หนุ่มลำปางเล่าเรื่องราวตอนที่ได้พบเจอกับสาวคาราโอเกะ

จากกรณีที่มีชาวบ้านไปพบสาวร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสและยังถูกจับเปลือยกาย ทิ้งให้อยู่ริมอ่างเก็บน้ำห้วยทราย พื้นที่อำเภอแม่เมาะ อย่างน่าเวทนา ซึ่งในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้

โดย พ.ต.อ.พิศุปกรณ์ น้อยปักษา ผกก.สภ.แม่เมาะ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่เมาะ ได้รับแจ้งเหตุจากหญิงสาวผู้เสียหาย อายุ 38 ปี ชาวจ.ลำปาง สาวเสิร์ฟร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในอ.แม่เมาะ ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บและอยู่ในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า ศีรษะและใบหน้ามีบาดแผลฉกรรจ์ ปากฉีก หน้าบวม และตามร่างกายมีร่องรอยการถูกทำร้าย โดยเหตุเกิดขึ้นบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยทราย บ้านห้วยคิง ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้

 

จากการสอบสวน นายนิธิเบศร์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนที่ลงมือทำร้ายผู้บาดเจ็บจริง โดยหลังจากนั่งดื่มกินกันที่ร้านคาราโอเกะแล้วก็ได้ชักชวนกันไปนั่งกินต่อที่อ่างเก็บน้ำที่เกิดเหตุ และตนได้ทวงถามค่ายาบ้าจากผู้บาดเจ็บที่ค้างอยู่เป็นเงิน 1,000 บาท เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ไม่ยอมจ่าย จากนั้นจึงเกิดการทะเลาะวิวาทกัน จนมีการชกต่อยทำร้ายร่างกาย และดึงเสื้อผ้าของผู้บาดเจ็บออกจนหมด แล้วยังได้ใช้ไม้เรียวเฆี่ยนตีหลังจนนับครั้งไม่ได้ จนผู้บาดเจ็บนอนสลบแน่นิ่ง

 

อ่านข่าวที่เกี่ยว : รวบหนุ่มโหดซ้อมสาวใหญ่ร้านคาราโอเกะปางตาย ทิ้งเปลือยกายริมอ่างน้ำ อ้างเบี้ยวเงินค่ายานรก

ล่าสุด พ.ต.ท.ยงศักดิ์ มาวงษ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.แม่เมาะ และพฐ.ลำปาง นำตัว นายนิธิเบศร์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านคาราโอเกะริมถนนสายแม่เมาะ –ผาลาด หมู่ 6 ต.แม่เมาะ เป็นจุดที่ผู้ต้องหามาดื่มสุรา โดยมีผู้บาดเจ็บมานั่งคุยด้วย จนกระทั่งร้านปิดจึงชวนกันไปนั่งดื่มกันต่อที่ริมอ่างเก็บน้ำ ห่างจากร้าน 500 เมตร  ต่อมาผู้ต้องหาเข้าไปกอดแต่ผู้บาดเจ็บไม่ยอม ผู้ต้องหาจึงผลักให้ล้มลงก่อนที่จะใช้มือบีบคอและชกไปที่หน้าท้องกับใบหน้าหลายครั้ง พร้อมทั้งกระชากถอดเสื้อผ้าผู้บาดเจ็บออกจนหมด แต่เหยื่อต่อสู้และคลานหนีสุดชีวิต

 

 

กระทั่งผู้ต้องหาวิ่งไล่ตามไปอีกพร้อมคว้ากิ่งไม้ฟาดไปที่ร่างกายเหยื่อหลายครั้ง รวมทั้งยังใช้ก้อนหินขว้างปาไปที่ศีรษะด้วยจนเหยื่อสลบไป เท่านั้นไม่พอยังได้ขโมยโทรศัพท์มือถือและนำรถ จยย.ของเหยื่อ ไปทิ้งน้ำอีกต่างหาก โดยตลอดการทำแผนผู้ต้องหามีสีหน้าวิตกกังวล ไม่หลงเหลือความซาดิสต์สุดโหดไว้เลย ซึ่งแม่ของผู้บาดเจ็บได้มาสังเกตุการณ์ด้วยเมื่อเห็นผู้ต้องหากระทำกับลูกสาวถึงกับทำใจไม่ได้ร้องไห้ออกมา ก่อนที่จะถอดรองเท้าเพื่อจะไปตีผู้ต้องหาแต่ตำรวจเข้ามาห้ามไว้ได้ทัน

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้จะข่มขืนสาวแต่มาทวงเงินค่ายาบ้า1,000 บาท ที่ผู้บาดเจ็บได้ติดไว้หลายเดือน แต่เนื่องจากตนถูกทำร้ายก่อนจึงโมโหบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยตำรวจได้แจ้ง 5 ข้อหนักคือ 1.พยามฆ่า 2.พยามข่มขืน 3.กระทำอนาจาร 4.เสพยาเสพติด และ5.ลักทรัพย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป