ่งที่ร่วมไปทำฝายกั้นน้ำด้วย เผยว่า ในช่วงที่เสร็จทำงานกันแล้ว นายสมชาย ไทระยะ ผู้เสียชีวิต ได้นั่งกินเหล้าขาวแล้วร้องเพลงเสียงดังลั่น เพื่อนๆจึงบอกว่า เข้าป่าอย่าร้องเพลงรบกวน ผีสางเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา เทพยดา นางไม้ จะโกรธนะ นายสมชาย จึงตอบไปทีเล่นที่จริงว่า ถ้านางไม้ ออกมา จะเอาทำเมียให้หมด จากนั้นจึงแยกย้ายกันเดินกลับบ้าน ขณะที่นายสมชาย บอกให้เดินไปก่อน แล้วยืนปัสสาวะที่กองปลวกใกล้ต้นไม้ใหญ่ อาจเป็นเพราะถูกพรางตา โดยเชื่อว่า ผีป่าบังตา กักตัวไว้ในป่าลึก 

 

 

ขณะที่นายกิติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์และนายพัชรพล มั่นปาน นายอำเภอปางศิลาทอง ได้สั่งการห้ามประชาชนเข้าหาของป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ชั้นใน โดยจะทำรั้วกั้น หากจะเข้าต้องได้รับอนุญาตก่อน พร้อมรอกฎหมายใหม่ให้ทำกินในพื้นที่ป่า ตามประกาศ ( คสช ) เรื่องพระราชบัญญัติ ( พรบ )คณะกรรมการนโยบายที่ดิน ก่อนในเรื่องชุมชนกับพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่จะใช้ประโยขน์ร่วมกันต่อไป.

 

 

ขอบคุณทีมตระเวนข่าว 123 คนดีมีน้ำใจ