รองปลัดยธ.แนะวิธีช่วยนศ.สาวร้อยเอ็ด

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ปูเป้ ยิ้มหวาน ลงเรื่องราวระบุว่า "ขอความเป็นธรรม ให้กับน้องหนูด้วยเถอะค่ะ ครอบครัวหนูยากจนมากพอแล้ว ยังต้องมาตกเป็นแพะรับบาป น้องหนูไม่เคยคิดที่จะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด"

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น้องกำลังเรียนอยู่ในระดับ ปวช.ปีสุดท้าย ที่สถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่ง ถูกจับในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากมีคนส่งพัสดุมาให้แต่ข้างในมียาเสพติด หลังถูกจับกุมถูกนำไปตรวจปัสสาวะก็ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย ขณะนี้ถูกจับกุมคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด

 

ทั้งนี้ นางบุญถิน ได้บอกว่า "ทางบ้านมีฐานะยากจนไม่มีเงินไปประกันลูก ลูกสาวมีฝาแฝดสองคนแต่หลังจากเรียนจบ ม.3 ที่โรงเรียนใกล้บ้านแล้วก็ ไม่ได้เรียนต่อเพราะทางบ้านมีฐานะยากจน จากนั้นก็แต่งงานมีแฟนและมีลูกคนละคน แต่ต่อมาทั้งคู่เลิกกับสามี จึงฝากลูกให้แม่เลี้ยงอยู่ที่บ้านแล้วไปทำงานกลางคืนเสิร์ฟอาหารในตัวอำเภอ ในระหว่างนั้นก็พากันเรียนต่อในระดับ ปวช. เงินที่หามาได้ ก็ได้ค่าแรงวันละ 100 บาท และค่าทิปจากการเสิร์ฟ ก็จ่ายเป็นค่าเทอม ค่าเช่าบ้าน และส่งให้แม่เลี้ยงลูกด้วย เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็อยากให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือลูกสาวออกมาด้วย เพราะหลานสาวอายุ 6 ขวบ ก็ร้องหาแม่เขาทุกวัน"

 

 

ขณะเดียวกันทางด้าน น.ส.ปุณา พลดอน อายุ 22 ปี แฝดผู้พี่และเพื่อนๆ ได้บอกว่า "วันที่น้องถูกจับ ตนพร้อมกับพี่และเพื่อนๆ นั่งอยู่บนแคร่หน้าบ้าน สักพักมีไปรษณีย์มาส่งของถามหาชื่อน้องสาว แล้วน้องสาวก็บอกว่าไม่ได้สั่งอะไร แต่พอมีของมาส่งจึงถามไปรษณีย์ว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรไหม ไปรษณีย์บอกว่าไม่มีจึงรับไว้ให้"

ต่อมา เพจเฟซบุ๊กชื่อ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ออกมาโพสต์ว่า ตอนนี้ได้จับกุมตัวคนที่ส่งยาให้น้องได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระบุข้อความว่า "ด่วน! ชุดสืบสวนสน.โคกคราม สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ที่ส่งยาให้น้องนักศึกษาที่ร้อยเอ็ดได้แล้วขณะนี้กำลังนำตัวไป สน.โคกคราม จ.กรุงเทพมหานคร เพื่อสอบสวนต่อไป"

 

อ่านข่าว : รวบแล้วผตห.ส่งพัสุดถึงนศ.สาวร้อยเอ็ด 
 

ล่าสุด นาย ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรมได้ออกมาพูดเกี่ยวกับคดีของน้องเอ (นามสมมุติ) ที่ถูกจับในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง หลังจากมีคนส่งพัสดุมาให้แต่ข้างในมียาเสพติด ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความว่า "แล้วน้องที่ถูกจับกุมคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ดและไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในระดับ ปวช.ปีสุดท้าย จะต้องทำอย่างไร..!? ไม่แน่ใจว่า จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนเชื่อหรือไม่ว่าน้องไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด ถ้าเชื่อก็ควรเร่งมีคำสั่งไม่ฟ้อง พร้อมร้องขอต่อศาลขอปล่อยตัวจากการถูกควบคุมระหว่างสอบสวนตาม ป.วิอาญา มาตรา ๑๔๒"

 

"นอกจากนี้ เนื่องจากน้องยังไม่ได้ตกเป็นจำเลยและศาลยังไม่มีคำพิพากษายกฟ้องว่าน้องไม่ได้กระทำผิด จึงไม่มีสิทธิรับเงินค่าทดแทนค่าถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดีและค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้​ในระหว่างถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
จึงเหลืออยู่ทางเดียว คือไปยื่นขอเงินการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจากกองทุนยุติธรรมตามมาตรา ๙(๓) ซึ่งก็จะต้องไปพิจารณาอีกว่า พนักงานสอบสวนดังกล่าวปฎิบัติหน้าที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ถ้าปฎิบัติชอบด้วยกฎหมายก็จะไม่ได้ประโยชน์จากกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน"

 

"แต่ในชั้นนี้ จึงอยากให้ไปยื่นคำร้องจากกองทุนยุติธรรมที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ดไว้ก่อน และถ้าได้ก็จะได้รับในเกณฑ์เดียวกันกับเงินค่าทดแทนค่าถูกคุมขังในระหว่างพิจารณาคดีและค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้​ในระหว่างถูกดำเนินคดีตามกฎหมายครับ ประเด็นที่อาจต้องพิจารณาร่วมกัน คือ มาตรฐานการคัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราว และเกณฑ์การพิจารณาว่าควรหรือควรไม่อนุญาต เนื่องจากปัจจุบันมีการแก้ไขกฎหมายให้ศาลสามารถใช้กำไล Electronic และมีกองทุนยุติธรรมแล้ว รวมถึงกฎหมายก็กำหนดให้จัดทนายความให้ตามมาตรา ๑๓๔/๑ และกำลังจะจัดให้มีทนายความประจำโรงพักอีก ถ้าสุนทรีสนทนาร่วมกันได้ก็จะเป็นการดีครับ สงสัย หรือต้องการขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๑๑๑๑ ต่อ ๗๗"

 

ขอบคุณ ธวัชชัย ไทยเขียว