- 08 ก.ค. 2562
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับรุ่นน้องถูกรุ่นพี่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม รับน้องเข้ากลุ่ม โดยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ในเขตพื้นที่ สภ.นครชัยศรี ภ.จ.นครปฐม ทำให้ขณะนี้รุ่นน้องที่ถูกทำร้ายอาการยังคงน่าเป็นห่วง
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับรุ่นน้องถูกรุ่นพี่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม รับน้องเข้ากลุ่ม โดยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ในเขตพื้นที่ สภ.นครชัยศรี ภ.จ.นครปฐม ทำให้ขณะนี้รุ่นน้องที่ถูกทำร้ายอาการยังคงน่าเป็นห่วง
เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ เหน่อ หนองกระโดน ได้โพสต์ภาพเพื่อนคนที่โดนทำร้าย พร้อมระบุข้อความว่า "น้องเข้าไปรับเลสข้อมือรุ่น จากรุ่นพี่ม.6 ไปประมาณ10 คน โดนทำร้ายประมาณสามคน น้องคนนี้โดนเตะหน้าอก จนหายใจไม่ออก ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ทำให้นอกจากปอดช้ำแล้วสมองบวมไปด้วย ได้รับแจ้งว่า น้องหัวใจหยุดเต้นไปแล้วสามรอบ ซึ่งพฤติการณ์แบบนี้ ไม่เคยปรากฎพบ ที่โรงเรียนมาก่อน เป็นการคิดอยากทำและสืบทอดกันเอง รับแจ้งว่าตอนนี้รุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกายไม่ได้อยู่ออกมารับผิดชอบ แล้วหนีไปกลบดานทางภาคตะวันออก"
ทั้งนี้ เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวยังได้โพสต์ความคืบหน้าของเรื่องนี้อีกว่า "อัพเดต เพิ่มเติม ได้รับแจ้งว่า จันทร์ที่จะถึงนี้ ผู้กระทำความผิดจะเข้ามามอบตัว ที่สภานีตำรวจนครปฐม เจ้าตัวไม่ได้หลบหนีไปไหน และหลบอยู่ในบ้านที่นครปฐมเนื่องจากกลัวว่าจะมีคนมารุมทำร้าย"
ขณะเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ไม่นานมานี้กลุ่มเด็กนักเรียนชั้น ม.6 รุ่นพี่ และเด็กนักเรียนชั้น ม.3 รุ่นน้อง โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม จำนวนประมาณ 15 คน ได้ไปทำกิจกรรม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 21 ม.2 ต.วัดแค อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
ต่อมามีการรับรุ่นน้องเข้ากลุ่ม โดยให้รุ่นพี่เป็นคนเตะทดสอบ ปรากฏว่า มีรุ่นน้อง 3 คน ถูกรุ่นพี่เตะที่หน้าอก 3 ครั้ง โดยรุ่นน้องที่ 3 ได้รับบาดเจ็บนำตัวส่ง รพ.นครปฐม และต่อมาในวันที่ 1 ก.ค.62 ผู้ปกครองรุ่นน้องที่บาดเจ็บได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบสวนปากคำพยานอย่างละเอียดร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และพนักงานอัยการ
นอกจากนี้ ผกก.สภ.นครชัยศรี ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาและนำตัวไปขอให้ศาลสั่งควบคุมตามกฎหมายเยาวชนฯ และคดีนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์บาดแผลของแพทย์รพ.นครปฐม นำมาประกอบสำนวนการสอบสวน ที่ผ่านมาพบว่ายังมีรุ่นพี่บางกลุ่ม บางสถาบันที่ยังก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยวัฒนธรรม ประเพณี กฎระเบียบของคณะ หรือด้วยเหตุผลอื่นใด ซึ่งล้วนอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียและความเสียใจต่อญาติ ผู้ปกครองของผู้ที่ถูกกระทำ จึงอยากเตือนไปยังรุ่นพี่ที่คอยดูแลรุ่นน้องตามสถาบันต่างๆ ให้พึงระลึกถึงความผิดชอบชั่วดี
การกระทำอันใดที่ไม่สมควรกระทำกับรุ่นน้อง เช่น การกระทำที่ถึงเนื้อถึงตัว ทำร้ายร่างกาย เสี่ยงอันตราย เป็นต้น ก็ขอให้ละเว้น เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วส่งผลกระทบต่อชีวิตและร่างกายของรุ่นน้อง ผู้ที่ถูกกระทำ จะมีความผิดตามกฎหมายและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่มีการละเว้น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่ออนาคตของผู้ที่กระทำความผิดได้
ส่วนทางด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ สอบสวนให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็น ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและต้องสามารถตอบคำถามสังคมได้
อ่านข่าว : รุ่นพี่รร.ดังนครปฐมรับน้องจนเข้ารพ. บิ๊กแป๊ะ สั่งเร่งสางคดี คนทำซ่อนตัวในบ้าน
โดยก่อนหน้านี้ พี่สาวของน้องกรได้ออกมาอัพเดท อาการของน้องชาย บอกว่า "ตอนนี้น้องกรสมองตายอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ พ่อแม่ยังทำใจไม่ได้ คืนเกิดเหตุพี่ม.6 อ้างว่าคืนเกิดเหตุพวกรุ่นพี่และน้องกรออกไปซื้อน้ำแข็งและได้บอกว่ากลุ่มวัยรุ่นดักกระทืบ ตอนแรกคือเอะใจว่าทำไมเสื้อผ้าไม่มีร่อยรอยการโดนทำร้ายรอยถูกกระทืบหรือเปื้อนโคลนเลย หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็มารับว่ามีการรับน้องแบบเตะหน้าอกน้อง คนละ 3 ครั้ง เพื่อแลกกับเลส พี่ม.6 แต่ทราบว่า โรงเรียนไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง พี่ม.6 ได้จัดทำขึ้นมาเอง ไม่แน่ใจว่าเป็นการรุมทำร้ายมั้ย แต่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด อยากให้ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย"
อ่านข่าว : ครอบครัว น้องกร ยันจะเอาเรื่องรุ่นพี่ให้ถึงที่สุด
ล่าสุดเฟซบุ๊ก ชื่อ เหน่อ หนองกระโดน ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระบุว่า "น้ำเสียงสะอื้นของแม่ สั่นสะเทือนหัวใจของผม และ ท่าน สส. สุทธวรรณ จนไม่รู้จะเปิดบทสนทนาต่ออย่างไร แม่บอกว่า ตอนนี้ปอดน้องดีขึ้นแล้ว แต่สมองยังบวมและคงได้แต่รอคอยปาฏิหารย์เท่านั้นน้องถึงจะฟื้นขึ้นมาได้ ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิม ถอดท่ออากาศออกเมื่อไหร่คือน้องจากไปเมื่อนั้น ผมเยี่ยมไข้กรณีรับน้องโหดมาหลายครั้ง ตั้งแต่น้องแม่โจ้ที่แขนขาขาด เคสนี้สะเทือนใจที่สุด"
"คุณพ่อน้องได้แต่ยืนนอกห้องถ้าไม่จำเป็นไม่อยากจะเข้าห้องเพราะยังทำใจไม่ได้ ธุรกิจที่บ้านต้องหยุดแล้วผลัดกันมารอเฝ้าไข้ ห้องไอซียูเข้าเยี่ยมตลอดไม่ได้ ก็นอนที่พื้นหน้าลิฟท์โรงพยาบาล ขอร้องเถอะครับ พิธีกรรมแบบนี้เลิกไปได้แล้วเคารพศักดิ์ศรีของทุกคนอย่างเท่ากัน อยู่กันอย่างมีภารดรภาพ เพื่อสังคมที่มันน่าอยู่กว่านี้เถอะครับ มันเจ็บปวดมากเวลาเห็นญาติพี่น้องหมดหวังหมดหนทาง สำหรับชีวิตคนคนหนึ่ง พรุ่งนี้ผมจะประสานเรื่องกับกรมคุ้มครองสิทธิ และกองทุนยุติธรรม ว่าจะเข้าข่ายหรือจะสามารถช่วยเหลือน้องได้มากน้อยเพียงใด แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง"
ขอบคุณ เหน่อ หนองกระโดน