- 02 มิ.ย. 2562
ต่อมาเมื่อปี 2561 เขาได้ปรากฎตัวอีกครั้ง โดยได้มีการแชร์ภาพของเด่น ดอกประดู่ ที่ห่มผ้าเหลือง บวชเป็นพระ พร้อมข้อความระบุว่า "เจริญพรโยม พอดีวันนี้หลวงพี่อยู่ในวัดก็มีคนมาขอบวช แรกก็จำไม่ได้ แต่ดูไปดูมาก็นึกออก คุณเด่น ดอกประดู่"
จากกรณีที่เฟซบุ๊กชื่อ เรย์กุลธิดา เหม่ยลี่ ได้ออกมาโพสต์ข้อความ เกี่ยกับการเดินทางมาคนเดียวของตลกชื่อดังอย่าง น้าเด่น ดอกประดู่ เผื่อญาติๆหรือทางครอบครัวกำลังติดตามตัว ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ดูจะไม่มีจุดหมายว่าจะไปทำอะไร แต่จากข้อมูลเบื้องต้นเหมือนจะมีปัญหาชีวิตและสับสนอะไรบางอย่าง
ระบุข้อความว่า "บันทึกเวลาเดินทางของคุณ เด่น ดอกประดู่ เผื่อครอบครัวคุณเด่นกำลังตามหานะคะ คุณเด่นกำลังเดินทาง จากกรุงเทพ-ไปขอนแก่น รถออกจากหมอชิต รอบ เวลา18.30 น 22-3 บ.ชาญทัวร์ สอบถามพูดคุยรู้เรื่อง แต่การเดินทางไปไม่มีจุดหมายว่าจะไปทำอะไรค่ะ ข้อมูลเบื้องต้นมีปัญหาชีวิตและกำลังสับสน สัมภาระมีเพียงถุงปุ๋ยใส่ของ 2 ใบ"
"ไม่มีเครื่องมือสื่อสารติดตัว ให้เบอร์จิตอาสา ติดตัวใว้เพื่อประสานความช่วยเหลือ..ขอให้การเดินทางของคุณ เด่น ดอกประดู่ ราบรื่นนะคะ" และเฟซบุ๊กรายดังกล่าว ได้เข้ามาตอบคอมเม้นต์อธิบายว่า "เหมือนคุณลุงมีปัญหาสุขภาพและความจำบางส่วน และปัญหาชีวิตนิดหน่อย บวกกับความเครียดและวัยด้วย"
ต่อมามีรายงานว่า นายบรรพต วีระรัฐ หรือเด่น ดอกประดู่ อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.ขอนแก่น ท่าทางของน้าเด่น ดูสดใส พูดคุยหยอกล้อกับชาวขอนแก่นและผู้สื่อข่าว พร้อมทั้งโชว์มายากลให้ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่อย่างสนุกสนาน โดยน้าเด่น ดอกประดู่ ได้บอกว่า เดินทางมาจากกทม. ด้วยทัวร์คนเดียว ตั้งใจว่าจะมาหางานทำ นั่นคือการแสดงตลก ตามร้านอาหารและสถานที่ต่างๆ ทีแรกไม่มีจุดหมายว่าจะไปที่ไหน แต่มีหลายๆ คนบอกว่า จ.ขอนแก่น มีหลายร้านและต้อนรับคนต่างถิ่นดี จึงตัดสินใจลงที่ขอนแก่น เพื่อจะได้ออกไปหางานทำเพื่อหารายได้ให้กับตัวเอง
อ่านข่าว : สูงสุดสู่สามัญ!!! "เด่น ดอกประดู่" เปิดใจสาเหตุเร่ร่อนไปถึงขอนแก่น เศร้าชีวิตทุกฝ่ายกำลังเร่งช่วย
ขณะที่หนุ่มใจดีที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า ธนกฤต จันทร์สุพรม ได้โพสต์ข้อความแสดงน้ำใจ ระบุว่า "หากตลกชื่อดัง "เด่น ดอกประดู่" จะกลับกรุงเทพ พรุ่งนี้.!! "ถ้าแกจะกลับกรุงเทพ ผมจะกลับพรุ่งนี้ เดี๋ยวผมจะไปส่งก็ได้ครับ" ..คนขอนแก่นใจดีอีหลี ทั้งนี้ข้อความดังกล่าว ได้มีชาวเน็ตเข้ามากดไลค์เป็นจำนวนมาก และขอชื่นชมในน้ำใจอันดีงาม ที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับว่าอดีตดังชื่อดัง จะตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ หรือจะอยู่หางานทำที่ขอนแก่นต่อไป
อ่านข่าว : ปลื้มปริ่มหัวใจ!!! หนุ่มขอนแก่นรู้ข่าว "เด่น ดอกประดู่" เร่ร่อนถึงแดนอีสาน อาสายื่นมือช่วยเหลือทันที
ส่วนทางด้าน เด่น ดอกประดู่ ก็ได้เปิดเผยความรู้สึกที่ออกมาจากบ้านกรุงเทพฯ มาที่ จ.ขอนแก่น ว่า ตนไม่มีการแสดงตลกมาหลายปี ต้องขอเงินกับภรรยาใช้เป็นประจำ และดูแลบ้านทุกอย่าง ซักผ้า รีดผ้า ตัดหญ้า ทำได้ทั้งหมด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ได้เห็นหมา 3 ตัว ที่ภรรยาเลี้ยงไว้ได้ขับถ่ายอยู่ในบ้าน ตามสนามหญ้า มุมต่างๆ ในบ้าน และในห้องพระ และในวันนั้นตนได้นำน้ำยาล้างพื้น ผงซักฟอก ผสมกับน้ำเปล่า ใส่ในขวดฉีดน้ำ แล้วนำไปฉีดตามที่หมา 3 ตัว พากันไปขับถ่าย เพื่อไม่ให้หมาเข้ามาในที่ตรงนั้นอีก
พอภรรยามาเห็นก็บอกว่า มาทำอะไรแบบนี้เดี๋ยวหมา 3 ตัวจะตาย ตนเห็นว่าภรรยารักหมา 3 ตัวมาก ไม่สนใจตัวเอง ทุกวันภรรยาจะนอนกับหมาทั้ง 3 ตัว และไม่เคยนอนกับตัวเอง เมื่อเมียดุด่าว่าตน ตนก็ตวาดไปว่า รำคาญผมมากใช่ไหม ผมไปอยู่ที่อื่นก็ได้ ภรรยาก็บอกว่าไปไหนก็ไปเลย ตนน้อยใจมากคว้าเสื้อผ้าใส่ถุงปุ๋ย 2 ถุง ไม่เอาทรัพย์สินใดๆ ทั้งสิ้น ขอเงินเดินทางไปหางานทำที่ จ.ขอนแก่น ภรรยาโยนเงินมาให้ 3 หมื่นบาท ตะโกนบอกว่าไปไหนก็ไป ตนจึงไล่ตัวเองออกมาจากบ้านมาขึ้นรถที่หมอชิต อีกทั้งเจ้าตัวยังยืนยันด้วยว่า จะกลับบ้านก็ต่อเมื่อภรรยาเดินทางมารับเท่านั้น
หากย้อนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เด่น ดอกประดู่ มีชื่อปรากฎเป็นข่าวอยู่บ้าง แต่ที่เจอกระแสดราม่าหนักสุด เห็นจะเป็นกรณีคลิปฉาว จากฟิตเนสแห่งหนึ่ง ที่มีสาวนุ่งน้อยห่มน้อยยืนถ่ายรูปกับแขกในงาน ซึ่งเป็นข่าวเมื่อต้นปี 2558 โดยในคลิปดังกล่าวปรากฏว่ามี เด่น ดอกประดู่ ตลกชื่อดัง รวมอยู่ในภาพนั้นด้วย ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาระบุว่า ได้รับเชิญเป็นพิธีกรงานเลี้ยงปีใหม่ ยืนยันไม่รู้เรื่องมาก่อนว่าจะมีสาวแต่งตัวแบบนั้น และเข้าให้การกับตำรวจแล้ว ว่าไม่มีการล่วงเกินใดๆ เกิดขึ้น
และเมื่อช่วงต้นปี 2559 ที่ผ่านมา เด่น ดอกประดู่ ก็ออกมายอมรับกับสื่อว่า ข่าวครั้งนั้นส่งผลกระทบกับชีวิต ตนเองตกอยู่ในความยากลำบาก ตอนนี้เครียดมาก ไม่มีเงิน ไม่มีงานเลยตั้งแต่วันที่ตกเป็นข่าว และเพิ่งจะได้ร่วมงานกับสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) เพื่อถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลงพระราชบิดา และเพลงทูลกระหม่อมพ่อ ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีใครเรียกตนสักคน ทั้งที่แต่ก่อน ตนเป็นคนคิดมุกใหม่ๆ ตลอด ตนไม่เสียใจแต่น้อยใจ ที่แต่ก่อนเล่นตลกไม่เป็นผมก็ฝึกให้ที่บ้าน ทุกวันนี้ก็อยู่กับภรรยา แต่สงสารเขาที่ต้องดูแลเรา เป็นถึงลูกคุณหนู แต่ต้องมาลำบาก
ต่อมาเมื่อปี 2561 เขาได้ปรากฎตัวอีกครั้ง โดยได้มีการแชร์ภาพของเด่น ดอกประดู่ ที่ห่มผ้าเหลือง บวชเป็นพระ พร้อมข้อความระบุว่า "เจริญพรโยม พอดีวันนี้หลวงพี่อยู่ในวัดก็มีคนมาขอบวช แรกก็จำไม่ได้ แต่ดูไปดูมาก็นึกออก คุณเด่น ดอกประดู่ จากคำบอกเล่าคือเมื่อวานแกเดินทางออกจากบ้านเพราะน้อยใจหรือมีปัญหาในครอบครัวบางอย่าง ออกมาแต่ตัว มีคนจำได้เลยถามว่าแกจะไปไหน แกก็พูดให้ฟังว่าไม่สบายใจอยากไปหาที่บวช"
เลยมีคนบอกว่าหลวงพ่อวัดชุมพลท่านเมตตาลองไปหาให้ท่านช่วยดู ก็เลยมาที่วัดชุมพลมาคุยกับหลวงพ่อ หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านก็สงสารเห็นว่าคนมีทุกข์มาหาก็เลยบวชให้ฟรีเลยเผื่ออยู่วัดจะได้สบายใจ หลวงพี่เห็นในรูปร่างสังขารแกก็รู้สึกหดหู่ใจอยากให้มีคนช่วยเหลือแกยามที่แกสึกไปแล้วนะ ตอนนี้แกเป็นพระก็คิดว่าแกต้องการความสงบมากกว่า แต่ถ้าแกสึกไปแล้วมีปัญหาในครอบครัวแล้วต้องเร่ร่อนออกจากบ้านทั้งๆ ที่อายุมากเดินเหินก็ไม่ค่อยจะไหว หลวงพี่ว่าเหตุร้ายก็จะเกิดกับแกซักวัน
อยากให้คนที่ช่วยเหลือแกได้ หรือคนในสมาคมตลกช่วยกันดูแล เยียวยาจิตใจแกบ้างนะ หรือตามแต่แหม่มจะช่วยเหลืออะไรแกได้บ้าง อย่างน้อยแกก็เคยสร้างรายการ สร้างเสียงหัวเราะให้คนไทยเรามาพอสมควร อย่างน้อยลงเพจ มีญาติโยมหรือคนรู้จัก อยากแวะมาเยี่ยมเยียนพระเด่นก็ยินดี ไม่อยากให้ทุกคนลืมแก ที่สำคัญกลัวครอบครัวแกตามหาด้วย ถือได้ว่าอดีตตลกชื่อดังคนนี้ ผ่านเรื่องราวทั้งดีและร้ายมาพอสมควร
ล่าสุดทางด้านภรรยาของเด่น ดอกประดู่ ได้เปิดใจเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “ข่าวตอนนี้ที่ออกมาก็มีแต่ข่าวเสียหาย บางอันก็ดู บางอันก็ไม่ดู แต่ครอบครัวไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยคือตอนนี้มีคนเข้าใจผิดเยอะมาก คุณเด่นเขาเป็นอัลไซเมอร์ อารมณ์ก็จะขึ้นลงง่ายพอไม่พอใจอะไรก็จะงอนกัน
จริงๆคุณเด่นรักษาโรคอัลไซเมอร์มา 2 ปีแล้ว ไปรักษาที่ศูนย์การแพทย์ที่หนึ่งอยู่ ซึ่งการเดินทางไปที่ต่างๆของคุณเด่นนั้นเขาเป็นแบบนี้มาตลอด ตอนแรกๆเราก็ตาม แต่หลังๆไม่ได้ตามแล้วเพราะคุณเด่นจะกลับมาเอง ซึ่งการเป็นอัลไซเมอร์ของเขานั้นเขารู้เรื่องทุกหมดนะ เขาเองก็มีเอาเงินติดตัวไปด้วย และการที่คุณเด่นเดินทางไปที่ จ.ขอนแก่น เขาก็ไปหาคนรู้จักนะ ไม่ใช่ไม่มีจุดหมาย ซึ่งคนที่รู้จักก็เป็นญาติของเราเอง
ถ้าถามว่าเขาอยากกลับมารับงานเล่นตลกมั้ย เขาอยากทำนะ แต่ด้วยความจำที่ไม่เหมือนสมัยก่อน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ครอบครัวเราไม่ได้ตกอับ แต่ที่เขาทำ คิดว่าน่าจะเรียกร้องความน่าสนใจมากกว่า ตอนนี้ครอบครัวก็ดูแลอย่างดี หวังอยากให้เขาหายจากการป่วย