รู้แล้ว สาเหตุ ไม่เข้าระงับ

จากกรณี เมื่อวันที่ 15มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนาเข้าตรวจสอบเหตุยิงกันเสียชีวิต บริเวณซอยอุมดมสุข 1 ย่านบางนา กทม. เบื้องตันพบศพนายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี พนักงานบริษัทเคอรี่ ถูกกระสุนเจาะบริเวณหัวคิ้วซ้ายนอนเสียชีวิตจมกองเลือด อยู่บริเวณริมถนนซอยเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังชายไม่ทราบชื่อบาดเจ็บจากคมกระสุนอีก 1 รายถูกส่งตัวไปรักษายังรพ.ก่อนหน้านี้ และยังพบผู้บาดเจ็บอีกราย ถูกมีดฟันหัวอาการสาหัสทราบชื่อนายทวีเกียรติ สุทธิสนอง อายุ 20 ปี เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องตันก่อนส่งตัวไปรักษายังรพ.

 

ต่อมา พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมกลุ่มวินมอเตอร์ไซด์ ที่ก่อเหตุยกพวกตีกัน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บว่า

ได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก สน.บางนา ว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 62 เวลาประมาณ 01.30 น. พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา ได้ร่วมกันขอศาลจังหวัดพระโขนง อนุมัติหมายจับบุคคลที่กระทำความผิดในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว่ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว , ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน” ได้แก่ 1.นายวันชัย มงคลเข็ม 2.นายปิยะ พวงเกษร 3.นายรังสรรค์ ศรไชยากร ซึ่งศาลจังหวัดพระโขนง ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 หมาย และอนุมัติหมายค้นสถานที่เพื่อพบและยึดสิ่งของมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมายหรือใช้ในการกระทำความผิดเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการสอบสอน จำนวน 4 แห่ง

 

 

โดยต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ระดมกำลังตรวจค้นเป้าหมายตามหมายค้นของศาลจังหวัดพระโขนง จนสามารถจับกุม นายปิยะ พวงเกษร และ นายรังสรรค์ ศรไชยากร ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง พร้อมทั้งยังจับกุม นายเจริญ หรือ ต่อ เจริญผล ในข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีก ขณะนี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังอยู่ระหว่าง สอบสวน ซักถาม ขยายผล ผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งถือว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก ประกอบกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ยังคงระดมกำลัง ตรวจค้น ติดตามจับกุม นายวันชัย มงคลเข็ม ที่ยังคงหลบหนีไปอยู่ และหากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนการกระทำความผิดมีความเชื่องโยงไปถึงผู้ใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

ด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. ได้กล่าวถึงกรณีมีภาพตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยว่า จากการพิจารณาแล้วเห็นว่ากำลังตำรวจตอนนั้นน้อยกว่า ไม่เพียงพอที่จะสามารถระงับเหตุไว้ได้ ผู้ก่อเหตุมีจำนวนมาก โดยได้สั่งการให้เพิ่มกำลังตำรวจลงพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุซ้ำ ในส่วนที่ว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิอยู่เบื้องหลังคอยสั่งการหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบว่าเป็นตัวบุคคลจริงหรือกล่าวอ้าง