อรอนงค์ร่ำไห้เปิดใจเหตุหย่าสามี แย้มไม่ปิดกั้นเรื่องหัวใจ

ล่าสุด อดีตนางสาวไทยคนดังได้เปิดใจทั้งน้ำตา ถึงเรื่องประกาศหย่ากับสามี จบชีวิตรัก 26 ปี แจงปมมือที่สามทำลายชีวิตคู่ ซึ่งเธอกล่าวว่า เรื่องที่ออกมาบอกว่าหย่ามันมีเรื่องราวมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็คือเราก็เริ่มรู้แล้วว่าสามีเรามีใจให้คนอื่น แล้วในความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนที่เราแต่งงานกัน ในความรู้สึกของอร เราก็ได้บอกกับสังคมว่าเราแต่งงานกับคนนี้นะ แล้วก็ตั้งแต่คบหาดูใจกันมา ก็ใช้ระยะเวลานานพอสมควร แล้วเชื่อว่าการที่เราได้รับรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงของสามีเราเปลี่ยนไป มันมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง แล้วพอเราได้ทราบสาเหตุแล้ว ได้คุยกันในเบื้องต้นแล้ว

จากกรณีที่อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ นางสาวไทย ปี 2535 ได้โพสต์ข้อความชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสามี โดยอรอนงค์ ได้โพสต์ภาพใบสำคัญการหย่า ประกาศว่าเธอและสามีได้หย่าขาดจากกันแล้ว โดยระบุข้อความว่า..."เมื่อมีใครคนอื่นเข้ามาในชีวิตคู่ จึงทำให้ความสัมพันธ์ของเราต้องจบลง จำต้องปล่อยเขาไป" พร้อมกับปลดปล่อยตัวเราเองเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น นี่คือประสบการณ์ชีวิตอีกหนึ่งรูปแบบที่เข้ามา

ในชีวิตจริง สัมพันธภาพ ที่ก่อขึ้นเมื่อ 2536 นับจากนี้ไปเราคงได้แต่ทำหน้าที่ พ่อและแม่ ที่ดีของลูก ๆ เท่านั้น ขอบคุณช่วงเวลาที่ผ่านมา รวม 26 ปี วันเวลาที่เปลี่ยนแปลง แม่จะเข้มแข็งขึ้นค่ะ 

 


ขอบพระคุณครอบครัวที่รักและเข้าใจ ขอบพระคุณ ผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนกัลยาณมิตรพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่คอยเป็นกำลังใจให้ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป สัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อลูกและตัวเองค่ะ

 

 

อรอนงค์ร่ำไห้เปิดใจเหตุหย่าสามี แย้มไม่ปิดกั้นเรื่องหัวใจ

 


ต่อมาทางฝั่งเพจเฟซบุ๊ก รายการดังคุยแซ่บ Show ซึ่งแอดมินเพจได้ออกมาเผยข่าวเด็ดแง้มถึงมือที่สามที่ทำให้ครอบครัวของ อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ต้องจบลงที่แท้คือคนใกล้ตัว !! โดยทางเพจได้เปิดเผยว่า "ตอนนี้ พี่อร ยังคงเก็บตัวเงียบ แต่ป้าแอบไปสืบมา สาเหตุที่ทำให้พี่อรบ้านแตกก็คือ สาวในออฟฟิศเดียวกับอดีตสามีเค่ออออ และเรื่องนี้พี่อรก็รู้มาสักพักแล้ว"

 

 

ขณะที่เปิ้ล นาคร นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ได้เปิดเผยผ่านสื่อมวลชน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของอรอนงค์ โดยเปิ้ลเองบอกว่า ตนรู้จักทั้งคู่ตั้งแต่สมัยที่เรียนที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เมื่อตนเห็นข่าว ตนก็ตกใจมากและไม่ทันตั้งตัว อย่างไรก็ตาม ทั้งอรอนงค์และสามีเองเป็นคนน่ารัก สามีคุณอรเป็นคนเรียบร้อยมาก ซึ่งสำหรับตนแล้ว ในเรื่องนี้ ตนสงสารคนเป็นลูกมากกว่า หากเกิดเรื่องที่เราไปด้วยกันไม่ได้ แต่คนที่ยังอยู่และต้องประคองต่อไปก็คือลูก

 


ส่วนเรื่องมือที่สามก็เป็นไปได้ หากผู้ชายใจไม่นิ่งพอ ส่วนปมเลิกรากันนั้น ตนบอกได้แค่ว่า ตนเคารพการตัดสินใจของทั้งคู่ หากอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข ก็ต้องเลิก แต่ต้องคิดต่อว่า จะทำอย่างไรให้ลูกเรามีความสุขด้วย

 

 

 


และเมื่อตรวจสอบในอินตราแกรมของอดีตนางสาวไทย อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ นั้น ได้มีเพื่อนพ้องในวงการบันเทิง เข้ามาคอมเม้นต์ให้กำลังใจ รวมไปถึงคุณแม่สุดสตรองอย่าง "แอฟ ทักษอร" ที่ได้เลิกรากับอดีตสามี เข้ามาคอมเม้นต์ด้วยว่า "รักและเป็นกำลังใจให้พี่อรเสมอค่ะ" ซึ่งอรอนงค์ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ตอบข้อความของสาวแอฟว่า “ขอบคุณค่ะน้องแอฟ” ทำให้มีแฟนคลับเข้ามากดไลค์เป็นจำนวนมาก  ถือเป็นการส่งผ่านกำลังใจยิ่งใหญ่ ในฐานะคนที่ผ่านมรสุมครอบครัวมาก่อน เพราะเมื่อปีที่แล้ว ข่าวการเลิกราของแอฟ กับอดีตสามีก็เป็นเรื่องราวดราม่าอยู่พอสมควร งานนี้เรียกได้ว่า สาวแอฟได้ให้กำลังใจในฐานะผู้หญิงหัวอกเดียวกัน 

 

อรอนงค์ร่ำไห้เปิดใจเหตุหย่าสามี แย้มไม่ปิดกั้นเรื่องหัวใจ

 

อ่านข่าว : แอฟ ทักษอร คอมเมนต์ ให้กำลังใจ อรอนงค์ หลังเลิกราสามี ด้วยถ้อยคำสตรองมาก

ล่าสุด อดีตนางสาวไทยคนดังได้เปิดใจทั้งน้ำตา ถึงเรื่องประกาศหย่ากับสามี จบชีวิตรัก 26 ปี แจงปมมือที่สามทำลายชีวิตคู่ ซึ่งเธอกล่าวว่า เรื่องที่ออกมาบอกว่าหย่ามันมีเรื่องราวมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็คือเราก็เริ่มรู้แล้วว่าสามีเรามีใจให้คนอื่น แล้วในความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนที่เราแต่งงานกัน ในความรู้สึกของอร เราก็ได้บอกกับสังคมว่าเราแต่งงานกับคนนี้นะ แล้วก็ตั้งแต่คบหาดูใจกันมา ก็ใช้ระยะเวลานานพอสมควร แล้วเชื่อว่าการที่เราได้รับรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงของสามีเราเปลี่ยนไป มันมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง แล้วพอเราได้ทราบสาเหตุแล้ว ได้คุยกันในเบื้องต้นแล้ว

 

อรอนงค์ร่ำไห้เปิดใจเหตุหย่าสามี แย้มไม่ปิดกั้นเรื่องหัวใจ

 


ต้องบอกก่อนว่าตอนที่เริ่มคบกับอดีตสามี อรก็ชัดเจนว่ามันมีมาเป็นสเต็ป คือเริ่มจากการเป็นแฟน คบกัน 4 ปีแล้วหมั้น พอหมั้นเสร็จแล้วแต่งงาน พอแต่งงาน แล้ววางแผนที่จะมีลูก การที่เราคบกับใครคนหนึ่ง แล้วเราก็เปิดใจรับเขา เราก็ต้องรู้ทั้งสองฝ่าย ว่ามีความต้องการยังไง แล้วมีอุปนิสัยใจคอยังไงบ้าง

 

 

 


มันก็ทำให้วันเวลาเหล่านั้น รู้ว่าสามีเรามีความเปลี่ยนแปลงไป แล้วพอมาคุยกัน แล้วก่อนหน้าที่เราจะแต่งงาน เราก็จะบอกกันว่า ถ้าสมมติว่าใครคนใดคนหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลง ให้บอกถึงสาเหตุ แล้วบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพื่อที่เราจะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด แล้วก็จะได้มีความรู้สึกที่ดี หลังจากที่เราอาจจะไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน

 

 

 

พอเริ่มสักประมาณ 2 ปีเศษๆ เราก็เริ่มรู้ว่ามันมีเหตุการณ์ที่สามีเรามีความเปลี่ยนแปลงไปจากที่อาจจะเวลาโทรศัพท์อาจจะแปลกๆ กลับบ้านดึก จากที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน มีกินเลี้ยง เอาท์ติ้งเราจะไปกับเขาตลอด แต่ว่าพอไประยะหลังๆ พอเริ่มมีความเปลี่ยนแปลง สิ่งเหล่านี้มันก็เริ่มจางหายไป ความรู้สึกเราก็เริ่มรับรู้ได้ เราก็มาคุย ให้เวลาว่า เราสามารถปรับจูนให้เหมือนเดิมได้ไหม มันก็มีระยะเวลาเป็นตัวให้เราได้คิดได้พูดคุยกันด้วย แต่อรเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นตอนแรกทำไมถึงไม่แก้ไขให้มันกลับมาเหมือนเดิม ด้วยอาจจะเป็นเพราะเราอาจจะมีข้อบกพร่อง แล้วเราปล่อยผ่านเลยไป คิดว่าเราไม่ได้ไปตามจิกเขา ไม่ได้ไปตามหึงหวงเขามันกลับกลายเป็นว่าเขาสามารถไปได้อย่างสบายไปมากกว่า

 

อรอนงค์ร่ำไห้เปิดใจเหตุหย่าสามี แย้มไม่ปิดกั้นเรื่องหัวใจ

 

ส่วนสาเหตุหลักคือมือที่3มั้ย? ก็น่าจะใช่แหละค่ะ เพราะว่าจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ได้คุยกันแล้วว่า อรไม่ได้ผิดอะไร แต่ว่าเขามีคนใหม่เข้ามา เมื่อคุยกัน ไม่มีใจให้กันแล้ว ก็ไม่สามารถปรับจูนหากันแล้ว เราก็ควรแยกทางกันโดยดี แล้วทุกวันนี้แม้ว่าหลังจากเราเซ็นเอกสารใบหย่าอย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้แยกกันอยู่ประมาณ 2 ปี แต่ว่า 2 ปีที่ผ่านมายังอยู่บ้านเดียวกันอยู่ เรายังรับผิดชอบความเป็นพ่อและแม่ บางครั้งถ้าอรมีถ่ายละครไม่ได้ไปรับส่งลูก เขาก็จะทำหน้าที่ดูแลไปรับไปส่งลูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดูแลลูกเลย

 

 

 


หน้าที่ของการเป็นพ่อและแม่ไม่สามารถตัดขาดได้ แต่ว่าหน้าที่ของการเป็นสามีภรรยาเมื่อคนใดคนหนึ่งมีความเปลี่ยนแปลงไปแล้ว มันก็อาจจะจบสิ้นลงได้ แต่ความเป็นพ่อเป็นแม่ก็ยังคงอยู่ค่ะ อรเองคิดว่าตัวเองก็มีส่วนผิดที่ทำให้สามีเราไปมีบุคคลที่สามได้ แต่เราไม่อยากพาดพิงดีกว่า เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคนเขาคุยกัน ในเมื่ออรตัดสินใจยุติเส้นทางที่เราจะเดินคู่กันไปกับอดีตสามีแล้ว ก็ควรจะยุติแค่นี้ จากนี้ไปเขาจะมีใคร จะเปิดตัว จะแต่งงานใหม่ ก็เป็นเรื่องของอดีตสามี อรชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นการคบหาดูใจกับผู้ชายคนหนึ่ง”

 

 

 

เห็นว่ามือที่3 เป็นคนใกล้ตัวเขา ตรงนี้อรไม่ขอพาดพิงดีกว่านะ ก็อาจจะตามนั้น พอรู้คืออาจจะเคยเห็นหน้าเขา แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดตามอะไร ไม่รับรู้เลยว่าตอนนี้เขาจะอยู่ที่ไหนอย่างไร แต่ก็เป็นคนในออฟฟิศเดียวกัน

 

 

 

ถามว่าเสียใจมันก็เสียใจ แต่ว่าอรเป็นแม่ อรไม่อยากให้ลูกต้องเห็นน้ำตา (ร้องไห้) อรก็จะพยายามทำดีที่สุดเท่าที่ตัวเองสามารถทำได้ และก็คิดว่ากว่ามันจะมาถึงตรงนี้ได้ เราก็อดทนมาถึงที่สุดแล้ว จริงๆ อรไม่อยากร้องไห้เลย เราก็คิดว่ามันมาสุดทางจริงๆ และเราเองก็อยากจะมีชีวิตที่ดี มีคุณภาพทางจิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องมาคอยระแวงหรือคอยกังวลเวลาคุยกับใคร"

 

 

 


ส่วนเรื่องหัวใจของอร ยังไม่ปิดแล้วกัน (หัวเราะ)? เปล่าหรอกค่ะ เราพยายามอยู่อย่างมีความสุขดีกว่า ก็ใช้หลักธรรมมาเป็นที่พึ่งในการดำเนินชีวิตของเรา เพราะเราเป็นพุทธศาสนิกชน เราคิดว่าไม่จากเป็นก็จากตาย อันไหนไม่ใช่ของเราคือไม่ใช่ของเรา เราทำวันนี้ของเราให้ดีที่สุดจะดีกว่า มีอนาคตของลูกเป็นสิ่งที่เราจะต้องฝ่าฟันร่วมกันกับลูก ซึ่งตัวอดีตสามีเองเขาก็ยังคงดูแลลูกเหมือนกัน แต่ให้เขามีความสุขในแบบของเขา เราก็มีความสุขในแบบของเราค่ะ”

 

 


และที่อรถ่ายแบบเซ็กซี่นั้น ไม่ได้ประชดรักเลยค่ะ เพราะถ้าพูดถึงว่าจะประชดรักแล้วมาถ่ายเซ็กซี่ คือก่อนหน้านี้หลังจากคลอดลูกคนที่ 1 คนที่ 2 ก็มีถ่ายภาพชุดว่ายน้ำเลยค่ะ ก็จะมีสื่อบางสื่อจะแบบว่าเอ๊ะ เป็นเพราะไม่เรียบร้อยรึเปล่า สามีถึงมาขอหย่า ก็ไม่ใช่ เพราะว่าตอนถ่ายภาพชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ยิ่งกว่านี้อีก เพราะฉะนั้นประเด็นเรื่องหย่าแล้วเลยอยากโชว์คือไม่ใช่เลยค่ะ เพราะโดยปกติเป็นคนไม่ได้แต่งตัวเซ็กซี่อยู่แล้วค่ะ”

 

 

 

อรอนงค์ร่ำไห้เปิดใจเหตุหย่าสามี แย้มไม่ปิดกั้นเรื่องหัวใจ