เจ้าของรถปิคอัพเฉี่ยว 3 นร.ล้มเจ็บแสดงความรับผิดชอบแล้ว

ล่าสุด ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นายยูกิพลี อีแต อายุ 39 ปี พ่อของ น.ส.ญาญัง อีแต อายุ 17 ปี ผู้บาดเจ็บ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามคนขับรถกระบะคันก่อเหตุมาดำเนินคดี เนื่องจาก น.ส.ญาญัง ผู้บาดเจ็บ เริ่มมีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ขวาและขาขวา โดยก่อนเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน ได้เดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย

จากกรณีที่ชาวเน็ตได้เห็นคลิปการใช้ถนนที่ไม่สุภาพอย่างแรงของผู้ขับรถกระบะสีดำคันหนึ่ง ที่ดูเหมือนว่าไม่สนโลกและไม่สนใจใครทั้งนั้น เพราะเขาได้ขับรถเฉี่ยวนักเรียนที่ขี่มอเตอร์ตามๆ กันมาล้มลง และไม่มีการเข้าไปดูหรือให้ความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น

โดยเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ Chutima W. Pettit ได้โพสต์เฟซบุ๊ก พร้อมระบุข้อความว่า "ดูความใจดำของคน ขับรถชนเด็ก แล้วไม่ลงมาขอโทษหรือลงมาดูเด็กเลย ชั่วมากกกกก"

 

เจ้าของรถปิคอัพเฉี่ยว 3 นร.ล้มเจ็บแสดงความรับผิดชอบแล้ว

 

อ่านข่าว - ใจดำจริงๆ !!! ปิคอัพมักง่ายแซงเลี้ยวเข้าซอยกะทันหัน ชนน้องนร.เสียงกรี๊ดดังลั่น ก่อนชิ่งหนีหาย!

 

 

ล่าสุด ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นายยูกิพลี อีแต อายุ 39 ปี พ่อของ น.ส.ญาญัง อีแต อายุ 17 ปี ผู้บาดเจ็บ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามคนขับรถกระบะคันก่อเหตุมาดำเนินคดี เนื่องจาก น.ส.ญาญัง ผู้บาดเจ็บ เริ่มมีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ขวาและขาขวา โดยก่อนเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน ได้เดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย

 

 


โดยนายยูกิพลี พ่อของ ด.ญ.ญาญัง กล่าวว่า บุตรสาวบอกตนว่าถูกรถกระบะเลี้ยวเข้าซอยตัดหน้าเบียดและชนรถจักรยานยนต์ล้มได้รับบาดเจ็บ บริเวณซอยใกล้โรงเรียนเบญจมราชูทิศนครศรีธรรมราช หลังเกิดเหตุ มีพลเมืองดีเข้าช่วย ส่วนรถกระบะคันก่อเหตุไม่จอดรถลงมาดู แต่กลับขับรถเข้าในซอยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

 

 

 

ตอนนั้นลูกสาวยังไม่รู้สึกเจ็บ แต่รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะก่อนเกิดเหตุลูกสาวเห็นแล้วว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับบนถนนตีคู่กับรถจักรยานยนต์ของตน แต่ไม่คิดว่ารถกระบะจะเลี้ยวเข้าซอยอย่างกะทันหัน ตนพยายามเบรกรถแล้ว แต่ไม่ทัน จึงถูกรถกระบะเบียดชนจนรถจักรยานยนต์ล้ม หลังถูกชนลูกสาว 3 คน ร่างกระเด็นตกจากรถ 

 

 

 

โชคดีที่หลังถูกชนมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือยกรถจักรยานยนต์ และสอบถามว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ไปโรงพยาบาลหรือเปล่า แต่ตอนนั้นลูกสาวยังไม่รู้สึกเจ็บ ส่วนรถจักรยานยนต์ก็ไม่ได้เสียหายมากนัก มีเพียงรอยถลอกบริเวณบังโคลนหน้าและไฟหน้า ลูกสาวจึงตัดสินใจขับรถกลับบ้าน กระทั่งช่วงค่ำลูกสาวเริ่มปวดแขนข้างขวาและขาข้างขวาและมีอาการบวม ตนจึงหากินยาแก้ปวดให้ทานและตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจในวันนี้ เพราะเกรงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่ออาการบาดเจ็บของลูกสาวภายหลัง

 

 

เจ้าของรถปิคอัพเฉี่ยว 3 นร.ล้มเจ็บแสดงความรับผิดชอบแล้ว

ต่อมานายสัญญา วิคยำเพิง ซึ่งเป็นทนายความส่วนตัวของนางจุฑามาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี คนขับรถกระบะคันก่อเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประกันภัยรถยนต์ เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายสัญาญา ทนายความ ระบุว่า ตอนเกิดเหตุ นางจุฑามาศ คันขับรถกระบะ ไม่ทราบว่าขับรถกระบะชนรถจักรยานยนต์ของนักเรียนหญิง 

 

เจ้าของรถปิคอัพเฉี่ยว 3 นร.ล้มเจ็บแสดงความรับผิดชอบแล้ว

 


ตอนนั้นคิดว่ารถจักรยานยนต์ของนักเรียนหญิงขับตกไหล่ทาง ตนจึงขับรถเข้าไปในซอยโดยไม่ได้จอดรถลงมาดู กระทั้งมีคลิปเผยแพร่ในโลกโซเชียล จึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ทางตำรวจติดตามคนขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และครั้งนี้ตั้งใจว่าจะเดินทางไปพบผู้อำนวยการโรงเรียนมุสลิมสันติธรรมมูลนิธิ เพื่อให้ช่วยติดตามนักเรียนหญิงดังกล่าว แต่มาทราบว่าพ่อของนักเรียนหญิง จะเดินทางมาแจ้งความ จึงเดินทางมาพบกับผู้เสียหายที่โรงพัก เพื่อแสดงความรับผิดชอบ

 

 

 


ทั้งนี้ นางจุฑามาศ คนขับรถกระบะ ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ จึงได้มอบหมายให้ตนทำหน้าที่แทน พร้อมกับฝากคำขอโทษถึงผู้บาดเจ็บ รวมทั้งครอบครัวผู้บาดเจ็บ และเน้นย้ำให้ตนรับผิดชอบทุกอย่างให้กับผู้เสียหาย ซึ่งการเจรจาตกลงค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับพ่อผู้บาดเจ็บ รวมทั้งน้องญาญัง ผู้บาดเจ็บ สามารถตกลงกันได้ด้วยดี โดยทางบริษัทประกันภัยรถยนต์จะดำเนินการซ่อมรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บให้กลับมาอยู่ในสภาพใช้งานตามปกติ พร้อมกับมอบเงินเป็นค่าทำขวัญจำนวน 10,000 บาท และรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน จนกว่าจะหายเป็นปกติ

 

 

 


ด้านนายยูกิพลี พ่อของ ด.ญ.ญาญัง กล่าวภายหลังตกลงค่าเสียหาย ว่า ตนยินยอมรับข้อเสนอและความรับผิดชอบของคนขับรถกระบะ พร้อมฝากถึงคนขับรถกระบะให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการขับรถ เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ลูกสาวทั้ง 3 คนของตนไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก พร้อมกับกล่าวขอบคุณพลเมืองดี ที่ลงไปช่วยเหลือลูกสาวของตน รวมทั้งเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถที่นำมาเผยแพร่ในโลกโซเชียล

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม  พ.ต.ท.สุริยน แกมทอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เบื้องต้นทางคนขับรถกระบะ ได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัว มาแสดงความรับผิดชอบและตกลงค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายแล้ว และสามารถตกลงกันด้วยดี จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนในทางคดีทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับคนขับรถกระบะคันก่อเหตุ ในข้อหาขับรถประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทำการเปรียบเทียบปรับ 

 

 

เจ้าของรถปิคอัพเฉี่ยว 3 นร.ล้มเจ็บแสดงความรับผิดชอบแล้ว