- 14 พ.ค. 2562
ชาวเน็ตไม่พอใจ หลังแม่หงุดหงิด เหตุพลเมืองดีช่วยลูกน้อยจากรถ
จากกรณีที่เป็นประเด็นดราม่าสนั่นโซเชียล หลังเกิดเหตุเด็กติดอยู่ในรถยนต์ เนื่องจากประตูล็อคทั้ง 4 ด้าน ซึ่งมีเด็กหญิงอายุประมาณ 1 ขวบ ติดอยู่ในรถนั่งอยู่บนเก้าอี้เด็กตรงเบาะหลัง โดยสาเหตุมาจากแม่ซึ่งเป็นคนขับได้ลงจากรถโดยดับเครื่องและวางกุญแจไว้ในรถ
ซึ่งระหว่างนั้นได้มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาของช่างกุญแจและพอมีประสบการณ์ในการปลดล๊อคประตูได้ใช้พยายามใช้ลวดสอดเข้าไปทางช่องกระจกเพื่อปลดกุญแจแต่ก็ไม่สำเร็จ รวมทั้งชาวบ้านที่พยายามใช้มีดปลดประตูแต่ก็ไม่สำเร็จเช่นกัน และได้บอกให้ผู้เป็นแม่ทุบกระจกรถแต่ก็ไม่ยอม กระทั่งช่วยหนูน้อยออกมาได้อย่างปลอดภัย
จากเหตุการณืที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก ที่ประตูรถมีรอยขูดขีด และถามหาความรับผิดจากชอบหญิงสาวที่พยายามช่วยปลดล็อคเพื่อนำลูกของตนออกมา
ล่าสุดหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตแห่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย พร้อมทั้งต่อว่าคุณแม่รายนี้ว่าห่วงรถมากกว่าห่วงลูกของตัวเอง ทั้งที่มีคนรีบเข้ามาช่วยด้วยความเป็นห่วง แต่กลับไปเรียกหาความรับผิดชอบที่มาทำรถของตนเป็นรอย
และยังมีชาวเน็ตรายหนึ่งได้กล่าวไว้อีกว่า...ถึงแม้คดีทำให้เสียทรัพย์ ตาม ป.อาญา มาตรา 358 จะเป็นความผิดอันยอมความได้หากเจ้าของรถไม่ติดใจเอาความก็ตาม แต่เรื่องนี้เห็นได้ว่าพลเมืองดีได้กระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ด้วยความจำเป็น เพราะเพื่อให้เด็กวัย 1 ขวบ พ้นจาภภยันตรายที่ใกล้จะถึงซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้ การพยายามงัดแงะซอกกระจก
หรือรูกุญแจเพื่อเปิดประตูช่วยเด็กที่อยู่ในรถ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ การทำให้เสียทรัพย์จึงเป็นการทำผิดด้วยความจำเป็น..ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษ ตามป.อาญา มาตรา 67 ส่งผลให้คดีเช่นนี้ไม่มีมูลความรับผิดในทางแพ่งที่พลเมืองดีจะต้องรับผิดต่อคุณแม่ เพราะเป็นกรณีสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับ ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 39 (7) เพราะมีกฎหมายยกเว้นโทษ
ขอบคุณ : นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สงขลา