- 17 พ.ค. 2562
นางเบญจวรรณ หรือ พา ไทยเจี่ย ภรรยาใหม่ของ นายทรงศักดิ์ ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวฝ่ายชาย
จากกรณีนายทรงศักดิ์ หรือ อบต.เย๋ เพิ่มสุข อายุ 46 ปี สมาชิก อบต.วังใหม่ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี หายตัวลึกลับตั้งแต่เมื่อกลางดึกของวันที่ 15 เม.ย. 62 จากบ้านพักใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
จนต่อมาทางนางเบญจวรรณ หรือ พา ไทยเจี่ย ภรรยาใหม่ของ นายทรงศักดิ์ ยอมเปิดปากรับสารภาพว่า อุ้มฆ่าสามี แล้วใช้รถแบคโฮขุดฝังศพซ่อนอำพรางในที่ดินตัวเอง พื้นที่กลางแปลงปลูกทุเรียน ซอยฟาร์มไก่ หมู่ 2 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าใหม่ จึงได้คุมตัว นางเบญจวรรณ ผู้ต้องหามาชี้จุดที่ฝังศพ โดยใช้รถแบคโฮเข้าทำการขุดค้นหาศพ
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ภรรยาอบต.เย๋ เล่านาที ปฏิบัติกับสามีในห้องพัก)
และเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วีระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางลงพื้นที่อำนวยการในการขุดหาศพด้วยตนเอง โดยมีพล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วยกำลังตำรวจ สภ.ท่าใหม่ สภ.ทุ่งเบญจา ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.จันทบุรี เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ
พร้อมกับกั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนเข้าไปบริเวณยังจุดที่เกิดเหตุ ที่เป็นแปลงปรับพื้นที่เตรียมสำหรับปลูกทุเรียน หลังใช้เวลาอยู่ร่วมชั่วโมงก็พบศพ นายทรงศักดิ์ หรือ อบต.เย๋ เพิ่มสุข ถูกกฝังดินลึงลงไปกว่า 3 เมตร โดยใช้ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ห่อตัว แล้วมัดด้วยเชือกไนล่อน สภาพเน่าอืด
ขณะที่ทางด้านนางเบญจวรรณ ผู้ต้องหา ได้จุดธูปขอขมาศพสามี เจ้าตัวไหว้ขอขมาขอให้สามีอโหสิกรรมให้ ยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำลงไป และยอมติดคุก ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าสามี แต่ที่ทำเพราะกลัว เนื่องจากสามีขู่จะฆ่าตัวเองก่อน เจ้าตัวกลัวจะไม่มีคนดูแลลูก ซึ่งหากออกจากคุกมาก็จะขอบวชชีตลอดชีวิตก่อนจะพูดทิ้งท้ายทั้งน้ำตาว่า "ชาติหน้าฉันใด ภพใด ถ้าเกิดเราเป็นเนื้อคู่กันขอให้มาเจอกันอีก"
ทั้งนี้นางเบญจวรรณ ได้ให้การรับสารภาพว่า ชนวนสาเหตุที่ลงมือฆ่า นายทรงศักดิ์ หรือ อบต.เย๋ เพิ่มสุข อายุ 46 ปี สมาชิกอบต.วังใหม่ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นสามีที่อยู่ด้วยกันมานาน กว่า 10 ปี คือเรื่องที่ตนเอง แอบนำเงินที่ไปซื้อที่ดินจำนวน 3 ไร่เศษ
พร้อมปรับสภาพเตรียมสร้างแปลงปลูกทุเรียน โดยตั้งใจไว้ว่า เมื่อปลูกทุเรียนเสร็จเรียบร้อย จะเปิดเผยหวังเซอร์ไพรซ์สามี ว่าตนเองเก่ง สามารถทำสวนผลไม้ได้เอง แต่กลับถูกบุคคลที่ 3 โทรศัพท์ไปฟ้อง อบต.เย๋ ว่าตนเองแอบขายทรัพย์สินที่สร้างร่วมกันมา แอบไปซื้อที่ดินเก็บไว้เอง หลังสามีทราบเรื่อง จึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน จนถึงขั้นที่สามี ขู่ฆ่าพร้อมกับ น้องเพียว ลูกชายวัยเพียง 9 ขวบ ทำให้ตนเองรับไม่ได้ จึงวางแผนฆ่า
โดยอาศัยที่ช่วงที่สามีนอนหลับอยู่บนโซฟา ภายในบ้านพัก ตนเองได้ดื่มเบียร์ย้อมใจจนเมาขาดสติ นำเอาหมอนมารองที่ท้ายทอย นายทรงศักดิ์ ที่นอนหงายหนุนหมอนบนพนักพิงโซฟา แล้วไปหยิบอาวุธปืนพกสั้น ลูกโม่ ขนาด จุด 38 ไม่มีทะเบียน ซึ่งตนเองซื้อเก็บไว้ป้องกันตัว
จากในห้องนอนขึ้นมาจ่อยิงผ่านหมอน นัดแรกไกปืนสับกระสุนไม่แตก เนื่องจากติดถุงพลาสติก พอถึงนัดที่ 2 ไกปืนยังสับไม่ถึงเนื่องจากติดผ้า กระสุนไม่แตก ตนเอง จึงยกมือขึ้นอธิษฐานต่อหน้ารูปพ่อตัวเอง พร้อมกล่าวว่า หากครั้งที่ 3 ยังไม่สามารถสังหาร นายทรงศักดิ์ สามีได้ คนที่ตาย คือเธอ กับ น้องเพียว ลูกชาย ก่อนตัดสินใจ จ่อปืนลั่นกระสุนผ่านหมอนอีกครั้ง นัดนี้สำเร็จ กระสุนเจาะทะลุศรีษะ ทำให้สามีเสียชีวิตคาโซฟา
ล่าสุดทางด้านพ.ต.อ.ไพทูรย์ ปาปะคัง ผกก.สภ.ท่าใหม่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ นปพ. เตรียมคุมตัว นางเบญจวรรณ หรือพา ไทยเจีย อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาฆ่า นายทรงศักดิ์ เพิ่มสุข หรือ อบต.เย๋ อายุ 46 ปี สมาชิก อบต.วังใหม่ อ.นายายอาม จ.จันทบุรี และนายวัชรพงศ์ ไทยเจีย อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันเคลื่อนย้ายศพปิดบัง อำพราง ออกจากห้องขังเตรียมเดินทางส่งฟ้องศาลจันทบุรี
ระหว่างนั้นมีนางกชกร อุ้มสิน อายุ 43 ปี อดีตภรรยาเก่า และนายปฤษฎางค์ หรือ ต้อง เพิ่มสุข อายุ 24 ปี ลูกชายของอบต.เย๋ เดินทางมาขอเยี่ยมนางเบญจวรรณ ผู้ต้องหา เนื่องจากทั้งสองฝ่าย ถึงแม้อีกฝ่ายหนึ่งจะเคยเป็นอดีตเมีย และอีกฝ่ายจะเป็นเมียใหม่ของอบต.เย๋ แต่ยังคงทำธุรกิจร่วมกัน ไม่มีปัญหาขัดแย้งกันมาก่อน
โดยทันทีที่ทั้งสองฝ่ายเจอหน้ากัน นางเบญจวรรณ ผู้ต้องหาตรงโผเข้าคุกเข่าสวมกอด นางกชกร อดีตเมียเก่าและนายปฤษฎางค์ ลูกเลี้ยง พร้อมกับร่ำไห้ปล่อยโฮกลางโรงพัก กล่าวขอขมาขอโทษทั้งน้ำตา ในสิ่งที่กระทำผิดไป โดยจะขอชดใช้ความผิดตามกระบวนกฎหมายที่ศาลตัดสิน
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวนางเบญจวรรณ และนายวัชรพงศ์ ผู้ต้องหา ส่งฟ้องศาล จังหวัดจันทบุรี ขณะที่ศาลพิจารณาไต่สวนมีคำสั่งในส่วนของนางเบญจวรรณ ผู้ต้องหาที่ 1 ห้ามประกันตัว เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาในคดี ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ปิดบัง อำพราง ซ่อนเร้น และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ส่วนทางด้านนายวัชรพงศ์ ผู้ต้องหาที่ 2 ศาลได้พิจารณาไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้สามารถนำหลักทรัพย์ประกันตัวได้ แต่จน ณ ขณะนี้ ยังไม่มีญาติมาแสดงความจำนงขอประกันตัว ผู้ต้องหาทั้งสองคนแต่อย่างใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ภรรยาอบต.เย๋ เล่านาที ปฏิบัติกับสามีในห้องพัก
- น้องชาย นางเบญจวรรณ เข้ามอบตัวแล้ว
- นายก อบต. ชาวบ้าน ยืนยันไม่มีใครใจดำ วางยาโคกระบือต่างถิ่น ไม่มีศึกแย่งน้ำแน่นอน