หนุ่มวัย 16 โดนรุ่นพี่สถาบันย่านมีนบุรี เรียกซ่อมส่วนตัว

ก่อนหน้านี้มีให้เห็นเป็นตัวอย่างไปแล้วกับการรับน้องโหด ซึ่งเคสตัวอย่างจากกรณีที่มีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับรุ่นน้องถูกรุ่นพี่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม รับน้องเข้ากลุ่ม โดยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ในเขตพื้นที่ สภ.นครชัยศรี ภ.จ.นครปฐม 

นั่นคือเรื่องราวของ น้องกร หนุ่มน้อยที่ถูกรุ่นพี่รับน้องโหดเพื่อแลกับเลสข้อมือรุ่น ซึ่งเบื้องต้นแพทย์ได้นำศพส่งผ่าชันสูตร พบว่าที่บริเวณหน้าอกได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง และสมองขาดออกซิเจน สร้างความเสียใจกับครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากการสูญเสียครั้งนี้ยังไม่มีผู้ใดออกมารับผิดชอบ

 

 

จากนั้นครอบครัวได้นำศพน้องกร ไปตั้งพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดสำโรง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนทางคดีแม้มีผู้ก่อเหตุถูกส่งเข้าสถานพินิจไปแล้ว แต่ทางครอบครัวอยากขอความเป็นธรรมไปถึงหน่วยงานต่างๆ
 

 

ล่าสุดมีกรณีที่มีลักษณะคล้ายกันนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว เมื่อ เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ เหน่อ หนองกระโดน คนเก่ายังไม่ทันเผา! ผมได้รับแจ้ง ทางข้อความ ว่ามีรุ่นพี่(สถานศึกษาแห่งหนึ่งในมีนบุรี) เรียกรุ่นน้อง อายุ 16 ปี ไปซ่อม จนเสียชีวิต ซึ่งเป็นการเรียกไปซ่อมส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับสถาบัน(อีกแล้ว)

 

 

เบื้องต้นทราบว่า หัวใจวาย ทางผู้เกี่ยวข้องแจ้งว่าก่อนเสียชีวิตน้องมีอาการเจ็บปวด ทั้งตัว ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมกำลังรอผลชันสูตร ภายในสัปดาห์นี้แล้วจะแจ้งให้ทราบเพิ่มเติมครับ"

 

 

ท่ามกลางชาวเน็ตมากมายที่เข้ามาแสดงความคิดเห้นเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เนื่องจากหลายคนนั้นไม่เห็นด้วยที่จะมีการรับน้องในลักษณะที่รุนแรง ในขณะที่บางคนก็เข้ามาคอมเม้นต์ว่า การรับน้องแบบนี้ เป็นการสมัครใจของน้องเอง เพื่อรับรุ่น เข้าคณะ. น้องรู้ว่าต้องโดน และ ยอมรับที่จะโดน  แต่ความรุนแรง มากน้อย เกิดจากรุ่นพี่บางคน ที่คิดว่าน้องไหว 

 

 

การรับน้องจะเกิดขึ้นตอนไหน ที่ไหน ไม่มีใครทราบได้ บางทีก็เรียกมาโดยตรง เพื่อลงโทษหากน้องมีการทำผิด และ จะเป็นความลับไม่เปิดเผยลงโซเชียล แม้แต่งานประเพณีรับน้องที่ออกไปตาม ต่างจังหวัดก็ตาม ปล.จากคนที่เข้าร่วมงานการรับน้องของเด็กช่างมาบ่อย แต่เข้าร่วมในฐานะรุ่นพี่ที่จบไปนานแล้ว

 

 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ได้เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม โดยพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”

 

จากการสอบสวนมราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย ได้มาที่บ้านหลังนี้ พร้อมเพื่อนรุ่นพี่ ประมาณ 10 คน จากนั้นรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ ได้บอกกับผู้ตายว่า “ทำไมไม่ค่อยมาเรียน เดี๋ยวเรียนไม่จบ เตือนหลายครั้งแล้วนะ” จากนั้นจึงซ่อมผู้ตาย โดยสั่งให้กลิ้งข้างบ้านหลังนั้น หลังจากให้ผู้ตายกลิ้งเสร็จ รุ่นพี่ที่ก่อเหตุ บอกให้ผู้ตายไปอาบน้ำแต่งตัว ซึ่งขณะที่ผู้ตายอาบน้ำ รุ่นพี่ที่ก่อเหตุก็เดินตามไปด้วย และพาผู้ตายไปคุยในห้อง โดยปิดไฟคุยกัน จากนั้นรุ่นพี่ที่ก่อเหตุก็ว่ากล่าวตักเตือน ผู้ตายจึงยอมให้รุ่นพี่ลงโทษอีก

 

โดยรุ่นพี่ใช้เท้าเตะผู้ตาย 2 ครั้ง แล้วเดินออกไป สักครู่ผู้ตายก็ล้มลง ซึ่งเพื่อนรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ในบ้าน จึงเปิดไฟแล้วเข้าไปดู เห็นผู้ตายอาการไม่ค่อยดี รุ่นพี่จึงช่วยกันพาผู้ตายไป รพ.นพรัตน์ฯ แต่เมื่อผู้ตายถึง รพ. ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแพทย์ลงความเห็นเบื้องต้นว่า สาเหตุการตายคือ “หัวใจล้มเหลว”

 

"ผู้ตายได้มาที่บ้านที่เกิดเหตุ พร้อมเพื่อนรุ่นพี่ ประมาณ 10 คน ได้มากิน ดื่มน้ำอัดลม เล่นกีต้าร์ จากนั้นรุ่นพี่ชื่อนายศิริพันธ์ (สงานนามสกุล)  อายุ 19 ปี รุ่นพี่ชั้นปวส1โรงเรียนเดียวกันได้บอกกับผู้ตายว่า “ทำไมไม่ค่อยมาเรียน เดี๋ยวเรียนไม่จบ เตือนหลายครั้งแล้วนะ” จึงลงโทษซ่อมรุ่นน้อง  ให้กลิ้งภายในซอยข้างบ้านที่เกิดเหตุ หลังจากลงโทษกลิ้งเสร็จ ผู้ตายพร้อมรุ่นพี่ ได้มานั่งพัก จากนั้น รุ่นพี่บอกให้ผู้ตายไปอาบน้ำแต่งตัว ขณะผู้ตายเข้าบ้านไปอาบน้ำ นายศิริพันธ์ ก็เดินตามไปด้วย และพาผู้ตายไปคุยในห้องภายในบ้านโดยปิดไฟคุยกัน 

 

จากนั้นพูดว่ากล่าวตักเตือน ผู้ตายจึงยอมให้ลงโทษอีก นายศิริพันธ์ จึงถามว่า “ไหวมั๊ย” ผู้ตายตอบว่า “ไหว” นายศิริพันธ์จึงตามว่า “กี่ที” ผู้ตายตอบว่า “2ที” นายศิริพันธ์ จึงใช้เท้าเตะผู้ตาย 2 ครั้ง แล้วเดินออกไป สักครู่ผู้ตายก็ล้มลง เพื่อนรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ในบ้านจึงเปิดไฟแล้วเข้าไปดูเห็นว่าอาการไม่ค่อยดี จีงเรียกเพื่อนช่วยกันพาไปรักษาตัวที่ รพ.นพรัตน์ฯ เมื่อผู้ตายถึง รพ.ฯ ผู้ตายก็เสียชีวิตในเวลาต่อมาแพทย์ลงความเห็นเบื้องต้นว่าสาเหตุจากหัวใจล้มเหลว"
      
 

นอกจากนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พบว่ายังมีรุ่นพี่บางกลุ่ม บางสถาบัน ที่ยังก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยวัฒนธรรม ประเพณี กฎระเบียบของคณะ หรือด้วยเหตุผลอื่นใด ซึ่งล้วนอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียและความเสียใจต่อญาติ ผู้ปกครองของผู้ที่ถูกกระทำ

 

จึงอยากเตือนไปยังรุ่นพี่ที่คอยดูแลรุ่นน้องตามสถาบันต่างๆ ให้พึงระลึกถึงความผิดชอบชั่วดี การกระทำอันใดที่ไม่สมควรกระทำกับรุ่นน้อง เพราะถ้าส่งผลกระทบต่อชีวิต และร่างกายของรุ่นน้อง ผู้ที่กระทำจะมีความผิดตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับรุ่นพี่ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยไม่มีการละเว้น

 

 

 

 

ล่าสุด  พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.โคกคราม เชิญตัว นายศิริพันธ์   (สงวนนามสกุล)   อายุ 19 ปี นักศึกษาช่างก่อสร้าง ปวส. ชั้น ปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี พร้อมย่า เข้ารับทราบข้อกล่าวหาหลังพบว่าทำร้ายนายพัทธดนย์ บุญครอง อายุ 16 ปี ช่างก่อสร้างปวช. ชั้นปี 2 รุ่นน้องสถาบันเดียวกัน เสียชีวิตที่รพ.นพรัตน์เมื่อกลางดึกวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา

 

โดยนายศิริพันธ์ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือซ่อมน้องมิใช่รับน้องโดยรุ่นน้องที่ตนเองเป็นผู้ดูแลอยู่ ไม่ไปโรงเรียนจึงเรียกมาตักเตือนก่อนทำการลงโทษด้วยการปิดไฟห้องแล้วแต่ที่หน้าอกและแขนไป 2 ครั้ง แต่ก่อนทำก็ถามรุ่นน้องแล้วว่าผิดจริงไหมรับไหมที่จะต้องโดนลงโทษแบบนี้รุ่นน้องบอกก็ยอมรับได้แต่หลังจากเตะไปสักพักรุ่นน้องมีอาการหมดสติโดนตกใจจึงรีบช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลที่ทำลงไปด้วยความรักน้องอย่าให้น้องตั้งใจเรียนและเข้าเรียนให้ครบจนจบ

 

 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.อลงกรณ์ กล่าวว่า ภายหลังจากทำการสอบปากคำพยานผู้เห็นเหตุการณ์พร้อมกับพิจารณาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุไปบางส่วนแล้วนั้น เบื้องต้นพบว่า นายศิริพันธ์ นักศึกษารุ่นพี่ของผู้ตาย นั้นมีความผิดจริง จึงได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และข้อหาข่มขืนใจผู้อื่น ในเบื้องต้น  

นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนยังได้ทำการเชิญนักนักศึกษาปวช.ชั้นปีที่ 2 และนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 ของสถาบันดังกล่าวที่เป็นเพื่อนและรุ่นพี่ของผู้ตายซึ่งอยู่ด้วยกันกับผู้ตายก่อนหน้าจะเสียชีวิต มาให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ในฐานะพยานด้วยเช่นกัน โดยมีสหวิชาชีพ และผู้ปกครอง อยู่ร่วมรับฟังการสอบปากคำแต่หากสอบพยานที่เกี่ยวข้องเสร็จทั้งหมดแล้ว และผลชันสูตรศพออกมา ก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่   ก่อนจะนัดนำตัวผู้ต้องหาไปส่งฝากขังที่ศาลต่อไป

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก เหน่อ หนองกระโดน