- 02 ก.ค. 2562
จากกระแสในโลกโซเชียลมองว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนแต่ก่อน ซึ่งแต่ละคนอาจจะมองที่มาของปัญหานี้แตกต่างกันออกไป รวมไปถึง กนก รัตน์วงศ์สกุล สื่อมวลชนอาวุโสที่ได้แชร์ประสบการณ์ที่เคยเจอมาเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นที่สุดในชีวิต
จากกระแสในโลกโซเชียลมองว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนแต่ก่อน ซึ่งแต่ละคนอาจจะมองที่มาของปัญหานี้แตกต่างกันออกไป รวมไปถึง กนก รัตน์วงศ์สกุล สื่อมวลชนอาวุโสที่ได้แชร์ประสบการณ์ที่เคยเจอมาเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นที่สุดในชีวิต
โดย กนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวชื่อดังได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ Kanok Ratwongsakul ว่า "วันนี้เมื่อ 22 ปีที่แล้ว 2 ก.ค.2540 มีข่าวใหญ่ที่สั่นสะเทือนบันทึกในประวัติศาสตร์ไทย ตอน 8 โมงกว่า แบงค์ชาติ ประกาศ ลอยตัวค่าเงินบาท หรือบางคนเรียกว่า “ลดค่าเงินบาท” หลังจากที่ถูกโจมตีค่าเงินบาทอย่างหนัก บวกกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้เติบโตอย่างมากในช่วงปี 2530-2539 ทั้งที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน สนามกอล์ฟ สวนเกษตร..
หลายเจ้าไปกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ และระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่กำลังร้อนแรง เพื่อมาลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ! การพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินก็หละหลวม ไม่ดูความเป็นไปได้ของโครงการ หรือความสามารถในการชำระคืน จนกลายเป็น "ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่" ค่าเงินบาทจาก 25.28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนลงไปที่ 28 บาทกว่าตอนเกือบ 10 โมงของวันนั้น และร่วงลงไปแรงสุดถึง 56 บาท !!!
เกิดวลีเด็ด.."ลอยแพพนักงาน" คนเป็นพ่อเป็นแม่ถูกให้ออกจากงาน ที่ยังทำต่อก็ถูกลดเงินเดือน ตอนนั้น ผมเป็นผู้จัดการวิทยุเนชั่น ถูกสั่งมาให้เอาลูกน้องออกเกินครึ่ง.. โดยไม่ใช้วิธีจับสลาก ให้ดูตามความเหมาะสม คนที่พอมีกำลัง..ต้องไป คนที่มีภาระครอบครัว..ได้อยู่ต่อ ปรากฏว่า เกือบทุกคน จำเป็นต้องมีงาน มีรายได้กลับไปจุนเจือครอบครัว !
นั่นเป็นภาวะที่ชาตินี้ "ไม่มีวันลืม" ลูกน้องเข้ามาสวัสดีลาทั้งน้ำตา..มาไหว้ลาคนที่เอาเขาออก ยังจำทุกคนที่ผมเอาออกได้..นึกถึงเสมอ..ช่วงนั้น ต้องทำบุญทุกเช้าก่อนมาทำงาน อุทิศผลบุญให้กับทุกคนที่เราทำให้เขาต้องตกงาน.. เกิดวลีเด็ดขึ้นมากมาย.. "เปิดท้ายขายของ" เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ตามตลาดนัด ถนนคนเดิน โดยเฉพาะที่ "ตลาดนัดคนเคยรวย" ตั้งชื่อตลาดได้สะเทือนใจมาก
เอาของในบ้านมาขาย เพื่อต่อชีวิตสมาชิกในครอบครัว บางชิ้นก็เป็นของรำลึกความหลังวันแต่งงาน เป็นของตกทอดมาจากรุ่นปู่ย่าตายาย..แต่ก็ต้องขาย “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” เป็นคำพูดของคุณสวัสดิ์ หอรุ่งเรืองเจ้าของอุตสาหกรรมเหล็กกล้า ที่เจอปัญหากว่าแสนล้าน..
"ล้มบนฟูก" อาจตีความหมายได้ว่า รัฐบาลเอาเงินภาษีประชาชนไปช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ หรือลูกหนี้ยอมล้มละลายให้เจ้าหนี้ยึดไปและไปซื้อหนี้คืนในราคาถูก หรือลูกหนี้ผ่องถ่ายทรัพย์สินไปแล้วและเหลือสินทรัพย์เล็กน้อยให้ถูกยึด
"เศรษฐกิจพอเพียง" เป็นปรัชญาที่ในหลวง " รัชกาลที่ ๙ " มีพระราชดำรัสอย่างชัดเจนในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 ทั้งที่พระองค์ทรงกล่าวไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2517 วันนี้ครบรอบ 22 ปี ที่คนทำงานรุ่นผม อายุ 30 กว่า กำลังก่อร่างสร้างตัว ต้องมาถูกสกัดด้วย "วิกฤตต้มยำกุ้ง"
ยังมีงานทำ แต่ถูกตัดเงินเดือนอยู่หลายปี โฆษณาหายเกือบหมด ชีวิตคนไทย..ไร้ข่าวดีใดๆ ผมก็สร้างข่าวดีให้กับตัวเอง ด้วยการไปขอเมียแต่งงานในเดือนหน้า (สิงหาคม ปีนั้น) ทั้งที่มีเงินในบัญชี 7 หมื่นกว่าบาท โชคดีที่พ่อตาแม่ยายเข้าใจ คืนนั้นหลังงานเลี้ยง ยังต้องยืมเงินพ่อตามาจ่ายค่าโรงแรม เพราะบัตรเครดิตไม่พอรูด 555
ขอบคุณเฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ร้อนระอุ !!! เด็กปชป. ออกมาโวยไม่เป็นธรรมขึ้นค่าไฟ ทั้งที่เศรษฐกิจแย่ แต่กลับปูนบำเน็จคนคสช.