ปิดคดีหนุ่มเบนซ์ดำซิ่งชนปิคอัพไม่ใช่เหตุสุดวิสัย แจ้งข้อหาหนักทำคนเสียชีวิตเด็กเจ็บ

จากกรณีที่ร.ต.ท.วีรภัทร กุยแก้ว ร้อยเวร สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคัน เป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย บริเวณถนนงามวงศ์วาน ปากซอยงามวงศ์วาน 8 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.พระนั่งเกล้า และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง รุดตรวจสอบ
 

ขณะที่ภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพรถเบนซ์คันหรูขับอยู่บนถนนช่องทางขวาสุด มาจากแยกพงษ์เพชร มุ่งหน้าแยกแคราย เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้ชนท้านรถยนต์กระบะอีซูซุอย่างแรง ทำให้รถกระบะพลิกคว่ำ

 

ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ คนขับเบนซ์คันให้การในเบื้องต้นว่า ได้เอื้อมลงไปเก็บแก้วที่ตกอยู่และค้างตรงเบรก ทำให้ควบคุมรถตัวเองไว้ไม่ได้และพุ่งชน แต่เขาก็ต้องควบคุมรถให้เบี่ยงไปทางซ้าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุบานปลายไปมากกว่านี้ เหตุการณ์นี้จึงเป็นอุทาหรณ์ในการวางสิ่งของไว้ภายในรถ ขณะที่ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลนั้น ชายคนขับรถเบนซ์ได้รับปากจะรับผิดชอบดูแลทั้งหมด เพราะตนเองมีประกันชั้นหนึ่ง และมีรายงานว่า หนึ่งในผู้บาดเจ็บที่นั่งโดยสารมากับรถยนต์โตโยต้าได้เสียชีวิต 1 ราย โดยสรุปเหตุการณ์ครั้งนี้มีรถยนตเสียหาย 3 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน มีผู้บาดเจ็บ 8 คน และเสียชีวิต 1 คน 

 

อ่านข่าว :  เปิดคลิปชัดๆ นาทีเบนซ์ดำพุ่งชนยับ 3 คันมีเจ็บ เสียชีวิต โซเชียลรัวเม้นต์อ้างแก้วตกติดใต้เบรคฟังไม่ขึ้น

โดยก่อนหน้านี้  เพจเฟซบุ๊กเฮีย ได้ออกมาอัพเดทหลังจากได้รับการติดต่อจากคุณแม่ของน้องดาริณเกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหายของเบนซ์ดำ ระบุข้อความว่า "เฮียได้รับการติดต่อจากคุณแม่น้องดาริณ ในเหตุการณ์เบนซ์กับแก้วเก็บความเย็นที่หายไป คุณแม่น้องมาแจ้งเฮียว่า "วันนี้นัดตกลงค่าสินไหมที่คู่กรณีอ้างว่าจะชดใช้ ครั้งก่อนแจ้งว่า 3 คน 1 ล้าน ทางดิฉันเลยให้เวลากลับไปทบทวนใหม่ 7 วัน ครบกำหนดวันนี้ ติดต่อคู่กรณียากมากค่ะ"

 

อ่านข่าว : แม่น้องดาริณอัพเดทล่าสุด หนุ่มเบนซ์ดำชนปิคอัพ 
 

ล่าสุด พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก. สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่รถเก๋งเบนซ์ พุ่งชนปิคอัพ กล่าวว่า "พนักงานสอบสวนได้เรียกคู่กรณีทั้งหมดมาตกลงเรื่องการชดใช้ความเสียหาย โดยให้ผู้เสียหายเป็นฝ่ายเสนอจำนวนเงินที่ต้องการผ่านประภัยชั้น 1 ของรถเบนซ์ ซึ่งจะนำกลับไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แต่เบื้องต้นทราบว่ามีวงเงินสูงสุดจ่ายให้ไม่เกินคนละ 1 ล้านบาท" 

"สำหรับเรื่องคดีอาญานั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งตอนนี้ได้ดำเนินไปตามขั้นตอนเกือบครบถ้วนแล้ว เหลือแค่รอรวบรวมเอกสารทางการแพทย์ที่ยังติดตามอาการผู้บาดเจ็บ 1 คนที่ยังอยู่ในห้องไอซียูและคาดว่าน่าจะไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ จะสามารถส่งฟ้องศาลได้ ส่วนประเด็นเรื่องการตรวจแอลกอฮอล์และสารเสพติดนั้น ไม่พบในร่างกายผู้ขับขี่ โดยร้อยเวรได้ดำเนินการทันทีหลังเกิดเหตุ"

 

นอกจากนี้ ผกก. สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวอีกว่า "คดีนี้ตำรวจสืบสวนสอบสวนจนเชื่อได้ว่า เป็นการขับรถโดยประมาท ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยอย่างแน่นอน ดังนั้นเรื่องแก้วติดแป้นเบรคจริงหรือไม่นั้นจึงไม่เกี่ยวในทางคดี ส่วนที่คนขับให้การก็ถือว่าสอดรับกับแก้วที่พบบนรถและคราบน้ำที่หกเลอะตามเบาะอยู่จริง แต่คนขับนั้นไม่ใช่เจ้าของรถโดยตรง แต่ทราบว่าเป็นพนักงานระดับกลางของบริษัทด้านการค้าขายขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งและใช้รถคันนี้คล้ายๆว่าเป็นรถประจำตัว ซึ่งตำรวจต้องเรียกเจ้าของรถตัวยมาให้ปากคำประกอบสำนวนอีกครั้งหนึ่งด้วย"