- 10 ก.ค. 2562
น.ส.บุญแตง ชินภูเขียว อายุ 36 ปี ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง โดยทำลำพังคนเดียว
จากกรณีที่คนร้ายเข้าไปทำทีขอดูสร้อยคอทองคำที่ร้านทองภูมิฐาน เลขที่401/8 ตลาดตลาดมาบยางพร ถ.สายสะพานสี่-ปลวกแดง ม.2 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
หลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้านบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ เป็นผู้หญิงรูปร่างท้วมผมยาวสีทอง ใส่ผ้าปิดปาก สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ขี่จยย.สีดำแดงไม่ทราบทะเบียนและยี่ห้อ หลังก่อเหตุขี่จยย.หลบหนีไปยังถนนสาย3031 พร้อมสร้อยคอทองคำ 3 เส้นรวมน้ำหนัก 11 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.ค.62 ที่ผ่านมานั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการโพสภาพในกลุ่มแชทของปลวกแดง หลายกลุ่ม จนทราบเบาะแสของคนร้ายรายนี้ จึงมีการจัดกำลังออกติดตามคนร้ายในทันที
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว พ.ต.อ.ดุษฎี กุญชร ณ อยุธยา ผกก.สภ.ปลวกแดง ระยอง ได้เปิดเผยเกี่ยวกับคดีชิงทอง11บาท ว่าสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว ชื่อ น.ส.บุญแตง ชินภูเขียว อายุ 36 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.หนองบัวลำพู ปัจจุบันทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งใน อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
สำหรับการจับกุม พ.ต.ท.ชลลิต สุธรรมมาจารย์ รองผกก.สส.สภ.ปลวกแดง ระยอง ได้ประสานกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้เฝ้าดักซุ่มที่บ้านเช่าของ น.ส.บุญแตง ชินภูเขียว อายุ 36 ปี ผู้ต้องสงสัยรายนี้ หลังก่อเหตุไม่กลับเข้ามาที่บ้านเช่าเลย พบว่าได้กลับไปทำงานที่โรงงานตามปกติ เสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าติดตามจนกระทั่งควบคุมตัว สามีของน.ส.บุญแตง คนร้ายมาสอบสวน ซึ่งปรากฎ ว่าสามีไม่ทราบเรื่องเลย เพราะภรรยาทำงานเป็นหลักแหล่งและมีเงินเดือนประจำ จึงไม่เชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พร้อมทั้งให้ความร่วมมือ ประสานภรรยาให้กลับมาบ้านหลังเลิกงาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าดักซุ่มอยู่ที่บ้านเลขที่88/501 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งต่อมาในช่วงเย็น วันที่9 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.บุญแตง ชินภูเขียว ได้ขี่ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ-แดง ทะเบียน กจ-7011 ชลบุรี ทั้งรถจยย.และเสื้อผ้าที่สวมใส่ตรงกับภาพวงจรปิด ที่บันทึกได้ในวันก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวทันที
ขณะที่ทางด้านน.ส.บุญแตง ชินภูเขียว อายุ 36 ปี หลังถูกจับกุมก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง โดยทำลำพังคนเดียว สามีไม่ทราบเรื่อง เพราะได้นำเงินฝากจำนวน 200,000 บาท ออกไปเล่นพนันจนหมด กลัวสามีรู้จึงก่อเหตุ เพื่อนำเงินต้องการนำเงินไปไถ่รถยนต์ที่ถูกยึดไป และนำเงินเข้าธนาคารเหมือนเดิม ก่อนจะนำสร้อยคอทองคำที่ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า ที่เหลือเพียง 5 บาท ส่วนสร้อยข้อมือ 2 เส้นๆ ละ 3 บาท ได้นำไปขายให้ร้านทองในตลาดบ่อวิน ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เงิน จำนวน 56,000บาท และนำเงินไปชำระค่างวดรถยนต์ที่ติดค้างกับไฟแนนท์หมดแล้ว
ด้านสามี ถึงกับทรุดเพราะคิดไม่ถึง ถามว่าทำไมจึงทำแบบนี้ ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัว น.ส.บุญแตง พร้อมหลักฐานไปดำเนินคดี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่วนร้านทองที่รับซื้อทองไว้ก็ต้องตรวจสอบถึงเจตนา แต่เท่าที่ตรวจสอบไม่ทราบว่าเป็นทองที่วิ่งราวมา ต่อมาจึงนำตัวทำแผนประกอบการรับสารภาพทันที