- 19 พ.ค. 2562
หลังจากที่ นายสมนึก ทองมา หรือ ชลธี ธารทอง นักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดังและศิลปินแห่งชาติ วัย 81 ปี ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อถึงเรื่องที่ฟ้องหย่า นางศศิวิมล หรือ ครูปุ้ม ทองมา ภรรยาวัย 51 ปี ที่อยู่กันมาเกือบ 30 ปี ว่ามาจากสาเหตุหึงหวงหนักถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน จนตนเองทนไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายออกจากบ้าน มาพักอาศัยอยู่กับสาวคนสนิทรุ่นลูก และมีแพลนจะแต่งงานทันทีหลังจบเรื่องคดีนั้น
หลังจากที่ นายสมนึก ทองมา หรือ ชลธี ธารทอง นักแต่งเพลงลูกทุ่งชื่อดังและศิลปินแห่งชาติ วัย 81 ปี ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อถึงเรื่องที่ฟ้องหย่า นางศศิวิมล หรือ ครูปุ้ม ทองมา ภรรยาวัย 51 ปี ที่อยู่กันมาเกือบ 30 ปี
ว่ามาจากสาเหตุหึงหวงหนักถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน จนตนเองทนไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายออกจากบ้าน มาพักอาศัยอยู่กับสาวคนสนิทรุ่นลูก และมีแพลนจะแต่งงานทันทีหลังจบเรื่องคดีนั้น
โดยก่อนหน้านี้ ชลธี ธารทอง ครูเพลงชื่อดังวัย 83 ปี ได้เปิดใจเล่าว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง และเตรียมขึ้นศาลในวันที่ 10 มิย. ที่กาญจนบุรี แต่ไม่ขอลงรายละเอียดถูกทำร้ายร่างกาย ขอไปพูดในชั้นศาล รับแต่งงานมากว่า 30 ปี มีทะเลาะบ้าง มีทำร้ายร่างกายบ้าง แต่ตนเองเคยสาบานว่าจะไม่ทำร้ายผู้หญิง จึงยอมมาโดยตลอด แถมเคยขอหย่ามาแล้วครั้งนึง แต่อดีตภรรยาไม่ยอม จนมาถึงครั้งนี้จึงต้องฟ้อง
ล่าสุด ครูปุ้ม ได้ออกมาเปิดใจถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า "เรื่องของครูชลธีกับหญิงคนใหม่นั้น ทราบเรื่องมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว หลังจากทราบเรื่องก็มีปากเสียงกันบ้างเป็นบางครั้ง แต่ไม่เคยเปิดปากกับสื่อมวลชนเลย เพราะเกรงว่าจะทำให้ครูชลธีเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ล่าสุดที่ครูชลธีได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ถึงเรื่องการฟ้องหย่า และบอกว่าตนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องการหึงหวง ทำร้ายร่างกายครูชลธี รวมถึงการด่าทอบุพการีของครูชลธี ซึ่งประเด็นต่างๆเหล่านี้ ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเลยทุกประเด็น"
"โดยเฉพาะเรื่องของการทำร้ายร่างกายและด่าทอบุพการีของครูชลธีนั้น ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะตลอดเวลา 27 ปี ที่ตนใช้ชีวิตร่วมกับครูชลธีมา ตนดูแลใส่ใจ และรักครูชลธีมากที่สุดในชีวิต ตนดูแลครูทุกอย่าง แม้จะมีบ้างที่ทะเลาะกัน แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นใช้ความรุนแรง ตนไม่มีทางที่จะประพฤติตนแบบนั้นได้แน่นอน ส่วนในเรื่องของการฟ้องหย่านั้น เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2562 ได้มีหมายศาลมาถึงตนเรียบร้อยแล้ว"
"ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดตนและฝ่ายของครูชลธี เข้าไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันที่ศาล ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง แต่พร้อมที่จะพูดคุยและปรับความเข้าใจกับครูชลธี ถึงแม้ตอนนี้ จะเสียใจและเสียความรู้สึกกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังพร้อมที่จะให้อภัยครูชลธีเสมอ หากครูชลธีคิดได้และกลับใจ ยอมรับว่าสิ่งที่นำไปเป็นประเด็นฟ้องหย่าตนนั้นไม่ใช่เรื่องจริง"
"และต้องขอบอกว่าที่ตนยังไม่ยอมหย่านั้น ไม่ใช่เพราะตนต้องการทรัพย์สมบัติหรืออะไร แต่เป็นเพราะเป็นห่วงครูชลธี ที่จะต้องถูกสังคมโจมตีอย่างหนัก เพราะตั้งแต่ที่มีข่าวเรื่องนี้มา ครูชลธีก็ถูกผู้คนในสังคมวิจารณ์และต่อว่าอย่างหนักและต่อเนื่อง จึงอยากให้ครูชลธีคิดได้และกลับมาอยู่กับตน และหากการเจรจาไกล่เกลี่ยที่ศาลไม่เรียบร้อย ก็พร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ว่าไม่ได้กระทำอย่างที่ถูกครูชลธีกล่าวอ้าง"