- 11 ก.ค. 2562
มติกกพ.ควัก9พันล้านช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนไม่ขึ้นค่าไฟยาวถึงสิ้นปี
จากกรณีวันนี้(11ก.ค.) น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ได้ออกมาเปิดเผยว่า กกพ. มีมติให้คงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) สำหรับงวดเดือน ก.ย. - ธ.ค.2562 อยู่ที่ลบ 11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บในบิลค่าไฟฟ้าประชาชนเฉลี่ยอยู่ที่ 3.6396 บาทต่อหน่วย(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)เท่ากับงวดพ.ค.-ส.ค. 2562)ที่ผ่านมาเพื่อบรรเทาค่าครองชีพประชาชน
ทั้งนี้กกพ. ให้คงค่าเอฟทีต่ออีก 4 เดือน เนื่องจากไม่ต้องการให้ปัจจัยค่าไฟฟ้ามากระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ภาวะการส่งออกของประเทศชะลอตัวลงจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของภาวะการค้าโลกโดยเมื่อคำนวณต้นทุนต่างๆแล้วจะมีผลต่อค่าเอฟทีปรับขึ้น 16.82สตางค์ต่อหน่วยหรือค่าเอฟทีจะไปอยู่ที่ 5.22 สตางค์ต่อหน่วยแต่กกพ.ได้มีการบริหารจัดการเพื่อต้องการตรึงค่าไฟด้วยการใช้เงินมาดูแลประมาณ 9,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งนำเงินมาจากการกำกับประสิทธิภาพการดำเนินงานของการไฟฟ้าในปี 2561 จำนวนประมาณ 3,000 ล้านบาทและอีก 6,000 ล้านบาท จะเป็นความร่วมมือกันของ 3 การไฟฟ้า เพื่อช่วยรับต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ปรับสูงแทนประชาชนไปชั่วคราวก่อน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้คงค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บเดือน พ.ค.–ส.ค. 62 จำนวน -11.60 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.6396 บาทต่อหน่วย ไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดก่อน เพื่อบรรเทาค่าครองชีพประชาชน
“กกพ. ชุดปัจจุบันมีนโยบายเน้นการบริหารจัดการค่าเอฟทีให้ได้มากที่สุด ในช่วงสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนและราคาน้ำมัน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด โดยผลจากการกำกับประสิทธิภาพการดำเนินงานของการไฟฟ้าในปี 2561 จึงทำให้มีเงินบริหารเอฟที จำนวน 4,576 ล้านบาท เพื่อมาใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อคงค่าเอฟที บรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชน” นางสาวนฤภัทร กล่าว