บิ๊กป้อม รับเซ็นตั้งบิ๊กโจ๊ก เป็นอนุฯกตร. ยันดึงคนนอกมานั่งได้รอผบ.ตร.แจงเหตุเป็นเรื่องภายในสตช.

จากกรณีเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวว่า มีการใช้คำสั่งมาตรา 44 ย้ายพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้กลับเข้ามารับราชการตำรวจในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจ โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พร้อมถามสื่อแบบอารมณ์ว่า ไปเอาข่าวนี้มาจากไหน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โปรดเกล้าฯ ให้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล พ้นจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการก.ตร.เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ มีพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานอนุกรรมการ และมีชื่อของพล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นอนุกรรมการด้วย 

 

 

ทั้งนี้อำนาจหน้าที่ของอนุกรรมการก.ตร.จะมีหน้าที่หลักๆ อาทิ พิจารณาและเสนอความเห็นต่อ ก.ตร.ในการวินิจฉัยปัญหาด้านข้อกฎหมายตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

 

 

ส่วนกรณีรายชื่อของพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ มีชื่อเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการแล้วนั้น จะกลับมารับข้าราชการตำรวจหรือไม่ เรื่องนี้ตนได้บอกไปแล้ว และประกาศดังกล่าวก็เป็นคำสั่งเก่า  ที่เสนอรายชื่อขึ้นมาทดแทนรายชื่อคณะอนุกรรมการรายที่เสียชีวิต ยืนยันว่าพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ไม่สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งตำรวจได้ เนื่องจากเป็นข้าราชการพลเรือนแล้ว ส่วนกรณีนายวิษรุ เครืองามรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายบอกว่าพลตำรวจโทสุรเชษฐ์สามารถกลับมาเป็นข้าราชการตำรวจได้ โดยใช้คำสั่งปกติ ภายหลังจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. หมดอำนาจแล้วนั้น ตนว่าสื่อควรกลับไปถามนายวิษณุเอง เพราะตนไม่ทราบ