สาวโดนต่อว่า หลังไม่ยืนทำความเคารพในโรงหนัง ออกมาชี้แจง

จากกรณีที่กลายเป็นประเด็นสุดร้อน หลังมีสาวคนหนึ่ง โพสต์เฟซบุ๊กบอกเล่าประสบการณ์ ในการเข้าชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง กับพี่ชายของเธอเอง ซึ่งในวันนั้น เธอไม่สะดวกยืนทำความเคารพ ก่อนที่หนังจะฉายเนื่องจากเจ็บขา เป็นฝี จากอาการเนื้ออักเสบ ซึ่งมีชายรายหนึ่งตะโกนถาม ด้วยน้ำเสียงแดกดันว่า “ไม่ใช่คนไทยเหรอ” จากนั้น เธอแจงว่าเจ็บขา ชายรายนั้นไม่ฟัง แถามขู่อีกด้วยว่า “รู้ใช่ไหม มีคนโดนจับเพราะไม่ยืนถวายความเคารพ” ซ้ำยังโทรแจ้งตำรวจ กระชากเธอจนตัวลอยขึ้นมา ขู่จะให้ไปโรงพัก”

 

 

ล่าสุดสาวรายดังกล่าวโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงอีกรอบ ระบุว่า...ชี้แจงต่อ: ไปดูหนังสามคน พี่ชาย พี่สะใภ้ และตัวเอง พี่สะใภ้ปวดท้องหนักมากจนลุกออกไปก่อนและกลับบ้านเลยค่ะ นางไม่มีซีน เลยไม่ได้เล่า ที่เราทักพี่เค้าว่า ใช่คนที่ทักหนูไหมนั้น เป็นเพราะ เอาจริงๆเลยรู้สึกอยากอธิบายอะ ว่าเป็นแผลจริงๆน้า และคาดหวังว่าจะจบลงหลังจากการอธิบายนั้น พี่เค้าพูดต่อเรื่องโดนฟ้อง ตำรวจจับได้นะ และ ยืนแค่นี้จะตายหรอ วนๆไปมาในช่วงนี้ค่ะ และเราพยายามอธิบายกับเค้าว่ายืนกับเดินมันไม่เหมือนกัน มันเจ็บไม่เท่ากัน

 

 

(ขออนุญาตชี้แจงตรงนี้เลยว่าเราเดินยังไงนะคะ เราขับรถเอง ใช้ขาข้างเดียว ถ้านั่งเฉยๆ จะไม่ปวดค่ะ เวลาเปลี่ยนท่า ลุก/นั่ง จะปวดมากกกกกๆๆๆ ซึ่ง ถ้าสมมุติจะลุกจากเก้าอี้ เราจะชาจไว้แปปนึงก่อนจะเริ่มเดินต่อได้ เท่ากับว่าถ้ายืน เราต้องพยุงตัวเอง 2 รอบ ประมาณนี้ค่ะ เวลาเดินใช้ปลายเท้าข้างที่เจ็บ ตรงนิ้วโป้งแตะพื้นแล้วใช้ขาอีกข้างวาดยาวๆเวลาก้าว แบบนี้จะไม่มีแรงกดน้ำหนักที่ขา และไม่เจ็บเลย (ใครเป็นแผลที่ขาลองดูนะ คือจริงๆเราลองเดินมาหลายแบบแล้ว ไม่ได้อยากนั่งอยู่เฉยๆทั้งวันอะ) สรุปง่ายๆคือ "เดินเจ็บน้อยกว่ายืนนิ่ง"

 

 

เล่าต่อ เราโมโห และสติแตก 555เรียกว่าไรอะ เพราะเรารู้สึกเจ็บมากๆ (เวลาเคลื่อนตัว) แต่พี่เค้าพูดเหมือนว่าเราไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เอาแต่พูดว่าแค่ยืนจะตายหรอ เอาแต่บอกว่าเราเมินที่จะทำนู้นนี่โดยไม่ฟังคำอธิบายเรา บทสนทนาหลังๆเราจึงเสียงดังมาก และเริ่มพูดภาษาอังกฤษ (คนเรียนภาษาจะเข้าใจว่าสมองจะเปลี่ยนภาษาเวลาเกิดเหตุการณ์ฟัคอัพ -เรื่องปกติค่ะ55555) จากนั้นพี่เค้าจะแจ้งความค่ะ เราเลยบอกแจ้งเลย เพราะตามที่เข้าใจเราทราบว่าไม่ผิดกฏหมาย (แต่ก็ไม่แน่ใจขนาดนั้นนะคะ ณ ตอนนั้น) ตรงจุดนี้พี่เค้าก็ซ้ำๆเช่นกันว่า จะแจ้งความๆๆๆๆๆๆ เราเลยตอบ แจ้งเลยๆๆๆๆ จากนั้นเค้าพยายามดึงแขนเราไปโรงพัก แต่เราคิดว่า ถ้าจะแจ้งความก็จะรอตำรวจที่นี่ ทำไมเราต้องไปโรงพักเองด้วย (อารมณ์แบบ ถ้าพี่อยากแจ้งความพี่ก็เอาตำรวจมาเองเถ้อะ หนูไม่ไปหาตำรวจเองหรอกนะ) เลยเกิดการดึงๆกัน

 

 

*จุดนี้ #พี่ชายน้ำแข็งยูนิต ออกมาจากห้องน้ำค่าทุกคนนนน คือเค้าเพิ่งออกมาค่ะ เลยไม่เห็นเหตุการณ์ พอเค้าเห็นเราทะเลาะกับพี่ผู้ชาย เค้าก็เดินมาบอกให้กลับไปขึ้นรถ และเริ่มเดินนำไปรถ จากนั้นพี่ผู้ชายก็ยังอยู่ใกล้เราค่ะ นางโทรหาตำรวจ แต่สักพักก็เริ่มบอกว่า ไร้สาระว่ะ ปัญญาอ่อนว่า คุย(กับเรา)ไปก็ไม่รู้เรื่อง คนปัญญาอ่อน จนนี้เราโมโห เพราะอ่ะ โดนกล่าวหา อธิบายไม่ฟัง โดนลากแขนไปโรงพัก ละยังมาว่าเราปัญญาอ่อนอีก เราเลยตะโกนดังๆใส่เค้าไปว่า "you know what, im gonna take you to the polices" (cant remember exact words) นั่นแหละค่ะ เพราะโมโหมากๆ จึงตะโกนใส่เค้าเป็นภาษาอังกฤษไป - -"

 

 

เดินมาถึงที่จอดรถ เราพูดกับเค้าว่า พี่นี่ตลกเน้อะ มาหาเรื่องเด็ก เค้าตอบประมาณว่า "โหหหหห เด็กกกก เด็กกกกก หน้ามึงอะแก่มากกกกก" โมโห55555 เลยตอบไปว่าพี่นี่อายุหน้า 35 ไปละนะ ตลอดเวลาที่เคลื่อนตัวจากหน้าโรงหนังมาจนถึงรถ เค้าจะบ่นๆประมาณว่า วุ้ย ปัญญาอ่อนว่ะ ซ้ำๆ อ่อ เค้ามากับเพื่อน เพื่อนเค้าพยายามห้ามว่า "มึงงงงง พอออออ" เรื่องจบที่ต่างคนต่างแยกย้ายขึ้นรถ ด้วยความสามารถของ #พี่ชายน้ำแข็งยูนิต ทำให้เรื่องไม่บานปลาย (อันนี้จริงๆ)

 

 

เรื่องการรวบรวมหลักฐาน: วันนี้เราได้สอบถามไปทางเทสโก้โลตัสเพื่อขอดูภาพวงจรปิดแล้วค่ะ ทางสาขายืนยันว่ามีภาพ แต่เรายังไม่สะดวกเข้าไปที่สาขา เลยยังไม่ได้เห็นภาพด้วยตัวเอง ขอบคุณความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางสาขานะคะ ใครที่สงสัยว่าทำไมพนักงานไม่มาช่วยเลย ขอตอบว่าตอนนั้นหนังเลิกประมาณเที่ยงคืน พนักงานทั่วไปกลับหมดแล้ว มียามอยู่ แต่เค้าอยู่ประตูชั้นล่างค่ะ ประชากรคนอื่นๆที่ดูหนังรอบเดียวกัน ส่วนใหญ่เข้าห้องน้ำในโรงหนังค่ะ แต่เหตุการณ์เกิดที่หน้าห้องน้ำของห้าง เพราะฉะนั้นเลยเป็นไปได้ว่าไม่ได้มีคนเห็นเหตุการณ์ ยกเว้นน้องพนักงานเมเจอร์ตรงเคาท์เตอร์ขายตั๋ว ซึ่งเค้าก้อยู่ไกลออกไปอยู่ดีค่ะ ไม่คิดเลยจริงๆค่ะว่าจะต้องมาอธิบายเรื่องแบบนี้ เราไม่ได้อยากให้มันมาไกลขนาดนี้.