แซม นักวิ่งสู้โรคโพสต์อาการล่าสุด

จากกรณีที่นายณัฐพล เสมสุวรรณ หรือ แซม นักวิ่งสู้โรคมะเร็ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "Nattapol Semsuwan" ระบุว่า ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 27 ผมจะต้องเข้ารับการวางยาสลบเพื่อผ่าตัดครับ คุณหมอสงสัยว่า มะเร็ง ที่สงบไป 10 กว่าปี อาจจะฟื้นคืนกลับมาที่บริเวณโคนลิ้น ปกติผมพูดไม่ชัดจากผลข้างเคียงของโรคสตีเว่นจอนห์นสันอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งพูดไม่ชัดเข้าไปใหญ่ ทานอาหารแทบไม่ได้เลย ทำให้น้ำหนักตัวที่มีอยู่น้อยนิด ยิ่งกลับเหลือน้อยลงไปอีก

จากกรณีที่นายณัฐพล เสมสุวรรณ หรือ แซม นักวิ่งสู้โรคมะเร็ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "Nattapol Semsuwan" ระบุว่า ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 27 ผมจะต้องเข้ารับการวางยาสลบเพื่อผ่าตัดครับ คุณหมอสงสัยว่า มะเร็ง ที่สงบไป 10 กว่าปี อาจจะฟื้นคืนกลับมาที่บริเวณโคนลิ้น ปกติผมพูดไม่ชัดจากผลข้างเคียงของโรคสตีเว่นจอนห์นสันอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งพูดไม่ชัดเข้าไปใหญ่ ทานอาหารแทบไม่ได้เลย ทำให้น้ำหนักตัวที่มีอยู่น้อยนิด ยิ่งกลับเหลือน้อยลงไปอีก

กระทั่งต่อมา นายณัฐพล เปิดเผยว่า ผลผ่าตัดออกมา แล้วครับ ผ่าตัดไม่สำเร็จผมมีสภาพเลือดออกเยอะระหว่างจนผ่าตัดจนผ่าตัดต่อไม่ได้ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราช สู้กันต่อไป ขอบคุณแอ้มที่อยู่ข้าง ๆ เสมอ ขอบคุณที่สอนได้รู้ว่าถ้าผมอดทนกับแอ้มได้ ผมจะอดทนกับทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ ภาพนี้เพิ่งฟื้นขึ้นมาจากยาสลบ #ก็แค่มะเร็งจะเซ็งทำไม #สู้ต่อไปไม่ท้อ #หนักกว่ามะเร็งก็เอ็งนี่ล่ะ

 

แซม นักวิ่งสู้โรคโพสต์อาการล่าสุด

 


พร้อมกับยังบอกอีกว่า บันทึกเอาไว้ว่า เวลา 0:30 ของวันนี้หลังการจากเพลียจนหลับไปในช่วงหัวค่ำ ผมตื่นขึ้นมาด้วยเสียงของการหัวเราะพูดคุยจากเตียงข้าง ๆ ที่มีกลุ่มคนเข้ามาเยี่ยม 5-6 คน ผมไม่รู้ว่าพวกเค้าเข้ามากันกี่โมงเพราะเหนื่อยอ่อนและเพลียจนหลับลึกไป เสียงเปิดประตูเข้าออกระเบียง เคล้ากับกลิ่นบุหรี่ที่ลอยเวียนตามคนสูบเข้ามา ทำให้ผมเริ่มมีอาการไอและเวียนหัวคลื่นไส้

 

แซม นักวิ่งสู้โรคโพสต์อาการล่าสุด


อ่านข่าว : แซม นักวิ่งสู้โรคโพสต์ผลรักษามะเร็งล่าสุด 

ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้งว่า "ผมเริ่มพูดไม่ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ วันก่อนไปกินก๋วยเตี๋ยว น้องคนเสริฟชาวต่างชาติหัวเราะเขินอายเพราะเข้าใจว่าผมแกล้งล้อน้องเค้า "น้ำ แคะ เปา นึง แก่ว" ผมไม่ได้ล้อผมพูดไม่ชัด (เว้ย) ขนาดของสิ่งแปลกปลอมที่บริเวณโคนลิ้นเริ่มขยายใหญ่มากขึ้น เติบโตจนเบียดบังหลอดอาหารที่ปกติก็มีขนาดเล็กแคบจากโรคแพ้ยาอย่างรุนแรงอยู่ก่อนแล้ว ให้เหลือทางส่งอาหารหล่อเลี้ยงประทังชีวิตอยู่เพียงครึ่งเดียว 

 

แซม นักวิ่งสู้โรคโพสต์อาการล่าสุด

 

 

มิหนำซ้ำระหว่างการเดินทางของอาหาร ยังมีแผลที่สร้างความเจ็บปวดระหว่างทางจนผมแทบจะต้องกลั้นใจทุกครั้งที่จะเลือกกลืนสารอาหารแม้จะเป็นเพียงน้ำเปล่าก็ตามที นี่คือสาเหตุที่ทำให้ผมทานอาหารได้เพียง ensure หรือ prosure ในทุกวันนี้ และน่าจะอีกสักพักใหญ่ต่อจากนี้

 

 

คุณหมอผู้เชี่ยวชาญมองแผลแล้วทราบได้ทันทีว่าแผลระดับนี้ไม่สามารถบรรเทาปวดได้ด้วยยาบรรเทาปวดธรรมดา ผมได้ยามอร์ฟีนมาสองขวดใหญ่ และจะรู้สึกได้ทันทีเมื่อยาหมดฤทธิ์ แม้จะเป็นช่วงกลางดึกของทุกคืน เพราะนอกจากบดบังทางเดินอาหารแล้ว สิ่งแปลกปลอมนั้นยังกดทับเส้นประสาทของผม ทำให้ผมมีอาหารปวดหูอย่างหนัก และเริ่มปวดลามไปทั้งหัวในช่วงหลังๆ

 

 

แซม นักวิ่งสู้โรคโพสต์อาการล่าสุด

 

 

ผมไม่ได้กินเต็มที่ ไม่ได้นอนเต็มอิ่มมานานมากแล้ว ตอนนี้ผมกำลังรอคิวทำ Mri ในวันที่ 10 จากนั้นก็พบกับ อ.ภาวิน ที่ศิริราชเพื่อวางแผนการรักษาที่ศิริราชในวันที่ 12 ผมยังมีโอกาสได้ออกไปวิ่ง ออกไปเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อยู่อีกหลายวัน ก่อนที่จะต้องเข้าไปพักรักษาตัวต่อในโรงพยาบาล แอบอิจฉาพี่ๆ ทุกคนที่มีโอกาสได้เลือกกิน มีโอกาสได้เลือกนอน มีโอกาสได้เลือกออกกำลังกาย ขอให้พี่ๆ ทุกคนใช้โอกาสของตัวเลือกที่มีให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง 

 


เพราะผมเป็นคนที่สามารถบอกพี่ๆ ได้อย่างเต็มปากว่า เมื่อถึงวันที่คุณไม่สามารถเลือกที่จะทำในสิ่งเหล่านี้ได้ คุณจะเสียใจและเสียดายในโอกาสที่เคยมีเหล่านั้น ขอบคุณแอ้มที่อยู่ข้างกันเสมอมา เป็นวุ้นแปลภาษา เป็นนางพยาบาล เป็นพนักงานนวด เป็นนักร้องเสียงเพี้ยน เป็นแม่ครัวชงนม หนักที่สุดคือการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ส่วนตัว เธอเลือกเป็นทุกอย่างที่ลำบาก ทั้งๆ ที่เธอสามารถที่จะเลือกทางที่ไม่ลำบากได้
#เราไม่ได้สู้อยู่คนเดียว
#ก็แค่มะเร็งจะเซ็งทำไม
#samstrong
#ดูแลกันในวันที่ยังทำได้"


หลังจากที่เขาโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เข้ามาให้กำลังใจกันอย่างต่อเนื่องและล้นหลาม บ้างก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่า ขอบคุณที่แชร์ความคิดบวกขอบคุณแซมนะคะ ช่วยเตือนสติเราได้มากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณแซมหายไวไว การรักษาผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ คุณแซมเก่งมากๆค่ะ

 

 

แซม นักวิ่งสู้โรคโพสต์อาการล่าสุด

 


ขอบคุณเฟซบุ๊ก Sam's Story