หนุ่มเบนซ์ดำย่องเงียบเยี่ยมผู้บาดเจ็บพร้อมครอบครัว พร้อมไหว้ขอโทษ

จากกรณีที่ร.ต.ท.วีรภัทร กุยแก้ว ร้อยเวร สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคัน เป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนงามวงศ์วาน ปากซอยงามวงศ์วาน 8 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.พระนั่งเกล้า และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง รุดตรวจสอบ
 

ขณะที่ภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพรถเบนซ์คันหรูขับอยู่บนถนนช่องทางขวาสุด มาจากแยกพงษ์เพชร มุ่งหน้าแยกแคราย เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้ชนท้ายรถกระบะอีซูซุอย่างแรง ทำให้รถกระบะพลิกคว่ำ

 

ต่อมา น.ส.จริยา ธีรสุปาณี อายุ 30 ปี แม่น้องดาริณ อายุ 7 เดือน ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า  "ขณะเกิดเหตุพ่อกำลังขับรถกลับบ้านที่ อ.ไทรน้อย พ่อกับแม่ขับรถไปหาพี่สาวที่ สุทธิสาร โดยเอาน้องดาริณไปด้วยเพราะปกติพ่อกับแม่เป็นคนเลี้ยง หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีใช้โทรศัพท์ของพ่อโทรเข้ามาแจ้งว่า พ่อแม่เกิดอุบัติเหตุรถชน ตอนนั้นตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก ที่คิดได้อย่างแรกคือถามไปว่าเด็กเป็นอะไรมั้ย มีเด็กไปด้วยอายุ 7 เดือน คนที่โทรมาบอกว่ามีคนช่วยเด็กออกไปแล้ว ตนจึงรีบมาที่เกิดเหตุ"

 

 

 จากนั้น แม่ของน้องดาริณ อายุ 7 เดือน ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวหลังคู่กรณีไม่ได้เดินทางมาเยี่ยมครอบครัวตามที่เคยได้แจ้งไว้ ซึ่งเธอเล่าว่า ได้นัดกันไว้ว่าจะเข้ามา แต่ทว่าคนขับไม่ได้เข้ามา และทางเราโทรไปทั้งวันว่าจะเข้ามาตอนกี่โมง คู่กรณีก็ไม่ได้รับโทรศัพท์ และไม่ได้มีการแจ้งว่าจะให้ใครเข้ามาแทน แต่พอเวลา 19.30 น. มีคนเข้ามาสองคน บอกว่าเป็นญาติ ตนเป็นคนถามว่าเป็นใคร คนที่เดินทางมาก็แจ้งว่าเป็นน้องสาวต่างมารดา เดินทางมาแสดงความเสียใจ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครอบครัวเครียดหนักค่ารักษา "น้องดาริณ" คนขับเบนซ์ดำชนกระเด็น หายหน้าหนีนัดเจรจา ย้อนให้ดูกรณี "เสี่ยเมาขับ" ทำยังไง..คนถึงยอมอภัย!

โดยทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา 3 ข้อหาหนักคือ ขับรถโดยประมาท หวาดเสียว เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และขับรถโดยประมาททำให้ผู้เสียทรัพย์ เบื้องต้นทางนายนิรัฐภูมิได้ยอมรับทุกข้อกล่าวหา โดยทางพนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำไว้เป็นหลักฐานเพื่อประกอบสำนวนคดี

 

ล่าสุด นายนิรัฐภูมิ พร้อมครอบครัวและทนายความ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมครอบครัวรถกระบะที่ถูกชนท้ายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านงามวงศ์วาน เพื่อแสดงความเสียใจ พร้อมทั้งพูดคุยเรื่องการเยียวยา โดยมี น.ส.จริยา อายุ 30 ปี แม่ของน้องดาริณ หนูน้อยวัย 7 เดือนอยู่ร่วมด้วย เจ้าตัวยังยกมือไหว้ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ทั้งนี้ น.ส.จริยา เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้ามาขอโทษครอบครัวของตน เขาไม่ได้หนีไปไหน เขายุ่งอยู่กับงานศพจริงๆ ส่วนรถคันที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของเจ้านาย เขาเป็นเพียงคนทำงานบ้าน เลี้ยงสุนัขให้เจ้านาย วันเกิดเหตุเอารถมาขับ เพื่อไปเยี่ยมแม่ที่ย่านหลักสี่ โดยเจ้านายก็รับทราบแล้ว เพราะเจ้านายให้ใช้รถคันนี้ประจำอยู่แล้ว

 

 

ส่วนเรื่องค่าเสียหายเขาเสนอมานั้น เป็นค่าเสียหายนอกเหนือจากที่ประกัน เป็นค่าสินไหมทดแทนทั้ง 3 คน เป็นเงิน 1 ล้านบาท เขาต้องใช้เวลาดำเนินการในจุดนี้ ตนยังไม่ได้ตกลงต้องรอดูเขาก่อน เพราะเขาบอกว่าจะมีคนให้เขายืม ทางตนก็ให้เวลาเขาไตร่ตรองดูว่าเงินเหมาะสมหรือไม่

 

ก่อนหน้านี้ที่มีออกข่าวไปว่า เราไปเรียกร้องเงินฝ่ายเขา ตนยืนยันว่าไม่มี ไม่เคยคุยด้วยโดยตรง เพราะคุยแต่กับแม่ของเขา นี่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกันโดยตรง สำหรับอาการคุณตายังรักษาตัวอยู่ แขนทั้งสองข้างยังใช้การไม่ได้

 

 

ขณะเดียวกัน คุณยายในตอนแรกที่แจ้งว่ากระดูกซี่โครงร้าว แต่ตอนนี้พบว่าซี่โครงหัก 3 ซี่ ต้องรอดูผลเอ็กซเรย์อีกครั้งว่าซี่โครงจะทิ่มปอดหรือไม่ แต่ตอนนี้ทั้งสองคนสามารถสื่อสารได้แล้ว การดูแลตนและสามีขอหยุดงานแบบไม่รับเงินเดือน ประมาณ 4 เดือน เพราะไม่มีใครดูแลลูกๆ ทั้ง 3 คน