โรงพยาบาลดังชี้แจงปม สาวเหลืออดโวย ปล่อยพ่อรอตรวจ แถมมีคนแซง จนพ่อดับ

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 62 เฟซบุ๊ก  Jiratchaya Rangsaritwirachot ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวถามหน่วยงานแพทย์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้นำพ่อไปโรงพยาบาลแทนที่จะได้เข้าห้องฉุกเฉินเลย

จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 62 เฟซบุ๊ก  Jiratchaya Rangsaritwirachot ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวถามหน่วยงานแพทย์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้นำพ่อไปโรงพยาบาลแทนที่จะได้เข้าห้องฉุกเฉินเลย กลีบกลายเป็นว่าต้องมาต่อคิวทั้งยังมีการปล่อยให้แซงคิวระหว่างรอ จนพ่อของเธอเสียชีวิตหลังจากเข้าห้องไอซียู โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ดท่านนี้ต้องนำเรื่องไปร้องเรียนยัง ศูนย์ดำรงธรรม  จ.ยะลา  เพื่อขอรับความเป็นธรรมต่อไป

โรงพยาบาลดังชี้แจงปม สาวเหลืออดโวย ปล่อยพ่อรอตรวจ แถมมีคนแซง จนพ่อดับ

 

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ได้เล่าเรื่องวันเกิดเหตุโดยระบุว่า... คนตายแล้วไม่ฟื้น แต่การบริการที่แย่ สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ เรื่องราวของป๋า คงทำให้การบริการคนไข้ดีขึ้น ไม่มากก็ไม่น้อย ป๋าตายแล้ว ป๋านั่งรถเข็นมาขอพบหมอ แต่จุดคัดกรอง วัดความดัน แล้วให้นั่งรอ มันบอกความดันปกติ ป๋านั่งรอจนป๋าตัวเย็น ความดันลดลง  ต้องด่ามัน มันถึงพาเข้า แต่ก่อนพาเข้ามันตรวจความดันโชว์ แม่ง ต่ำ 38 มันกล้ามากเรายังมีแม่ มีน้องๆ มีเพื่อนๆ ที่อาจต้องใช้บริการที่นี่ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
 

โรงพยาบาลดังชี้แจงปม สาวเหลืออดโวย ปล่อยพ่อรอตรวจ แถมมีคนแซง จนพ่อดับ

 

โรงพยาบาลดังชี้แจงปม สาวเหลืออดโวย ปล่อยพ่อรอตรวจ แถมมีคนแซง จนพ่อดับ

โรงพยาบาลดังชี้แจงปม สาวเหลืออดโวย ปล่อยพ่อรอตรวจ แถมมีคนแซง จนพ่อดับ

 

แต่ถ้าคุณเจ้าหน้าที่หรือคนเบตงมาอ่านแล้วโกรธโมโหรับไม่ได้กลัวเบตงจะเสียชื่อเสียง ก็ลองให้เกิดกับพ่อคุณก่อนสิ ให้พ่อคุณตายแบบนี้ก่อนคุณจะเสียใจไหมจะมีเรื่องราวเผยแพร่ไหมจะเก็บเงียบไหม สำหรับเราความจริงคือความจริง ไม่สนใจหรอกจะมีใครอาย ถ้าอายก็ปรับปรุงสิ … อย่าเสนอหน้าโชว์แต่ของดี น่าเบื่อ รู้ไหม ว่า เบื่อ เซ็ง มันโอเคตรงไหนว่ะอย่าอายค่ะ เบตงจะโอเคต้องโอเคทุกเรื่องโว้ย อย่าปิดความจริง ต้องยอมรับให้ได้ ว่า มัน ยังไม่โอเค มันต้องปรับปรุงโว้ย อย่าอายนะ จะมีการเลือกตั้งแล้ว ใช่ไหม จะมีสนามบินแล้วใช่ไหม ดังใหญ่เลยเบต”

 

ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลต้นเหตุไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ออกมาชี้แจงว่าหลังจากมีเรื่องราวดังกล่าวออกไปได้เรียกประชุมแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อหาสาเหตุในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดความดันของผู้ป่วยที่เสียชีวิตเรียบร้อยแล้วความดันขณะนั้นอยู่ที่ 144/ 80 ซึ่งถือว่าปกติ จึงจัดเป็นผู้ป่วยในโซนสีเขียว คือเจ็บป่วยเล็กน้อย จึงได้ให้นั่งคอยตามคิว ส่วนที่ว่ามีการแซงคิว เนื่องจากมีผู้ป่วยอีกคนที่มาทีหลัง แต่ตรวจวัดความดันพบว่าความดันต่ำอยู่ที่ 75/38 ซึ่งถือว่ามีอาการหนักกว่า เป็นผู้ป่วยในโซนสีชมพู คือเจ็บป่วยรุนแรง ส่วนที่มีภาพถ่ายว่าผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีความดันระดับต่ำ อยู่ที่ 75/38 ก็ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นค่าการวัดความดันของผู้ป่วยที่เจ้าหน้าที่ได้นำเข้าห้องฉุกเฉินไปก่อนหน้านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้กดรีเซตเครื่องนั้นเอง

 

โรงพยาบาลดังชี้แจงปม สาวเหลืออดโวย ปล่อยพ่อรอตรวจ แถมมีคนแซง จนพ่อดับ

 

โรงพยาบาลดังชี้แจงปม สาวเหลืออดโวย ปล่อยพ่อรอตรวจ แถมมีคนแซง จนพ่อดับ

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก Jiratchaya Rangsaritwirachot