คำพูดสุดท้าย น้องอาร์ม ก่อนเจอวัยรุ่น

'อามไปช่วยยันรถเพื่อนก่อนนะแม่ อามไปกับพี่ปราย เด๋วมา' คำพูดสุดท้ายของ ด.ช.วิษณุวรรค์ สุวรรณภา เขาเป็นแค่เด็กชายธรรมดา วัย 13 ปี ที่รักแม่ รักครอบครัว เรียนหนังสือชั้นมัธยมโรงเรียนพูลเจริญ น้องอาม รู้ว่าเพื่อนที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์น้ำมันหมด กลับบ้านไม่ได้ เมื่อเพื่อนโทรหาและตัวเขาไม่อยู่ไกลมากนัก จึงอาสาไปช่วยเพื่อนใช้เท้ายันรถเพื่อกลับบ้าน'วันนั้นดึกมาก น้องอามเลยชวนผมไปด้วย เพราะไม่ได้ไปไหนไกล อีกอย่างเราแค่จะไปช่วยเพื่อนน้อง' 

 

 

นายปราย ซึ่งน้องอามนับถือปานพี่ชาย พากันไปบริเวณปากซอยบางปลา 12 ถ.เทพารักษ์ อ.บางพลี เพื่อขี่รถวนหาเพื่อนน้องอาม ซึ่งกำลังประสบที่นั่งลำบาก ตอนนั้นผิดสังเกตว่า เวลาเริ่มดึกมากและติดต่อทั้งปรายทั้งอามไม่ได้ แม่ก็ใจคอเริ่มไม่ดี' คุณศรีเพ็ญ บุญกุณะ มารดาลำดับเหตุการณ์ให้ฟังอย่างสะอึกสะอื้น เพราะวินาทีนั้นช่วงกลางดึกคืนวันที่ 8 พ.ค.62 ต่อเนื่องวันใหม่ 9 พ.ค.62 เสียงสัญญาณโทรศัพท์จากลูกชาย คือสิ่งที่เธออยากได้ยิน หลังสังเกตว่า เริ่มผิดเวลา

 

 

'จนมีคนติดต่อมาที่บ้าน แม่ยังคิดว่าน้องอามถูกรถชน ประกอบกับน้องปรายติดต่อมาพอดีจึงรีบไปหาลูก' สภาพของเด็กชายที่ส่วนสูงประมาณ 135 แต่ไม่เกิน 145 ซม. ถือว่าตัวเล็กมากสำหรับเด็กวัยเดียวกัน ศีรษะน้องแตก เบ้าตาเขียวปิด เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดนอนอยู่บนพื้นถนน โดยมีเพื่อนรุ่นพี่ อยู่ในอาการเศร้า เปิดใจเสียงสะอื้น 'มันมากัน 4 คน ใช้รถ 2 คัน ขี่รถตามประกบพวกผม มันหาว่าพวกผมมองหน้า พยายามอธิบายว่าพวกผมขี่รถวนหาเพื่อนน้อง แต่มันไม่ฟังกลิ่นเหล้าเหม็นมาก ตอนนั้นน้องอามก็สีหน้าไม่ดีแล้ว ผมก็เป็นห่วงน้องไม่อยากมีเรื่องเลยขอโทษมันแล้วขี่รถไปให้พ้น แต่พวกมันก็ยังวนมาติดตาม หลังจากนั้นมันพยายามกระชากและใช้กำลังทำร้ายผมกับน้อง แล้ว 1 ใน 4 คน ใช้ก้อนหินขว้างใส่น้องจนร่วงรถ'

 

 

รุ่นพี่ผู้เผชิญเหตุการณ์ร้าย ให้การกับเจ้าหน้าที่อย่างละล่ำละลัก ในวินาทีเฉียดตาย หากแต่น้องชายของเขากับกลายเป็นผู้ไร้สติตอบสนอง กระทั่งไปสิ้นลมที่โรงพยาบาล 'หลังเกิดเหตุครอบครัวเราไปแจ้งตำรวจ สภ.บางพลี แต่เราไม่รู้ว่าจับคนร้ายได้หรือไม่' พ่อบุญธรรมของน้องอาม แม้ไม่เกี่ยวกันทางสายเลือด แต่รักลูกติดภรรยา ปานพ่อแท้ๆ เปิดใจ 'ลูกชายผมเป็นเด็กธรรมดาคนนึง เขาไม่ได้เกเร เขาเป็นเด็กตัวเล็กๆที่เพิ่งพ้นชั้นประถมมาได้แค่ 2 ปี สังเกตดูรูปเขาในเฟซบุ๊ก มีแต่ภาพสวมชุดนักเรียน เขาชอบไปโรงเรียน เพื่อนๆรักเขามาก'

 

 

กิจวัตรของน้องอามที่พ่อบุญธรรมเปิดเผย ทำให้ทีมข่าวต้องค้นดูเฟซบุ๊กของเด็กชาย จนพบว่า น้องอาม เป็นเด็กที่เต็มไปด้วยสดใส ไร้มลทินที่จะคิดได้ว่า เหตุการณ์ทำร้ายครั้งนี้ น้องจะเป็นคนเริ่ม การทำงานของชุดสืบสวนเป็นไปอย่างเงียบเชียบ พอๆกับความรู้สึกของครอบครัวที่เฝ้ารอว่า จะสามารถลากคอคนใจหยาบ พรากชีวิตเด็กชาย ไปจากครอบครัวได้หรือไม่ 12 พ.ค.62 งานฌาปนกิจอย่างเรียบง่าย ที่มีครอบครัว เพื่อนนักเรียนขาสั้น - คอซอง และ ครูโรงเรียน มาส่งร่างไร้วิญญาณของน้องเป็นครั้งสุดท้าย

 

 

ทำให้ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า จาก 8 ถึง 12 ตั้งแต่น้องสิ้นลม จนร่างน้องเป็นธุลี ไม่มีแม้แต่ข่าวว่า กลุ่มคนใจเหี้ยม จะได้รับโทษทัณฑ์ 'แม่ตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กขอความเป็นธรรม เพราะไม่รู้จะไปเรียกหาความยุติธรรมจากที่ไหน แม่เลยต้องใช้วิธีนี้' นิ้วมือของคุณแม่กดลงไปบนปุ่มจอมือถือเรียงร้องถ้อยคำ ขอความเป็นธรรมผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่าลูกชายนั้นเสียชีวิต สาเหตุจากมองหน้ากัน และโดนคนร้ายฟัน ยังไม่สามรถจับกุมผู้ต้องหาได้ จึงพยายามแชร์เรื่องดังกล่าว เพื่อวิงวอนให้ช่วยจับกุมและหาคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมาย

 

 

พลังสื่อสังคมแผลงฤทธิ์ ไม่กี่นาทีนับจากข้อความถูกแชร์ไปสารพัดเวบข่าว #สื่อสังคม การขับเคลื่อนของเจ้าหน้าที่ต้องรีบปฏิบัติการเหมือนไฟร้อนโต๊ะ พิสิษฐ์ หรือนนท์ เพชรเลิศ อายุ 21 ปี และ นายโอ๊ต( นามสมมุติ ) อายุ 16 ปี 2 ใน 4 ทรชน ที่พยานจำหน้าได้แม่น ถูกล็อกตัวก่อนเป็นอันดับแรก แม้จะไม่ยอมเปิดปากในทันที แต่เมื่อทั้งคู่เห็นภาพร่างไร้วิญญาณน้องในนาทีสุดท้ายของชีวิต ถึงกับหน้าสลด เปิดใจพูดทั้งหมด 'พวกผมมี 4 คน วันนั้นไปกินเหล้าที่ตลาดนัดเรือบิน มีผมสองคนและ พี่ผี หรือ พี่เศษ หรือ นายกวีโชค เงาศรี อายุ 23 ปี และ อีกคนคือ พี่แด๊กซ์ ชื่อ นายวัชระ บุญลือ อายุ 22 ปี' 'เวลาพี่ผีกับพี่แด๊กซ์เมาเหล้่าแล้วเขาชอบขี่รถหาเรื่องวัยรุ่น ก่อนจะมาเจอรถคนตาย ก็หาเรื่องมา 4 คันแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าหือ

 

 

แต่พอมาเจอรถคนตาย #น้องคนซ้อนท้ายเขาไม่หลบหน้า พี่ผี จ้องหน้าคล้ายสงสัย พี่ผีเลยยั้วะ' โจ๋รุ่นน้องวัย 16 ปี ลูกไล่ประจำกลุ่ม สาธยายหมดเปลือก ถึงวีรกรรมของไอ้ตัวต้นเรื่อง ยิ่งพอจับกุมได้สองรายแล้วซัดทอดไปยังหัวโจกแก่สุดในกลุ่มยิ่งสงสัยหนักว่า #ทำไมไม่คิดบ้างว่า เด็กมองหน้า #เพราะงงที่พวกมันมาหาเรื่อง ขณะที่สังคมออนไลน์กระหน่ำตั้งคำถาม พร้อมจัดทีมไล่ล่า ไอ้เศษ หรือ ไอ้ผี และ ไอ้แดร็กซ์ เนื่องจากข้องใจว่า หากอยากประกาศศักดา สร้างวีรกรรมนักเลง #มีปัญญาแค่ทำร้ายเด็กอายุ13 จนตายแล้วหนีหรอ #สังคมยุคนี้ #อาจพิพากษาพวกมันเอง ไม่มอบตัว = ชีวิตไม่มี

 

 

ขอบคุณ : รถตระเวนข่าว V.2