- 11 พ.ค. 2562
ทนายสุกิจยกข้อกฏหมายชี้นายสิบมีอำนาจตรวจใบขับขี่อธิบดีศาลฯหรือไม่ งานนี้ฟ้องกลับเอาผิดได้
จากกรณีเฟซบุ๊ก ตอบปัญหาข้อกฎหมายกับ ดร.สุกิจ ซึ่งเป็นของนายสุกิจ พูนศรีเกษม” อดีตทนายชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เมื่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลไม่ให้ตรวจใบขับขี่
"อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตภาค 8ย่อมเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติตามหน้าที่"
ข่าวแรงประเด็นร้อน.....
จากกรณี ตร.ยศนายสิบงานเข้า หลังมีคลิปขอตรวจใบขับขี่อธิบดีผู้พิพากษาศาล
ตร.ยศนายสิบ ขอตรวจใบขับขี่ ชายอ้างเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริต ภาค 8 เพื่อนผู้กำกับโชค โทรไปเลย โชคปัจจุบันที่เพิ่งย้ายมาแทนคนเก่า ทำไมจะเอาให้ได้?
“ก็บอกว่าเป็นอธิบดี จะค้นรถไหม” พร้อมถามตำรวจว่า “ไปได้ไหม” ก่อนตำรวจจะปล่อยรถคันดังกล่าวออกจากด่านไปนั้น
หากกรณีนายสิบมีการแจ้งเหตุที่จะขอตรวจใบขับขี่ อธิบดีศาลอาญาทุจริตภาค 8 ขัดขืนบอกเพื่อนผู้กำกับโชค โทรไปเลย โดยไม่ยินยอมปฎิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั้น
"อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทุจริตภาค 8ย่อมเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติตามหน้าที่"
ปัญหาที่สังคมให้ความสนใจคือ ตำรวจยศนายสิบ มีอำนาจตรวจใบขับขี่ของผู้ขับขี่รถยนหรือไมนั้นเห็นว่า
ตำรวจมีอำนาจตามกฏหมายที่จะขอดูใบขับขี่ผู้ใช้ยานพาหนะ แต่ต้องมีเหตุนั้นหมายถึงต้องมีเหตุการณ์ผิดปกติกับผู้ใช้ยานพาหนะ
และมีหน้าที่จะต้องแจ้งเหตุนั้นให้ผู้ขับขี่ทราบเสียก่อน มิฉะนั้นถือว่าเป็นการละเลยต่อหน้าที่.
อันเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบใช้อำนาจในทางก่อความเดือดร้อนลำคาญให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
เมื่อดูจากคลิ๊ปของสือมวลชลฯไม่เห็นว่า นายสิบตำรวจได้แจ้งเหตุที่จะต้องตรวจใบขับขี่ให้ อธิบดีศาลอาญาทุจริตภาค 8 ทราบ
เพียงแต่บอกว่าตนเองมีอำนาจ ท่านก็บอกว่ารู้แล้ว เลยขอพบนายตำรวจยศผู้กอง หลังจากนั้นก็ปล่อยรถคันดังกล่าวออกไปนั้นยอมเป็นการแสดงให้เห็นว่า
นายสิบตำรวจไม่มีเหตุที่จะขอดูใบขับขี่ผู้ใช้รถใช้ถนนแต่อย่างใด
กรณีตั้งด่านตรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องตระหนักถึงตำรวจใต้บังคับบัญชาให้อธิบายถึงความถูกต้องแท้จริงถึงเหตุที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ว่า
มีเหตุต้องขอดูใบขับขี่ เพราะเหตุใด ไม่ใช่จู่ๆคิดจะขอดูใบขับขี่ใครก็ดูได้
มันก่อความเดือดร้อนลำคาญแก่ผู้สัญจร ชึ่งปัญหาดังกล่าวนี้ต้องรีบแก้ไขให้กระจ่างไม่ใช่อยู่ถือว่าตนเองมีอำนาจจะทำอะไรก็ได้ ต้องตอบสังคมได้ด้วย
ในภาพรวมไม่อยากให้สังคมว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กเลย การที่อธิบดีภาค 8พูดกับนายสิบตำรวจว่ารู้จักผู้กำกับ ก็ไม่ใช่เป็นการอวดเบ่งก็รู้จักกันจริงๆเป็นเรื่องธรรมดา
โดยตำแหน่งหน้าที่นั้น หากท่านอธิบดีคิดที่จะกลั่นแกล้งเด็กตำรวจยศนายสิบนั้น แค่มอบหมายให้ทนายฟ้องนายสิบตำรวจต่อศาลผลรับน่าจะรู้นะ จะเกิดอะไรขึ้น
ตำรวจเป็นผู้ใช้กฏหมายโดยกล่าวหาว่าบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นผู้กระทำผิด
ท่านอธิบดีศาลเป็นผู้นำของศาลที่ใช้ดุลยพินิจว่าตำรวจทำผิดหรือถูก ท่านคงไม่ทำผิดเสียเองอย่างแน่แท้
ฝากไว้เป็นข้อคิด สำหรับผู้มีตำแหน่งทางราชการทุกระดับนะครับ ว่า
"ยศ ตำแหน่ง อยู่ในสถานที่ทำงาน หรือ อยู่ในช่วงอายุทำงานเท่านั้น มันไม่ได้ติดตัวตามเราไปทุกแห่งหน"
ท่านอธิบดีศาล เมื่อ ท่านเข้าเซเว่นฯ ท่านต้องเข้าคิวรอต่อจากชาวบ้าน ตามระเบียบสังคม
ท่านอธิบดีศาล เมื่อ ท่านขับรถท่านคือคนใช้รถใช้ถนนเหมือนประชนทั่วไป ที่ต้องทำตามกฎหมาย
ท่านอธิบดีศาล เมื่อ ท่านเสียชีวิต ก็ต้องเผารวมกับเมรุที่เผาชาวบ้าน เผาโจรผู้ร้าย เช่นเดียวกัน
ตำรวจ ก็เช่นกัน เมื่ออยู่พื้นที่ไหนก็เป็นตำรวจพื้นที่นั้น เมื่อออกนอกพื้นที่ก็ไม่มีอำนาจใดๆ เช่นกัน