กรมอุตุฯเตือนภัยฉบับที่ 4 ฝนตกหนัก ระวังอันตราย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

กรมอุตุฯเตือนภัยฉบับที่ 4 ฝนตกหนัก ระวังอันตราย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 27 – 31 พฤษภาคม 2562)"  ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2562

ในช่วงวันที่ 27-31 พฤษภาคม 2562 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ โดยจะมีผลกระทบตามภาคต่าง ๆ ดังนี้

        

กรมอุตุฯเตือนภัยฉบับที่ 4 ฝนตกหนัก ระวังอันตราย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

 

ในช่วงวันที่ 27 พฤษภาคม 2562

        ภาคเหนือ: เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร

        พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

        ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์

        และมุกดาหาร 

        ภาคตะวันออก: ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

        ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

        ในช่วงวันที่ 28 - 29 พฤษภาคม 2562

        ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย

        ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

        ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ นครราชสีมา อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

        ภาคกลาง: กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

        ภาคตะวันออก: นครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

        ภาคใต้: ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

        ในวันที่ 30 - 31 พฤษภาคม 2562

        ภาคเหนือ: เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก

        พิจิตร และเพชรบูรณ์

        ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร 

        ภาคตะวันออก: นครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

        ภาคใต้: ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง และพังงา 

        สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือด้วย

        ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

        ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น

        จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

        ประกาศ ณ วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.00 น.

        กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.00 น.

        (ลงชื่อ) นายภูเวียง ประคำมินทร์

        (นายภูเวียง ประคำมินทร์) 

        อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

กรมอุตุฯเตือนภัยฉบับที่ 4 ฝนตกหนัก ระวังอันตราย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

 

กรมอุตุฯเตือนภัยฉบับที่ 4 ฝนตกหนัก ระวังอันตราย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

 

สำหรับพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 

ลักษณะอากาศทั่วไปพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง 
 

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยาร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนเริ่มมีกำลังแรงขึ้น

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ 
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง 
บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ 
ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร 
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลางมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี 
นครสวรรค์ และชัยนาท 
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง 
บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด 
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี 
นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา 
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ 
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ 
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ขอบคุณ กรมอุตุนิยมวิทยา