ผกก.สภ.เมืองระนองยื่นข้อเสนอโจ๋ซ่าซอย 9 ทำ MOU หย่าศึก

จากกรณีวัยรุ่นหลายสิบคนยกพวกตีกันและไล่ยิงกันที่ชุมชนซอย 9 หมู่ 4 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในชุมชนซอย 9 เป็นประจำแทบทุกคืนในช่วงกลางดึกตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา 

โดยกลุ่มวัยรุ่นมีการถือมีดไล่ฟันกัน อีกทั้งใช้อาวุธปืนยิงใส่คู่อริและขว้างปาก้อนหินขวดแก้วใส่กัน จนหลังคาชาวบ้านแตกได้รับความเสียหายหลายหลัง และรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนนได้รับความเสียหายจากรอยกระสุนปืนและขวดแก้วหลายคัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกล้องวงจรปิดได้จับภาพวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวที่ก่อเหตุไว้ได้เกือบทั้งหมด

 

 

 

 

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ล่าสุดที่ห้องประชุม สภ.เมืองระนอง พ.ต.อ.ธนกฤษ พาภิรมย์ ผกก.สภ.เมืองระนอง พร้อมด้วยทหาร ฝ่ายปกครอง ได้เชิญตัวหัวโจกกลุ่มวัยรุ่นซอย 9 และผู้ปกครอง เพื่อมารับฟังมาตรการของทางฝ่ายเจ้าหน้าที่และหาทางออกร่วมกันพร้อมทั้งได้ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ไว้เป็นหลักฐาน

 

 

 

ระหว่างฝ่ายเจ้าหน้าที่กับวัยรุ่นและผู้ปกครอง โดยมีเงื่อนไขหากยังทำผิดซ้ำจะส่งตัวเข้าติวเข้มในค่ายทหาร ซึ่งหลังจากนี้คงต้องรอดูกันต่อไปว่ามาตรการที่ทาง สภ.เมืองระนองออกมาจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้หรือไม่

 

 

 

 

โดย พ.ต.อ.ธนกฤษ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีการทะเลาะกันของกลุ่มวัยรุ่นซอย 9 ในเขตพื้นที่ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าฯ ระนอง และ พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ ผบก.ภ.จว.ระนอง ได้มีความห่วงใยในประเด็นนี้ ทางสภ.เมืองระนอง จึงได้มีการเชิญตัวกลุ่มคู่กรณีที่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันในซอย 9 รวมถึงเชิญผู้ปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง และทหาร 

 

 

เพื่อมาทำบันทึกข้อตกลงว่าต่อไปกลุ่มวัยรุ่นซอยเก้าจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันกันอีกต่อไป และน้องๆ ที่เป็นเยาวชนเหล่านี้ก็จะต้องเป็นคนดีของสังคมทำตามกฎกติกาของบ้านเมืองที่กำหนดไว้ ไม่ทะเลาะกันและออกมาทำลายข้าวของ ซึ่งได้ให้ทุกฝ่ายเซ็นบันทึกข้อตกลงร่วมกัน โดยมีตนเองเป็นสักขีพยาน และเป็นผู้ดำเนินการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ให้ก็ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายด้วยดี 

 

 

 

"โดยมีเงื่อนไขว่าหากน้องๆ เหล่านี้ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงก็ยินยอมพร้อมใจที่จะไปเข้ารับฝึกธำรงวินัยที่ค่ายรัตนรังสรรค์ ซึ่งทางเจ้าที่ทหารได้รับทราบแล้ว คิดว่าหลังจากนี้เรื่องของกลุ่มแก๊งวัยรุ่นจะไม่มีอีกต่อไป และหลังจากนี้จะมีการทำบันทึกข้อมูลประวัติของกลุ่มวัยรุ่นคนอื่นๆ ไว้อีกในลำดับต่อไป

 

 

 

 

เพื่อให้จังหวัดระนองเป็นจังหวัดที่มีความสงบสุขปลอดภัยสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวในจังหวัดระนอง ก็คิดว่าทุกท่านโดยเฉพาะประชาชนที่จะมาเที่ยวจังหวัดระนองรู้ จะรู้สึกปลอดภัยและอยากที่จะมาเที่ยวในจังหวัดระนองมากยิ่งขึ้น" พ.ต.อ.ธนกฤษ กล่าวปิดท้าย