- 06 มิ.ย. 2562
จากกรณีที่กระทรวงการคลังได้เตรียมขยายเวลาจัดทำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) สำหรับช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 14.5 ล้านคน เป็นกรณีพิเศษออกไปอีก 3 เดือน จากเดิมโครงการจะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2562 ให้ไปถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2562 เพื่อต้องการช่วยลดค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรคนจนและช่วยประคับประคองเศรษฐกิจในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 3.5-3.8%
จากกรณีที่กระทรวงการคลังได้เตรียมขยายเวลาจัดทำโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) สำหรับช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 14.5 ล้านคน เป็นกรณีพิเศษออกไปอีก 3 เดือน จากเดิมโครงการจะสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2562 ให้ไปถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2562 เพื่อต้องการช่วยลดค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรคนจนและช่วยประคับประคองเศรษฐกิจในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 3.5-3.8%
โดย กระทรวงการคลัง จะมีการหารือร่วมกับสำนักงบประมาณและกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อขอให้สำนักงบประมาณจัดหาเงินเข้ามาเติมในกองทุนประชารัฐฯ เพิ่มเติม เนื่องจากหลังสิ้นเดือนก.ย. 2562 เงินในกองทุนประชารัฐฯ จะเหลือเพียง 1-2 พันล้านบาทซึ่งไม่เพียงพอ โดยกระทรวงการคลังจะเสนอรายละเอียด เหตุผลและความจำเป็นของการขยายโครงการให้พิจารณา ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าต้องใช้เงินมากกว่าเดือนละ 4 พันล้านบาท หรือรวม 3 เดือน อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนแหล่งเงินจะต้องรอสำนักงบประมาณพิจารณาในการจัดหามา
แต่เดิมทีกระทรวงการคลังคาดว่าจะทำโครงการบัตรคนจนโครงการใหม่ได้ต่อเนื่อง โดยเริ่มได้วันที่ 1 ต.ค.2562 ทันที หลังจากโครงการเก่าสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2562 แต่ผลจากการที่การจัดทำงบประมาณประจำปี 2563 ล่าช้าออกไป 3 เดือนเป็นเดือนม.ค. 2563 ทำให้ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณเข้าไปเติมในกองทุนประชารัฐฯ ได้ทัน ซึ่งทำให้โครงการบัตรคนจนเกิดสุญญากาศไป 3 เดือนและเกิดผลกระทบต่อกำลังซื้อของคนระดับฐานรากตามมา จึงจำเป็นต้องมีการเสนอให้ขยายโครงการเป็นกรณีพิเศษอีก 3 เดือน
ทั้งนี้ การให้สวัสดิการแก่บัตรคนจนช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 3 เดือน กระทรวงการคลังมีความตั้งใจเสนอให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับใกล้เคียงกับของเดิม แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการจัดหางบประมาณด้วยทำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากหาได้น้อย อาจต้องมีการตัดทอนสวัสดิการบางส่วนที่จำเป็นน้อยลงออกไปบ้าง ขณะที่การจัดทำโครงการลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ จะมีการเสนอให้รัฐบาลใหม่ทำคู่ขนานพร้อมกับช่วงทำบัตรคนจนแบบปัจจุบัน โดยจะต้องเปิดลงทะเบียนให้เสร็จเพื่อให้เริ่มโครงการได้แบบไร้รอยต่อในวันที่ 1 ม.ค.2563 ทันที
นอกจากนี้ การเติมเงินลงไปในเศรษฐกิจระดับฐานรากยังมีความจำเป็นต่อการประคองเศรษฐกิจในช่วงนี้ เนื่องจากกำลังซื้อในระดับผู้มีรายได้น้อยยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ซึ่งเกรงว่าหากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐขาดช่วงไป 3 เดือนในช่วงปลายปี จะกระทบต่อเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของรากหญ้าอย่างหนัก ซึ่งเรื่องการต่อเวลาบัตรคนจนออกไปอีก 3 เดือนเบื้องต้นนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง ได้เห็นด้วยในหลักการแล้ว
สำหรับสวัสดิการที่ให้กับผู้ถือบัตรคนจน 14.5 ล้านคน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3 เดือนนี้ คาดว่าจะพิจารณาให้สวัสดิการขั้นพื้นฐานเป็นอันดับแรก เช่น วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 200-300 บาท/เดือน วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคน/ 3 เดือน สวัสดิการค่าเดินทาง ทั้งค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคน/เดือน วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อคน/เดือน และวงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อคน/เดือน แต่หากงบประมาณมีเพียงพอก็จะก็จะขยายสวัสดิการในส่วนเพิ่มเติมให้ เช่น วงเงินช่วยเหลือสำหรับผู้พิการ วงเงินช่วยเหลือสำหรับผู้สูงอายุ วงเงินสำหรับค่าเช่าบ้าน เป็นต้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- เงินเข้า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 6 รอบ ประจำเดือน มิ.ย. 62
- เงินที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับในเดือน มิ.ย. 62
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขึ้นแอร์พอร์ตลิงค์ฟรี
- ธนาคารออมสิน ชี้แจงรายละเอียดสินเชื่อธนาคารปชช. สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ