ลุงตาบอดสู้ชีวิตขอปิดบัญชีบริจาค หลังน้ำใจหลั่งไหล โอนเงินช่วยเหลือ

จากกรณีที่ได้มีการให้ความช่วยเหลือ ชายพิการตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง ซึ่งอาศัยอยู่ภายในบ้านปูน 1 ชั้น เลขที่ 55/5 ม.13 ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ในสภาพบ้านเก่า อิฐผนังบ้านเปลือยยังไม่ได้ฉาบปูน หลังคากระเบื้องเก่า มีรอยรั่ว หน้าต่างมีแต่ช่องวงกบ ใช้สังกะสีตีปิดไว้พอได้บังแดดบังฝน อาศัยอยู่กับภรรยาและลูกสาว อายุ 12 ปี ซึ่งกำลังจะขึ้นเรียนชั้น ม.1 มีฐานะยากจน

จากกรณีที่ได้มีการให้ความช่วยเหลือ ชายพิการตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง ซึ่งอาศัยอยู่ภายในบ้านปูน 1 ชั้น เลขที่ 55/5 ม.13 ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ในสภาพบ้านเก่า อิฐผนังบ้านเปลือยยังไม่ได้ฉาบปูน หลังคากระเบื้องเก่า มีรอยรั่ว หน้าต่างมีแต่ช่องวงกบ ใช้สังกะสีตีปิดไว้พอได้บังแดดบังฝน อาศัยอยู่กับภรรยาและลูกสาว อายุ 12 ปี ซึ่งกำลังจะขึ้นเรียนชั้น ม.1 มีฐานะยากจน แทบไม่มีข้าวกรอกหม้อและที่สำคัญคือลูกสาวที่กำลังจะขึ้นชั้นเรียน แต่ไม่มีเงินทุนการศึกษาและไม่มีค่าใช้จ่ายไปโรงเรียน


แต่ชายพิการรายนี้ ไม่เคยงอมืองอเท้ารอคอยความช่วยเหลือจากใคร ด้วยการออกหาจับปลาและหว่านแห รวมทั้งสามารถขึ้นต้นไม้ต้นสะเดาเก็บพืชผักต่างๆ มาขายและประทังชีวิตหล่อเลี้ยงครอบครัวเหมือนคนปกติ รวมทั้งยังรับจ้างยกอิฐบล็อก เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัวไม่หยุดอยู่นิ่ง

 

ลุงตาบอดสู้ชีวิตขอปิดบัญชีบริจาค หลังน้ำใจหลั่งไหล โอนเงินช่วยเหลือ


 

โดย ชายพิการตาบอดรายนี้คือ นายสัจจา ใจหาญ อายุ 50 ปี ภรรยาชื่อ นางหาม อุไรรักษ์ อายุ 58 ปี และลูกสาว คือ ด.ญ.กุ้งนาง ใจหาญ อายุ 12 ปี ที่กำลังจะขึ้นเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนเทศบาล 3 โดยนายสัจจา ใจหาญ บอกว่าตนเองตาบอดมานานกว่า 25 ปีแล้ว เกิดจากอุบัติเหตุตกจากรถบรรทุกปอ จนทำให้ตาเริ่มพร่ามัว

 

ลุงตาบอดสู้ชีวิตขอปิดบัญชีบริจาค หลังน้ำใจหลั่งไหล โอนเงินช่วยเหลือ

 

จากนั้นถูกล้อยางรถบรรทุกทับ ขณะกำลังเปลี่ยนยางรถสิบล้อ ทำให้ตาเริ่มบอดสนิทและมาพบกับภรรยาคนปัจจุบันที่ยอมอยู่กินกับตนเองจนมีลูกโดยไม่รังเกียจ แม้จะลำบากแค่ไหนก็ตาม แต่เป็นห่วงเรื่องเดียวอยากให้ลูกสาวได้เรียนสูงๆ จะได้ไม่ลำบากเหมือนพ่อ อีกทั้งบ้านที่เก่าทรุดโทรมแล้ว อยากได้ทุนมาซ่อมแซม ลำพังรับจ้างก็ไม่มีเงินเพียงพอกินและให้ลูกไปโรงเรียน 
 

ลุงตาบอดสู้ชีวิตขอปิดบัญชีบริจาค หลังน้ำใจหลั่งไหล โอนเงินช่วยเหลือ

 

ลุงตาบอดสู้ชีวิตขอปิดบัญชีบริจาค หลังน้ำใจหลั่งไหล โอนเงินช่วยเหลือ

 

ล่าสุด คุณลุงวัย 50 ปี นั้นมีความประสงค์ปิดบัญชีธนาคารที่ประชาชนคนไทยให้การช่วยเหลือครอบครัว โดยประชาชนที่ทราบข่าวได้โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารออมสิน สาขาสุรินทร์ ชื่อบัญชี ด.ญ.กุ้งนาง ใจหาญ บัญชีเลขที่ 02 017 030 1657 ตอนนี้ยอดบริจาคเงินมีความเพียงพอต่อการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคตแล้ว รวมทั้งหมด 926,215 บาท 

 

ลุงตาบอดสู้ชีวิตขอปิดบัญชีบริจาค หลังน้ำใจหลั่งไหล โอนเงินช่วยเหลือ

 

โดยลุงได้บอกว่า "ครอบครัวของตน ต้องขอขอบคุณผู้ใจบุญจากทั่วประเทศที่โอนเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ ยอดเงินทั้งหมดประมาณ เก้าแสนสองหมื่นหกพันบาท ตนจึงขอปิดบัญชีแล้ว เนื่องจากเพียงพอแล้ว ให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือผู้ที่ลำบากคนอื่นบ้าง ส่วนบัญชีใหม่ มีผู้ใหญ่บ้านกับ อบต.และลูกสาว ที่จะต้องร่วมกันเซ็นเบิกจ่ายในแต่ละครั้ง ตนจะเก็บเงินไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกได้เรียนต่อไป ตนไม่เคยมีเงินมากขนาดนี้ ตนดีใจมาก จะใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าที่สุด ส่วนงานรับจ้างยกอิฐบล็อกตนก็ยังคงดำเนินชีวิตทำงานตามตามปกติ"

 

ลุงตาบอดสู้ชีวิตขอปิดบัญชีบริจาค หลังน้ำใจหลั่งไหล โอนเงินช่วยเหลือ

 

นอกจากนี้ นายประทีป ดุมนิล ผู้ใหญ่บ้านหนองเต่า ร่วมกับ สมาชิก อบต ,และลูกสาว วัย 12 ปี เซ็นต์ชื่อร่วมเบิกจ่ายเงินในบัญชีร่วมกัน 3 คน เพื่อความโปร่งใสและท้องถิ่นจะช่วยดูแลควบคุมการใช้จ่ายเงินให้ครอบครัว โดยจะแบ่งเงินบางส่วน เอาไปซ่อมแซมบ้านเรือนและส่วนหนึ่งนำไปเป็นค่าเทอมของหนูน้อย