- 11 ก.ค. 2562
กลายเป็นเรื่องราวที่น่ายกย่องในวิชาชีพและใจรักในอาชีพของตัวตัวเองมากๆ เมื่อเฟซบุ๊ก โม่งดำ-Black Hood Tactical ได้ออกมาเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้จับภาพ พระรูปหนึ่งกำลังวิ่งและภายในจีวรคล้ายซ่อนอาวุธปืนยาวเอาไว้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุการณ์ที่นายเอื้อน อายุ 60 ปี ใช้มีดปลายแหลมประมาณ 1 ฟุต บุกจี้นางสำเริง อายุ 58 ปี ผู้เป็นภรรยา เพื่อต้องการให้กลับไปอยู่ด้วยกัน หลังแยกกันอยู่ตั้งแต่ก่อนเดือนเมษายนแล้ว
กลายเป็นเรื่องราวที่น่ายกย่องในวิชาชีพและใจรักในอาชีพของตัวตัวเองมากๆ เมื่อเฟซบุ๊ก โม่งดำ-Black Hood Tactical ได้ออกมาเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้จับภาพ พระรูปหนึ่งกำลังวิ่งและภายในจีวรคล้ายซ่อนอาวุธปืนยาวเอาไว้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุการณ์ที่นายเอื้อน อายุ 60 ปี ใช้มีดปลายแหลมประมาณ 1 ฟุต บุกจี้นางสำเริง อายุ 58 ปี ผู้เป็นภรรยา เพื่อต้องการให้กลับไปอยู่ด้วยกัน หลังแยกกันอยู่ตั้งแต่ก่อนเดือนเมษายนแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจรจาเกลี้ยกล่อมนานหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่เป็นผล ในระหว่างนั้นหลวงพี่กอล์ฟ ซึ่งเดิมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันเป็น พระลูกวัด ณ วัดสุคตวราราม อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ มาซื้อปัจจัยกับบริเวณปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุพอดี จึงดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ แต่สถานการณ์เริ่มตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินว่าคนร้ายอาจมีอาวุธปืนซ่อนอยู่ด้วย เพื่อความปลอดภัยของตัวประกันจึงต้องรีบช่วยเหลือด้วยความระมัดระวังและช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
ทางหลวงพี่กอล์ฟ จึงต้องตัดสินใจขอยืมเสื้อเกราะกันกระสุนและอาวุธปืนลูกซอง ของเพื่อนตำรวจในหน่วยเดียวกันทำภารกิจช่วยเหลือตัวประกันและควบคุมตัวคนร้ายในครั้งนี้ จนกระทั่งตัวประกันวิ่งหนีออกจากออฟฟิศได้ เหลือแต่นายเอื้อนที่ยังไม่ยอมออกมา ก่อนตัดสินใจถือมีดวิ่งออกจากออฟฟิศ"
"เพื่อจะหนีการจับกุมและวิ่งหนีออกไปจากปั๊มน้ำมัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งทำการควบคุมตัว และก็เป็นเหตุการณ์ตามภาพกล้องวงจรปิดดังกล่าว และจากการค้นตัวคนร้ายมีมีด 1 เล่ม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึ่งถูกมีดบาดเข้าที่มือด้านซ้ายและกกขาด้านซ้ายตอนชุลมุนช่วงเข้าจับกุม ส่วนตัวประกันและคนร้ายปลอดภัย
ต่อมาหลวงพี่กอล์ฟ ยอมรับว่า "ตนเองเป็นพระที่ถืออาวุธปืนลูกซองตามที่เห็นในภาพจริง ซึ่งตนก็ละทางโลกหันหน้าเข้าหาทางธรรม ตั้งใจบวชปฏิบัติธรรม 20 วัน และในวันที่ 14 ของการที่เป็นพระอยู่นั้น ก็มีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้ปัจจัยบางอย่างและเป็นการบังเอิญที่ไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ไม่ต้องการที่จะให้เกิดการสูญเสียใดๆ กับใครทั้งสิ้น"
"จนต้องเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ในที่สุด และเมื่อเหตุการณ์จบลงตนเองก็ได้กลับวัดและสารภาพกับเจ้าอาวาสเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ทำลงไป เจ้าอาวาสก็บอกว่าเป็นการอาบัติอย่างแน่นอน แต่ทางเจ้าอาวาสก็ได้ปลอบใจว่า ที่ทำไปเพราะความจำเป็นในการช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น จึงทำการปลงอาบัติให้ และตนจึงใช้เวลาที่เหลือ 6 วัน ตั้งใจศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด จนเมื่อช่วงสายของวันนี้ ได้ลาสิกขาออกมาและปฏิบัติหน้าที่ตำรวจต่อในทันที"