- 25 ก.ค. 2562
ล่าสุด ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งครอบครัว ตั้งสวดอภิธรรมของ ครูประสิทธิ์ รู้ปัญญา
จากกรณีที่ พ.ต.อ.ยุทธการ โสเมือง ผกก.สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้เผยถึงการเสียชีวิตของชายหญิงในห้องพักภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ว่า พนักงานสอบสวน สภ.มัญจาคีรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.มัญจาคีรี ว่า มีคนตายในห้องพัก
ภายหลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 แพทย์เวรรพ.มัญจาคีรีและเจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมกันชันสูตรศพ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุภายในห้องพัก พบศพชายหญิงนอนตายคู่กันอยู่บนเตียงนอน ฝ่ายหญิงอยู่ในสภาพ สวมชุดนักเรียน ศีรษะหนุนอยู่ที่แขนขวาฝ่ายชาย สภาพศพถูกยิงที่ศีรษะขมับด้านซ้าย
โดยหญิงสาวผู้ตายนั้นมีอายุ 14 ปี เป็นชาว ต.นาข่า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งจะครบอายุ 15 ปี ในวันที่ 1 ส.ค.2562 นี้ ส่วนฝ่ายชายก็อยู่ในสภาพนอนหงาย มีบาดแผลถูกกระสุนปืนที่ขมับซ้ายเช่นเดียวกัน ทราบชื่อต่อมาว่า นายประสิทธิ์ รู้ปัญญา อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.9 ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เป็นครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนกุดขอนแก่นท่าเกษม แต่เกษียณก่อนกำหนดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - สลดใจ!! อดีตครูวัยเกษียณเสียชีวิตปริศนา พร้อมเด็กสาวอายุ 14 ในรีสอร์ทขอนแก่น เพื่อนเล่าสัมพันธ์รักต่างวัย คาดปมหึงหวงชนวนลั่นไกดับคู่!
ต่อมา น้องมอส หนุ่มวัย 17 คู่หมั้นของเด็กสาววัย 14 เผยว่า คบกับเด็กสาวผู้ตายได้ 4 เดือน ซึ่งระยะหลังตนเริ่มผิดสังเกตสาวคู่หมั้น ที่มักจะแชทคุยกับใคร เมื่อตนถามว่าคุยกับใคร เค้าก็บอกว่าคุยกับครู คือนายประสิทธิ์ ตนพยายามบอกว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลย แต่เค้าบอกว่า อย่ามายุ่ง ตนจึงไม่ได้ยุ่งเรื่องนี้ เพราะถือว่าอย่างไรเสีย ก็จะได้แต่งกันแล้ว วันเกิดเหตุ เด็กสาวคู่หมั้นหายไปจากโรงเรียน ตนไปรับแล้วไม่เจอ แล้วพยายามตามหา ก่อนมาพบว่าเธอถูกยิงจนเสียชีวิตแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - เบื้องหลังสลดฉาว หนุ่มคู่หมั้นสาว 14 เสียชีวิตพร้อมอดีตครูเกษียณ เปิดใจปมมรณะรักต่างวัย
ล่าสุด ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งครอบครัว ตั้งสวดอภิธรรมศพ ครูประสิทธิ์ รู้ปัญญา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่ง เพื่อนสนิทของผู้ตาย ได้เล่าว่า หลังจากที่ครูประสิทธิ์ เกษียณออกมาเมื่อช่วงมกราคม ที่ผ่านมา ได้เงินก้อนมา 2 ล้านบาท ให้ลูกชาย 2 คน คนละ 100,000 บาท
ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ใช้เอง โดยไม่ได้ให้ภรรยาแม้แต่บาทเดียว และยังขอหย่ากับภรรยา โดยไปจดทะเบียนหย่าที่อำเภอ เมื่อ 2 เดือนก่อน ซึ่งตนไม่ทราบสาเหตุ เพราะครูประสิทธิ์ นิสัยเงียบๆ ไม่ค่อยคุยกับใคร ภรรยาของครู ก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง แต่หลังจากครูเสียชีวิตแล้ว เพื่อนสนิทหลายคนได้นั่งคุยกับครอบครัว จึงทราบว่า เงินที่ครูประสิทธิ์มี นำไปทุ่มให้กับเด็กหญิงอายุ 14 ปี รายนี้ เพราะรักเด็กคนนี้มาก ระยะหลังก่อนเกิดเหตุ ครูประสิทธิ์รู้ว่า ฝ่ายหญิงมีแฟนอยู่แล้ว การคบหาจึงไม่ราบรื่นเหมือนเดิม และฝ่ายหญิงเริ่มตีตัวออกห่าง
เงินที่มีอยู่ก็หมด หนี้สินในครอบครัวกว่า 3 ล้านบาทยังติดค้าง เด็กสาวที่ติดพันก็มีแฟน ครูประสิทธิ์แก่แล้วอาจจะคิดมาก ทั้งหนี้สินในครอบครัว เงินที่มีทุ่มไปให้ฝ่ายหญิง แต่สุดท้ายฝ่ายหญิงนอกใจไปมีแฟนใหม่ ทำให้เกิดปัญหารุมเร้า จึงคิดสั้นก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เพื่อนของผู้ตายกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อนสนิท ยังบอกอีกว่า ก่อนจะเสียชีวิต ภรรยาของครูประสิทธิ์ ได้เปิดไลน์ส่วนตัวที่ครูประสิทธิ์ ส่งถึงภรรยา มาให้ตนอ่าน พบข้อความว่า ครูประสิทธิ์ไลน์มาขอกินข้าวกับภรรยาเป็นมื้อสุดท้าย เพราะไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อไปได้อีกกี่วัน ซึ่งภรรยาก็บอกว่า ให้กลับมาทานข้าวด้วยกันที่บ้าน แต่ยังไม่ทันได้กลับบ้าน ตำรวจโทรมาบอกว่า พบศพครูประสิทธิ์ตายในรีสอร์ต ภรรยา และลูกๆ ของครู จึงเดินทางไปดู ก็พบว่าเสียชีวิตพร้อมเด็ก 14 ปี ภรรยาและลูกๆ ไม่มีใครพูดอะไร ก่อนจะดำเนินการขอรับศพครู กลับมาที่บ้าน เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาและจะมีการฌาปนกิจศพในวันเสาร์ที่จะถึงนี้
ด้าน ที่บ้านของ เด็กสาววัย 14 ปีผู้ตายนั้น นายทวีศักดิ์ สารทรัพย์ ยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ยุติธรรม กลุ่มอำนวยความยุติธรรมและนิติการ ปฏิบัติหน้าที่ และ ร.ต.อ.ประพาส ระวินู รองสว.(สอบสวน) สภ.มัญจาคีรี ลงพื้นที่พบ นางสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ยายของ เด็กสาววัย 14
โดย นายทวีศักดิ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่พบกับ นางสมพงษ์ ว่า ทราบว่า เด็กสาวอายุ 14 ปี ยังเป็นนักเรียน และเสียชีวิตจากการกระทำของบุคคลอื่น ซึ่งเท่ากับว่า เด็กสาว อายุ 14 ปี เป็นเหยื่อทางอาชญากรรม จึงลงพื้นที่มาพบยาย ซึ่งเป็นผู้ปกครอง และเลี้ยงดูหลานสาวมาตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมา คนตายเป็นเสาหลักของครอบครัว คอยช่วยเหลือดูแลตายายมาตลอด
เมื่อเสียชีวิตลงครอบครัวก็ขาดเสาหลัก ทั้งยังเป็นผู้ถูกกระทำ จึงต้องมาให้การช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จากเงินกองทุนยุติธรรม ซึ่งยายจะเป็นผู้ได้รับเงินช่วยเหลือ 110,000 บาท ซึ่งเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้วเงินจำนวนดังกล่าวจะโอนเข้าบัญชีของยายผู้ตาย
ขณะเดียวกัน นางสมพงษ์ ได้หารือกับยุติธรรมจังหวัด ถึงกรณีที่คนในครอบครัวต่างเห็นตรงกันว่า การตายของหลานสาวในครั้งนี้ เกิดจากกระทำของครูประสิทธิ์ จึงอยากจะให้กฎหมายให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว โดยให้ทางครอบครัวครูประสิทธิ์ เยียวยาให้ทางครอบครัวน้องด้วย ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวนั้น ยายและทางครอบครัวจะมีการดำเนินการทันทีหลังการเผาศพของ เด็กสาวอายุ 14 รายนี้เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ครอบครัวของ เด็กสาว14 ปี สามารถทำได้ โดยไปยื่นคำร้องที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น อันดับแรกเมื่อยุติธรรมรับเรื่องแล้วก็จะดำเนินการในเรื่องของการไกล่เกลี่ยก่อน เผื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยทำความเข้าใจกันได้ แต่หากการไกล่เกลี่ยแล้วญาติทางฝ่ายเด็กสาวอายุ 14 ไม่พอใจจะฟ้องร้องตามขั้นตอนของกฎหมายในทางแพ่ง ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งทุกอย่างต้องคุยรายละเอียดกันอีกครั้ง เพราะกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรมมีทางออกให้ประชาชนเสมอ