แพทย์เฉพาะทางคาด น้ำตาล The Star อาจเป็นโรคปอดชนิดหายาก

จากกรณีของ ที่ นางสาว บุตรศรัณย์ ทองชิว หรือ น้ำตาล เดอะสตาร์ ดาราสาวชื่อดัง มีอาการเลือดออกจากปากจมูกและกระเพาะอาหารเป็นจำนวนมากก่อนจะหมดสติ และถูกปั๊มหัวใจถึง 2 ครั้งก่อนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง
 

กระทั่ง ผู้ใช้ facebook ที่ชื่อว่าฮีโร่เก่าญี่ปุ่น ซึ่งเป็น facebook ของ นายวิโรจน์ ทองชิว ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังบิดาของน้องน้ำตาล  ได้โพสต์ข้อความว่า "ลูกน้ำตาล บุตรศรัณย์ ทองชิว จากไปแล้วอย่างสงบและสวยงาม  02.17 น. ขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใย สงสารลูกจับใจ หมวดรัน น้ำตาล เดอะสตาร์" โดยภายหลังจาก facebook ดังกล่าวถูกโพสต์ออกมาก็มี เหล่าบรรดาแฟนคลับและผู้ที่ติดตามอาการของน้องน้ำตาลเข้ามาแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก 

 

 

 

 หลังจากนั้นจึงเคลื่อนย้ายร่างของ น้ำตาล จากโรงพยาบาลศิริราช มาถึงวัดป้อมวิเชียรโชติการาม จ.สมุทรสาครแล้ว ซึ่งมีครอบครัว ญาติ และพี่น้องเหล่านักแสดงที่เคยร่วมงานกับนางฟ้า เดอะ สตาร์ คนนี้ อาทิ นักแสดงจากเรื่องผู้กองเจ้าเสน่ห์ เทวดาท่าจะเท่ง และอีกมากมายมารอรับ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

 

 

ล่าสุด ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ในฐานะอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวให้ความรู้ว่า อยากบอกกับประชาชนที่กำลังตื่นกลัวว่าจากข้อมูลข่าวที่ระบุว่า น้องน้ำตาลมีสุขภาพแข็งแรงมาโดยตลอด อาการไอเป็นเลือดเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอดพบว่าปกติ จึงไม่ใช่เป็นมะเร็งปอด หรือมะเร็งทางเดินหายใจส่วนบน ไม่ใช่เป็นวัณโรค 

 

 

และไม่ใช่โรคหลอดลมพองจากแผลวัณโรคเก่า หรือจากการอักเสบของปอดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุของการไอเป็นเลือดที่พบกันบ่อย ๆ โดยกรณีของน้องน้ำตาลจึงเป็นสภาวการณ์ที่พบน้อยมากจริง ๆ ประชาชนจึงไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจว่าจะเกิดสภาวะเดียวกัน แต่คนที่เป็นโรคทางเดินหายใจส่วนบน หรือโรคปอดอื่น ๆ ที่กล่าวมาแล้ว หรือเป็นโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด มีโอกาสที่จะไอเป็นเลือด หรือเสมหะมีเลือดปน หากมีอาการไอเป็นเลือด โดยเฉพาะสด ๆ แม้จะมีจำนวนเลือดออกมาไม่มาก ไม่ควรรอช้า เพราะมีโอกาสที่เลือดจะออกมากและออกเร็ว ทำให้เลือดอุดทางเดินหายใจ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับน้องน้ำตาลได้

 

 

 

สรุปว่าคนทั่วไปที่สุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดสภาวะเดียวกันกับน้องน้ำตาล แต่ผู้ใดก็ตามที่ไอเป็นเลือด ไม่ว่าจะเป็นโรคปอดอยู่แล้วหรือไม่เป็น ควรรีบไปพบแพทย์ ซึ่งหากแพทย์ตรวจสุขภาพและในรายที่อาจจะมีความเสี่ยงที่เลือดจะออกมาก ๆ แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลเพื่อช่วยรับมือ ทั้งนี้สิ่งสำคัญในการดูแลการรักษาสุขภาพปอดก็คือ การใช้ชีวิตตามปกติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่ทุกประเภท หลีกเลี่ยงการหายใจเอามลพิษทางอากาศ และสิ่งแปลกปลอมทุกชนิด ก็จะตัดสาเหตุการเกิดโรคปอดที่จะทำให้ไอเป็นเลือดออกไปได้ทั้งหมดแล้ว