- 04 มิ.ย. 2562
หลวงปู่เหลือง พระราชาคณะวัย 92 พระผู้สมถะ เรียบง่าย ไม่หลงในลาภยศ
สำหรับพระแท้สายปฏิบัติธรรมสักรูปที่ยังคงวิถีแห่งพุทธอย่างสันโดษในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเราคงจะไม่ได้เห็นกันง่ายๆ เพราะท่านเหล่านั้นมักหลักหนีความวุ่นวาย อยู่อย่างเงียบสงบ โดยเฉพาะพระชั้นผู้ใหญ่ เว้นแต่จะมีลูกศิษย์ลูกหานำเรื่องราวชีวิตของท่านมาเผยแพร่ ผ่านโซเชียลมีเดียเป็นธรรมทานให้เราได้รู้จักกัน
เช่นเดียวกับท่านหลวงปู่พระราชาคณะ วัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ วัย 92 ปี ที่ท่านยังคงทำหน้าที่ของพระสงฆ์เป็นแบบอย่างที่ดี สร้าวความเลื่อมใสศรัทธาแก่พระพุทธศาสนิกชน
หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม หรือ พระราชปัญญาวิสารัท วัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เป็รพระเถราจารย์ชื่อดังแห่งแดนอีสานใต้รูปหนึ่ง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน จ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต)
หลังได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง ท่านได้พัฒนาวัดให้เป็นศูนย์รวมของชาวบ้าน ขณะเดียวกันได้นำพระภิกษุสามเณร ตลอดจนถึงประชาชนชาวบ้านพัฒนาวัดวาอาราม จนทำให้วัดมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เช่น มีศาลาอเนกประสงค์ชั้นเดียว ใช้สหรับฉันภัตตาหารเช้า ศาลาการเปรียญ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นที่ประชุมของพระสังฆาธิการ กุฏิสงฆ์ 23 หลัง พระอุโบสถ เมรุ และศาลาบำเพ็ญกุศล
นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์และศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ วัดกระดึงทองยังใช้เป็นสถานที่สอบธรรมสนามหลวง ใน จ.บุรีรัมย์ (ธรรมยุต) มีเพียงแห่งเดียว และเป็นเพียงแห่งเดียว และเป็นที่ประชุมพระสังฆาธิการประจำจังหวัดด้วย
ส่วนด้านการสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่เหลืองไม่ได้จัดสร้างบ่อยนัก นานครั้งในวาระพิเศษ จึงจะมีการจัดสร้างสักครั้งหนึ่ง ท่านจะเน้นคำสอยให้ลูกศิษย์นำไปปฏิบัติมากกว่า แต่จะอนุญาตให้ศิษย์ใกล้ชิดสร้างขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้วัตถุมงคลของท่านมีจำนวนไม่มากนัก แต่ปรากฎว่าได้รับความนิยมไม่่แพ้กัน
โดยส่วนตัวแล้วท่านปู่เป็นผู้สมถะเรียบง่าย รักสันโดษ ชอบอยู่ตามป่าเขา แม้ย่างเข้าวัยชราเปรียบดุจไม้ใกล้ฝั่ง แต่สั่งที่ดีในตัวท่าน ยิ่งชรา ยิ่งโชติช่วง ยิ่งสว่าง งามทั้งศีล ทั้งธรรม
ทั้งนี้ แม้ว่า พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะมีมากมายในศาสนาพุทธ แต่ท่านเหล่านั้นมักจะไม่มีเรื่องราวอะไรที่ทำให้ผู้คนสนใจ ซึ่งต่างจากพระที่บวชเข้าไปแล้วทีเสื่อมเสีย แล้วถูกแชร์ผ่านโลกโซเชียล จนหลายคนมองเพียงแง่ลบในพระพุทธศานาเท่านั้น