ตร.โครงการพระราชดำริ สานความตั้งใจ หนุ่มพะเยา บริจาคอวัยวะก่อนจากไปอย่างสงบ(คลิป)

กลายเป็นเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นเมื่อมีหนุ่มคนหนึ่งเกิดโชคร้ายประสบอุบัติเหตุ แต่ได้มีใจที่จะบริจาคร่างกายเพื่อผู้อื่น หลังจากเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งบอกเลยว่าเขาได้ทำเพื่อสังคมมากๆเพราะอวัยวะนั้น สามารถช่วยชีวิตคนได้ถึง 6 คน

 
สำหรับเรื่องนี้ ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นายแพทย์สำเริง สีแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นายแพทย์พงศกร พงศาพาส ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ผู้รับผิดชอบศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อมเจ้าหน้าที่และญาตินายพงศธร อัมพุธ อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 180 หมู่ 3 ต.หนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ผู้เสียชีวิตที่แจ้งความจำนงค์ขอบริจาคอวัยวะผ่านศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย

อวัยวะของนายพงศธรทางแพทย์ได้นำไปปลูกถ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยหัวใจวาย 1 คน ผู้ป่วยไตวาย 2 คน ผู้ป่วยตับวาย 1 คน และผู้ป่วยตาบอด 2 คน รวมทั้งหมด 6 คน และหลังจากทำการรับอวัยวะเสร็จทางโรงพยาบาลได้อำนวยความสะดวกให้มีพิธีส่งศพด้วยดอกไม้ธูปเทียนเพื่อให้ครอบครัวนำไปจัดการตามประเพณีที่ อ.ดอกคำใต้ โดยมีคณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ให้ความเคารพร่างของนายพงษธร 

 

อ่านข่าว : หนุ่มพะเยาวัย 18 ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พ่อแม่เพิ่งรู้ลูกชายบริจาคอวัยวะ 
 

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร ได้ออกมาแชร์คลิปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ได้ทำหน้าที่เป็นทีมที่ไปรับหัวใจ จากจ.เชียงรายมาปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยที่รพ.ศิริราช ซึ่งภาระกิจนี้ต้องแข่งกับเวลามากๆเพราะหัวใจสามารถอยู่ได้แค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น

 

 

ระบุข้อความว่า "#ทุกวินาทีมีค่าต่อชีวิตภารกิจพิชิตหัวใจเชียงรายศิริราช นำอวัยวะ(หัวใจ)มาจากเชียงรายไปเปลี่ยนถ่ายให้ผู้ป่วยที่โรงพยาบาลศิริราชด้วยระยะเวลาที่จำกัดท่ามกลางฝนพรำ 30 พ.ค.62 เวลา12.50 น. #ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. พ.ต.อ.ปิติพงษ์ บุตรเปี่ยม ผกก.6 บก.จร."

 

"โดยตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริได้รับการประสานงานจากรพ.ศิริราช ต้องการให้อำนวยการจราจรนำอวัยวะ(หัวใจ)ที่ได้รับบริจาคจากจ.เชียงรายมาปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยที่รพ.ศิริราช โดยมาทางเครื่องบินแบบเหมาลำมาลงที่ฝูงบิน604 ดอนเมือง ด้วยเป็นภารกิจที่ต้องแข่งกับเวลาเพราะ #อวัยวะหัวใจจะอยู่ได้แค่ประมาณ4ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากผ่าตัดออกมาจากตัวผู้บริจาคจนถึงการปลูกถ่ายให้ผู้ป่วย"

 

 

"ฉะนั้นทุกวินาทีจึงมีค่าต่อชีวิต ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ จร.สน.วิภาวดีจึงได้เร่งนำส่งอวัยวะหัวใจถึงรพ.ศิริราชเรียบร้อยด้วยความรวดเร็ว ท่ามกลางฝนที่ตกพรำเกือบทุกพื้นที่โดยใช้เวลาจากสนามบินดอนเมืองถึงรพ.ศิริราชเพียง 29 นาที 24 วินาทีแม้พื้นทางจะเปียกลื่นด้วยน้ำฝนก็ตาม #ขอบคุณ บก.02,จส.100 กองทัพอากาศ ด.ต.จักรภูมิ เสมียนชัย (จนท.วิทยุผู้ประสานงาน) และจร. ในเส้นทางทุกท่านที่อำนวยความสะดวก#ตลอดจนผู้ใช้รถใช้ถนนในเส้นทางดังกล่าวที่ให้ความร่วมมือด้วยดีจนภารกิจนี้ลุล่วงลงอย่างสมบูรณ์ เรียกได้ว่าวินาทีต่อวินาทีชีวิตต่อชีวิตเลยทีเดียว #ภาพโดย : ทีมงานตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ"

 

 

ขอบคุณ ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ