- 13 มิ.ย. 2562
ด้านนายเตชะ ทับทอง พร้อมด้วย น.ส.ซินเธีย เอี่ยมสะอาด แกนนำกลุ่มฅนไทยผู้รักชาติ พร้อมผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.เครือณรงค์ ขมิ้นเครือ รองสว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.
จากกรณีที่นางสาวพรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกอนาคตใหม่ ได้ออกมาชี้แจงถึงภาพที่มีการถ่ายรูปชุดครุยจุฬาฯ ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม จนกลายเป็นกระแสถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ซึ่งเจ้าตัวอธิบายว่า
ตอนนั้นเป็นยุคหลังรัฐประหาร 2549 และมีกระแสการกล่าวหาผู้คนว่าไม่จงรักภักดีเกิดขึ้นไปทั่วทั้งในโลกอินเทอร์เน็ตและในโลกแห่งความเป็นจริง ช่อกับเพื่อนๆ เติบโตมาในบรรยากาศความขัดแย้งทางการเมืองเช่นนี้
พวกเราในฐานะนักเรียนรัฐศาสตร์ก็เฝ้าติดตามปรากฏการณ์เหล่านี้ด้วยความกังวลอย่างมาก บ่อยครั้งการนำเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้โจมตีทางการเมือง แบ่งฝักฝ่ายในหมู่ประชาชนให้เกลียดชังกัน หรือบานปลายไปถึงขั้นล่าแม่มดกัน ก็กลายเป็นความขื่นขันตลกร้าย หลังรัฐประหาร 2549 เป็นเรื่องง่ายมากที่คนที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารจะถูกกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี และเป็นเรื่องง่ายมากที่จะจัดการใครให้ติดคุกเพียงมีคนชี้หน้าเขาว่าไม่จงรักภักดี
การสร้างความเกลียดชังแบบนี้ก่อให้เกิดคำถามมากมายในหัวของคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่เติบโตมาในยุคหลังรัฐประหาร กระทั่งบางครั้งกลายเป็นสิ่งที่เรานำมาคุยล้อกันเพื่อสะท้อนความขื่นขันในโศกนาฏกรรมทางการเมืองของไทย นี่คือ “ข้างหลังภาพ” ที่บอกว่า “ไม่ควรมีคำบรรยาย”เราจะบรรยายอย่างไรได้บ้างในยุคสมัยที่วันหนึ่ง อาจมีคนมาชี้หน้ากล่าวหาว่าคุณมันไม่จงรักภักดี และดังนั้นคุณต้องติดคุกหรือออกจากประเทศนี้ไป
ต่อมาทางด้านพล.ต.ท.ปิยะ อุทยาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวแห่งชาติ ( ศปอส.ตร.) ได้กล่าวถึงกรณีที่น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอานคตใหม่ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ โพสต์รูปชุดครุยจุฬา ในลักษณะที่ไม่เหมาะสมว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจ รวมถึงหลายๆ กรณีที่เกิดขึ้น
ศปอส.ตร.ได้สั่งการไปยัง 3 หน่วยงานให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นยังตอบไม่ได้ว่าผิดหรือไม่ผิด ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด รวมทั้งตรวจสอบเพื่อนที่อยู่ในรูปถ่ายด้วยว่ามีการกระทำความผิดหรือไม่ ถ้าผิดก็ดำเนินการไปตามกระบวนการกฎหมาย การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไม่เอาตัวบุคคลเป็นตัวตั้ง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทุกกรณีที่เข้าข่ายกระทำความผิด
อ่านข่าว : เคลื่อนไหวแล้ว สตช.สั่งตั้ง 3 ทีม เร่งสอบ"ช่อ ส้มหวาน" โพสต์ลบหลู่ผิดกม.หรือไม่?
ขณะที่ทางด้านพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก บก.ปอท. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) สั่งการให้ศปอส.ตร.,บก.ปอท. และตำรวจสันติบาล เร่งตรวจสอบการแชร์ภาพในอดีตของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และช่องทางอื่นๆ ซึ่งทาง บก.ปอท.มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นหลัก
เบื้องต้นผู้บังคับการ ปอท. ได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบประวัติย้อนหลัง และคาดว่า เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้นจะรายงานผลต่อ พล.ต.ท.ปิยะ ทราบโดยเร็ว ยืนยันว่าการทำงานของเรา จะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ โปร่งใสเป็นธรรมและตรวจสอบได้ ตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดแจ้งความดำเนินคดีบุคคลการเมืองใดตามความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 ซึ่งจะมีอายุความ 20 ปี ส่วนกรณี น.ส.พรรณณิการ์ ตั้งค่าเฟซบุ๊กเป็นส่วนตัวนั้น คงไม่กระทบต่อการทำงานเพราะก่อนหน้านี้ตำรวจได้เก็บข้อมูลไว้บางส่วนแล้ว
ล่าสุดทางด้านนายเตชะ ทับทอง พร้อมด้วย น.ส.ซินเธีย เอี่ยมสะอาด แกนนำกลุ่มฅนไทยผู้รักชาติ พร้อมผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.เครือณรงค์ ขมิ้นเครือ รองสว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ หลังปรากฏภาพ รับปริญญาในเฟซบุ๊กถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับพระบรมฉายาลักษณ์ เมื่อปี 2553 โดยเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง โดยน.ส.ซินเธีย เอี่ยมสะอาด พร้อมนายเตชะ ทับทอง จิตอาสา ได้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บอกเพียงแต่กล่าวสั้นๆว่า ต้องการมาเเจ้งความ เพราะทราบข่าวว่ายังไม่เคยมีใครมาร้องทุกข์กับกรณีดังกล่าว และไม่ได้อยากให้เป็นข่าว
อย่างไรก็ตามพบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 23.33 น.นายเตชะ ทับทอง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "เอ๊า!!! ถามมาก็ยังไม่ได้ตอบเลยว่าไป หรือ ไม่ไป .... เล่นเอาไปลงข่าวเลยแบบนี้ ... ผมยกเลิกนัดคุยงานดีไหมครับ สงสัยคงต้องไปจริงๆ ล่ะครับ ใครจะด่าไปด่าเดลินิวส์นะ .... ฐานที่ยุให้ผมไป ปอท. 5555"