คุณแม่เล่าอุทาหรณ์ลูกน้อยคว้าแบตเตอรี่ของเล่นใส่จมูก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใหญ่

คุณแม่เล่าอุทาหรณ์ลูกน้อยคว้าแบตเตอรี่ของเล่นใส่จมูก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใหญ่

คุณแม่เล่าประสบการณ์เจ็บปวดเมื่อลูกน้อยเล่นซนนำแบตเตอรี่ของเล่นยัดใส่ในจมูกจนเข้าไปติดอยู่ข้างใน สุดท้ายต้องทำการผ่าตัดหลายชั่วโมงจึงสามารถนำออกมาได้ เป็นการรอคอยที่แสนทรมาน อยากแชร์ประสบการณ์เตือนใจคุณพ่อคุณแม่หรือทุกๆคนที่ต้องดูแลเด็กเล็กๆให้ดูไว้เป็นตัวอย่าง

 

คุณแม่เล่าอุทาหรณ์ลูกน้อยคว้าแบตเตอรี่ของเล่นใส่จมูก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใหญ่

 

คุณแม่โพสต์เล่าเหตุการณ์ว่า 

อัพเดทน้องมีณค่ะ

*****ฝากไว้เป็นบทเรียนค่ะ ว่าสิ่งที่เราบอกและสอนลูกเสมอ และแล้วก็เกิดขึ้นจนได้ค่ะ*****

จากเหตุฉุกเฉินที่น้องมีณนำแบตเตอรี่ของเล่นใส่จมูก วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2562 เวลาประมาณ 15.20น.-15.30 น.เหตุการณ์ที่ผ่านเราไม่สามารถนำเอาออกเองได้ เลยไปที่รพ.หางดง พยาบาลห่อตัวน้องเพื่อจะคีบออก ผ่านไป10-20นาทีไม่ออก ใกล้เวลาอยู่รพ.หางดง 1 ชั่งโมงกว่าก็เอาออกไม่ได้

 

คุณแม่เล่าอุทาหรณ์ลูกน้อยคว้าแบตเตอรี่ของเล่นใส่จมูก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใหญ่

 

คุณแม่เล่าอุทาหรณ์ลูกน้อยคว้าแบตเตอรี่ของเล่นใส่จมูก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใหญ่

 

รพ.หางดงเลยจะส่งตัวไปที่รพ.ณครพิงค์ แต่เราเลือกที่ใกล้ เลยไปที่รพ.สวนดอก ถึงรพ.ยื่นหนังสือส่งมอบ ซักพักใหญ่ถึงได้ใช้เครื่องมือคีบเพื่อนำแบตรี่ออกอีกครั้ง มีณโดนยึดโดยพยาบาล 4 คน แต่ก็ไม่ออกแถมเข้าไปลึกกว่าเดิมอีก หลายชั่วโมงก็ไม่สามารถนำออกมาได้ คุณหมอเลยแนะนำให้ผ่าตัดโดยการส่องกล้องแล้วคีบออกมาและวางยาสลบ 

เมื่อถึงเวลาที่วางสลบคุณให้คุณแม่เข้าห้องผ่าตัดด้วย เพราะน้องร้อง 

คุณแม่ ช่วยจับสายตัวแปะ 3 จุดที่หน้าอก และซี่โครงข้างซ้าย และ ครอบจมูกให้น้องเพื่อวางยาสลบ ชั่วพริบตาน้องมีณก็หลับไปค่ะ คุณแม่ออกมาจากห้องผ่าตัดก็ร้องโห่ๆๆเลยค่ะ..เครียดมากตอนนั้น..นั่งรอนอกห้องคนเดียว 2 ชั่วโมงกว่าแล้ว น้องไม่ออกมาซะที...

เมื่อลุงกับป้ามาเลยตัดสินใจถามว่าทำไมน้องยังไม่ออกมา คุณหมอบอกว่าแบตเตอรี่ลงไปในท้องน้องแล้วเรากำลังช่วยกันเอาออกค่ะ รอเกือบชั่วโมงหลังจากถามไป พยาบาลก็มาตามให้คุณแม่ไปอยู่กับน้อง น้องปลอดภัยแล้ว รอพักฟื้นยาสลบ 1 ชั่วโมงค่ะ หลังจากนั้นก็นำตัวน้องไปพักที่ห้องคนไข้ค่ะ...เวลาออกห้องผ่าตัด 22.20 น.

“ปล.ถ้าเล่าละเอียดจะยาวกว่านี้ค่ะ”

วันนี้น้องได้กลับบ้านแล้ว อาการดี รับประทานอาหารได้ดี ไม่อ้วก ไม่ปวดท้อง หายใจคล่องดีค่ะ

**ขอขอบคุณแม่แนนที่ไปส่งน้องมีณรพ.หางดง และรับ-ส่ง น้องณีณไปโรงเรียน และ พร้อมอาหารเช้า+นม...และสอบถามตลอด...

**ขอขอบคุณลุงไมค์ ป้ากิฟท์ที่ซิ่งรถ หยีบมิดไมล์ แซงทุกคัน ฝ่าไฟแดง (ต้องขออภัยณ.สถานที่นั้นๆด้วยนะค่ะฉุกเฉินจริงๆค่ะเพราะน้องร้องมากๆค่ะ ลุงรีบส่งตัวต่อที่รพ.สวนดอก เพื่อนับการรักษาขั้นต่อไป(เลือกที่ใกล้ที่สุดค่ะ)

** ขอบคุณ คัณป้ากิฟท์ ที่ Support ดูแลในทุกๆอย่าง ขับรถ เลี้ยงหลาน ดูแลอาหาร พาหลานผ่อนคลาย และไปหาแม่เล็กกับน้องมีณทุกวัน จนถึงวันรับ ต้อนรับหลานกลับบ้านอีก...

**ขอบคุณ คุณพ่อน้องมีณที่สอบถามตลอด และอัพเดทให้ทุกๆท่านที่เป็นห่วงหลานได้รับรู้ค่ะ

**ขอขอบคุณน้องแอนแม่บ้าน ที่ดูแลพี่ณีณตอนเช้าปลุกและเตรียมตัวไปโรงเรียน อาบน้ำ แปรงฟัน และ เอาน้องณีณเข้านอน...^^

**ขอบคุณพี่นาตาลีที่ช่วยดูแลน้องณีณ

ขอขอบคุณทุกๆท่านที่เป็นกำลังใจคุณพ่อ แม่ และห่วงน้องมีณนะค่ะ

จากใจคุณแม่น้องมีณ...^^
 

คุณแม่เล่าอุทาหรณ์ลูกน้อยคว้าแบตเตอรี่ของเล่นใส่จมูก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใหญ่

 

คุณแม่เล่าอุทาหรณ์ลูกน้อยคว้าแบตเตอรี่ของเล่นใส่จมูก เข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใหญ่

 

ขอบคุณ Wassana Onchiab