- 28 มิ.ย. 2562
น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ "โบว์" แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เคยเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ...ครอบครัวของจ่านิวลำบากมาก
จากกรณีที่นางพัฒน์นรี ชาญกิจ มารดานายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ได้เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น. มีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 4 นาย รุมทำร้าย นายสิริวชญ์ ที่หน้าปากซอยพระยาสุเรนทร์ ซอย 2 อาการล่าสุดได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยวินจักรยานยนต์รับจ้าง พบเห็นเหตุการณ์ และได้แจ้งกู้ภัยร่วมไทร ก่อนจะนำตัวส่ง โรงพยาบาลนวมินทร์ 1 เป็นลำดับต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กู้ภัยเร่งนำตัว จ่านิว ส่ง รพ.
เบื้องต้นพบว่า นายสิริวิชญ์ โดนอาวุธประเภทไม้ตีคล้ายคมแฝก เข้าที่หน้า และศีรษะ ซึ่งอาการเบื้องต้นนายสิริวิชญ์ หมดสติ ต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มอากาศหายใจ โดยแพทย์ได้ดูแลอาการอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู และจะมีการรายงานเพิ่มต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อัพเดตอาการ จ่านิว ในห้องไอซียู
ต่อมา น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ว่า "จ่านิวโดนรุมทำร้ายที่ปากซอยบ้าน ชาวบ้านที่ช่วยเหลืออยู่แจ้งคุณแม่ว่าน้องกำลังจะไม่รู้สึกตัว ปากซอยรามอินทรา 109 (พระยาสุเรนทร์) ฝากสน.บางชัน ช่วยเหลือด่วนค่ะ นิวบอกแม่ตั้งแต่เมื่อคืนว่ารู้สึกว่ามีคนตาม 11.50 คุณแม่แจ้งว่าส่งถึงรพ.แล้ว อยู่รพ.นวมินทร์ 1 ค่ะ
อีกทั้งก่อนหน้านี้น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ "โบว์" แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เคยเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า "...ครอบครัวของจ่านิวลำบากมาก คุณพ่อเสียชีวิตตอนนิวอยู่ปีหนึ่ง ทำให้แม่ที่ทำงานรับจ้างทำงานบ้านรายวันพร้อมเป็นหมอดู(แม่นมาก) ต้องเลี้ยงลูกวัยเรียนสามคนและยายอีกหนึ่งตามลำพัง แต่แม่ก็อดทนเพื่อให้ลูกไปถึงฝั่ง และเข้าใจในอุดมการณ์ของนิว แม้มันจะไม่ได้ทำให้ชีวิตคนในครอบครัวง่ายขึ้นเลย วันนี้นิวถูกทำร้ายที่ป้ายรถเมล์ "
โบว์ขออนุญาตโพสต์เบอร์บัญชีคุณแม่ สำหรับพี่น้องที่ต้องการช่วยค่ารักษาพยาบาลจ่านิว 488-031-7020 กรุงไทย (พัฒน์นรี ชาญกิจ)
ขณะที่ทางด้านน.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ อายุ 43 ปี มารดา นายสิรวิชญ์ กล่าวระหว่างเข้าเยี่ยมลูกชาย ว่าแพทย์ที่ให้การรักษาลูกชาย บอกว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ผลตรวจในเบื้องต้นไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงสมอง แต่ลูกชาย บ่นเวียนศีรษะตนจึงอยากให้นอนรอดูอาการสัก 24 ชั่วโมง โดยลูกชายมีสิทธิ์รักษาประกันสังคมที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ค่าห้องพิเศษตนต้องออกเอง ช่วงนี้ตนติดตามข่าวสารพบว่า นักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกทำร้ายเยอะมาก และตนก็เตือนให้ระวังมาตลอดไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกชาย
"ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่มาโดนทำร้ายถึงขนาดนี้ ความเห็นส่วนตัวคิดว่าการใช้บริการรถสาธารณะไม่น่าจะมีอะไร แต่ที่ไหนได้พอเกิดเรื่องขึ้นตรงป้ายรถประจำทางกลับไม่มีใครช่วย ที่สำคัญผู้ก่อเหตุคงไม่ได้เจตนาเพียงจะลงมือสั่งสอนเนื่องจากเลือกตีแต่ที่ศีรษะ และตนเชื่อว่าคงไม่ทันแล้วที่จะห้ามให้ลูกหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ได้แต่ตักเตือนให้ระวังตัวมากยิ่งขึ้นก็เท่านั้น"
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Bow Nuttaa Mahattana