คุณหมอสาวเผชิญเหตุโดนญาติคนไข้พังห้องฉุกเฉิน ล่าสุดได้รับคำขอโทษ

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Apichaya Sukprasert" ของ พญ.อภิชญา สุขประเสริฐ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเล่าว่า เมื่อวานเกิดเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดครั้งหนึ่งของห้องฉุกเฉินของเรา ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเสียกำลังใจอย่างมาก ช่วงนี้ไข้ชิคุนกุนย่า และไข้เลือดออกกำลังระบาดคู่กัน ในวันหนึ่ง ๆ จึงมีคนไข้มาปริมาณมาก ช่วงก่อนเที่ยงคืน มีคนไข้มาที่ห้องฉุกเฉินเล็ก ๆ ของเราเกือบร้อยคน บุคลากรยังเท่าเดิม แต่ทำงานกันอย่างหนัก อ่อนเพลียเกินกำลัง (อ่านข่าว : คุณหมอสาวโพสต์เล่าเหตุเศร้า ญาติคนไข้ไม่พอใจตรวจช้า)

 

 

ล่าสุด พญ.อภิชญา ได้โพสต์ข้อความเล่าอีกว่า แม้จะเกิดเรื่องไม่คาดฝันมากมาย แต่ก็มีกำลังใจส่งเข้ามาให้จากทั้ง รพ. และนอกรพ. ตลอด ขอบพระคุณแทนเจ้าหน้าที่ทุกคนมาก ๆ นะคะ วันนี้ทางญาติผู้ป่วยในเหตุการณ์ได้มาขอโทษเจ้าหน้าที่แล้ว พวกเราทั้งสองฝ่ายถือโอกาสนี้เปิดใจคุยกัน เราเชื่อเสมอมาว่า การที่คนเราจะทำอะไรสักอย่าง ย่อมมีเหตุปัจจัยนำไป

 

 

เหตุการณ์นี้สิ่งที่ผิดที่สุดไม่ใช่ฝ่ายใด แต่คือภาระงานที่หนักเกินไป และอัตรากำลังที่ไม่สะท้อนภาพความเป็นจริง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกระดับทำงานเกินกำลังเหลือเกิน

 

เราเคยอ่านความเห็นของผู้ป่วยและญาติที่ไม่พอใจทางอินเตอร์เนท แม้จะรู้ว่าสาเหตุคือภาระงานที่มากไป และขวัญกำลังใจที่แทบไม่เหลือแล้วของเจ้าหน้าที่ แต่ในความรู้สึกของพ่อแม่ญาติพี่น้องนั้นไม่เหมือนกัน ความรักความห่วงใยที่มีต่อคนไข้เป็นของจริง

 

 

แต่เจ้าหน้าที่เองก็เป็นลูกของใครคนหนึ่งเหมือนกัน วันนี้แม้ยังไม่มีมาตรการแน่ชัด แต่พวกเราห้องฉุกเฉินคุยกัน และตกลงจัดห้องตรวจใหม่ให้เป็นสัดส่วน ล็อกประตูหน้าหลัง ทำเรื่องขอรปภ. จัดระบบการเข้าออกให้ชัดเจน วางแผนสร้างมาตรการตอบสนองเมื่อเกิดเหตุความรุนแรงในระดับต่าง ๆ ทุกคนที่มาทำงานย่อมต้องทำงานด้วยความรู้สึกปลอดภัย

 

ในส่วนของเหตุการณ์ เราพูดคุยเปิดใจกัน ท้ายสุดเราสัญญากับเขาว่า จะพยายามพัฒนาและแก้ไขเหตุปัจจัยที่ทำให้เขาหวาดวิตกจนเรื่องออกมาในลักษณะนี้ให้ได้ และกับคนไข้เขาคือคนไข้ของพวกเรา หากวันหนึ่งข้างหน้าได้เจอกัน เรายังคงแพทย์พยาบาลและคนไข้กันเสมอ

 

ถ้าในอนาคตเรายังจะทำงานและเติบโตในระบบราชการต่อไป เราจะไม่ลืมเหตุการณ์และความรู้สึกของทุกคนที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้เลย ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ ป.ล.ตอนนี้เกิดอุบัติเหตุหมู่อยู่ค่ะ

 

 

ขอบคุณ : Apichaya Sukprasert