- 28 มิ.ย. 2562
จากกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนแพทย์ลืมอุปกรณ์กรอฟันไว้ในเหงือกนาน 5 ปี มีอาการชาที่ปากลามถึงหูและประสาท จนได้ไปเอ็กซเรย์ พบว่าอุปกรณ์พลาสติคขนาดเล็กฝังอยู่บริเวณเหงือกของนางกฤติกา ซึ่งเจ้าตัวได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า "เป็นชิ้นส่วนของอุปกรณ์กรอฟัน ที่ทันตแพทย์ในโรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำหล่นไว้ในช่องเหงือกเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2558 ระหว่างผ่าตัดฟันคุด"
จากกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนแพทย์ลืมอุปกรณ์กรอฟันไว้ในเหงือกนาน 5 ปี มีอาการชาที่ปากลามถึงหูและประสาท จนได้ไปเอ็กซเรย์ พบว่าอุปกรณ์พลาสติคขนาดเล็กฝังอยู่บริเวณเหงือกของของนางกฤติกา ฤทธิ์ขันธ์ อาศัยอยู่ที่จ.มุกดาหาร ซึ่งเจ้าตัวได้นำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า "เป็นชิ้นส่วนของอุปกรณ์กรอฟัน ที่ทันตแพทย์ในโรงพยาบาลอำเภอแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำหล่นไว้ในช่องเหงือกเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2558 ระหว่างผ่าตัดฟันคุด"
ล่าสุด ทางแพทย์คณะทันตะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ทำการผ่าตัดให้กับนางกฤติกา เพื่อนำเอาอุปกรณ์ (หัวกรอฟัน) ออกจากช่องเหงือกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการผ่าตัดใช้เวลาดำเนินการประมาณ 30 นาที การผ่าตัดผ่านไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย
ทั้งนี้ ผศ.ทพ.ศิริพงศ์ สิทธิสมวงศ์ หัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล ได้กล่าวว่า "การผ่าตัดผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งการผ่าตัดครั้งนี้ใช้แพทย์ทั้งหมด 4 ท่าน และได้ใช้เครื่องเอ็กซเรย์ ซึ่งมีความแม่นยำสูง จึงพบว่าบริเวณส่วนท้ายขากรรไกรล่างมีอุปกรณ์การแพทย์ฝังอยู่ มีขนาด 5 มิลลิเมตร ซึ่งทางคณะแพทย์ก็ได้ผ่าตัดนำออกเรียบร้อยแล้วและได้ให้วิตามินบำรุงเส้นประสาทด้วย ส่วนผลกระทบตามมาต้องรอติดตามอาการต่อไปอีกราวๆ 6 เดือน"
นอกจากนี้ นางกฤติกา ได้เปิดเผยว่า "ตอนนี้รู้สึกดีใจเพราะต้องทนทุกข์มากว่า 5 ปี หลังจากเอาหัวกรอฟันที่ติดอยู่ออก อาการช้าลิ้นก็หายไปแล้ว"
อย่างไรก็ตาม แพทย์ระบุว่ากรณีนี้ไม่ใช่กรณีแรกที่ทำการผ่าตัด เพราะเคยเกิดเหตุลักษณะนี้หลายครั้ง และมีโอกาสเกิดขึ้นได้เนื่องจากเครื่องทางทันตกรรมมีขนาดเล็กมาก และหากมีสิ่งแปลกปลอมหักติดในปากควรรีบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที ซึ่งโรงพยาบาลขนาดใหญ่ประจำจังหวัดต่างๆ จะมีอุปกรณ์ที่พร้อมในการรักษา
sanook.com