ดิว เดอะสตาร์ อัพเดตอาการไตวายเฉียบพลัน หลังโหมรีดน้ำหนักขึ้นชกสังเวียน 10 fight 10

ทำแฟนคลับใจหายใจคว่ำไปตามๆ กันเมื่อ หนุ่มดิว ภัทรพล หรือ ดิว เดอะสตาร์ เกิดแพ้น็อกให้กับ แอนด์ดรูวร์ กรเศก ในศึก 10fight10 จนต้องหามส่งโรงพยาบาลกะทันหัน ซึ่งต่อมาจึงพบว่า เจ้าตัว เกิดอาการไตวายเฉียบพลัน 

ล่าสุด หนุ่มดิว เดอะสตาร์ หรือ ดิว ภัทรพล สามารถกลับบ้านได้แล้ว พร้อมทั้งอัพเดตอาการล่าสุดของตัวเองให้ฟังว่า อาการล่าสุดก็ดีขึ้นแล้วครับ ไตวายเฉียบพลันนอนโรงพยาบาล 4 วัน 3 คืน ให้น้ำเกลือ ให้ยา ตอนนี้ก็ดีขึ้น กลับมาแข็งแรง ผมอยากออกกำลังกายแล้ว เราซ้อมมวยเยอะ ออกกำลังกายจนเสพติดไปแล้ว นอนโรงพยาบาลเบื่อเตียงนอนมาก

 

 

 

ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยป่วย ไม่เคยอะไรเลย นี่เป็นครั้งแรกหักโหมกับการซ้อม และการลดน้ำหนักภายในระยะเวลาสั้น 42 วัน ลดลงมา 15 กิโลกรัม คุณหมอบอกว่าสาเหตุมาจากตรงนี้ คือผมใช้คอร์สนักมวยแบบโหดมาก ออกกำลังกายโดยที่คุมอาหารและไม่กินน้ำ กินน้ำแข็งเอา ซึ่งมันผิดหลักนะ ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง แต่มันทำน้ำหนักให้จริงๆ แต่ว่าผมไม่สามารถทำน้ำหนักได้ตามเกณฑ์ แต่ผมทำมาถึงจุดพีคแล้ว เวลาชกมวยจริงพลังงานเลยไม่พอ ก็เลยเกิดอาการยกที่ 3

 

 

แต่อย่างที่เห็นใจผม 100% อยู่แล้ว ตั้งแต่ยก 1-3 ผมใจตลอด เหมือนว่ายกที่ 2 ผมโดนต่อยและเสียคะแนน ยกที่ 3 ผมเลยต้องเดินเข้าทำผู้ต่อสู้ ผมเดินเข้ายับเลย โดยที่ไม่คำนึงถึงสังขารตัวเอง ว่าไหวขนาดไหน แต่ใจผมสู้ ใจไปเป็นล้านเลย เดินเข้าใส่ พุ่งเข้าใส่เลย

 

 

 

ตอนนี้ร่างหายเริ่มมีเอฟเฟ็กต์ตอนพักยกที่ 2 เริ่มรู้สึกว่ายังพักไม่พอ ยังรู้สึกเหนื่อยๆ ยังรู้สึกไม่สดชื่น พอเข้าบอกให้เตรียมพร้อม เราก็เลยต้องขึ้นไปแล้ว ซึ่งอาการไตวายเฉียบพลันมันน่ากลัวครับ หมอบอกว่าถ้ามาช้ากว่านั้นก็อาจจะเป็นอะไรที่แย่กว่า ไตอาจจวายไปเลย ต้องฟอกไต หรืออาจเสียชีวิตก็ได้ ไตวายเฉียบพลัน คือร่างกายขาดน้ำขั้นสุด เลือดเป็นกรด มีความข้นเหนียวมาก มันเลยไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ได้”

 

 

ตอนช่วงที่เราลดน้ำหนักก็มีผู้เชี่ยวชาญมาบอกว่ามันจะมีเอฟเฟ็กต์ตามมา แต่เราก็ดื้อ ไม่ฟัง โค้ชอองตวน (อองตวน ปินโต) บอกว่าให้กินบ้างอะไรบ้าง อย่าหักโหม พี่เจ(เจตริน วรรธนะสิน) บอกว่าให้ทำอย่างอื่นบ้าง กินบ้าง อย่ามัวแต่หักโหม ใส่เสื้อซาวน่ามันไม่ดี เราก็ดื้อเพราะเราไม่อยากให้ทีมเสียคะแนน เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด สุดท้ายก็ลงมา 15 กิโลกรัม จริงๆ ยอดทั้งหมดผมต้องลง 21 กิโลกรัมนะแต่ผมทำได้แค่นี้

 

ถ้าคนเราไตวายมันอาจจะเสียชีวิตได้ ตอนเลือดข้น เลือดเป็นกรด ทำให้ไตทำงานหนักมากจนทำให้น็อค จริงๆ ผมไม่ได้หมดสตินะ ยกที่ 3 ผมรู้สึกว่าผมเข้าไปต่อยแอนด์ดรูวร์ แล้วผมรู้สึกว่าผมเหนื่อย กรรมการก็เลยจับแยก จังหวะนั้นผมรู้สึกว่าภาพเริ่มมืด ม่านตาเริ่มปิด แต่ใจสู้ กรรมการเห็นว่าเราไม่ไหวก็เลยนับ แต่ผมยกมือว่าไหว กรรมการบอกไม่เอาแล้วๆ ตอนนั้นตาผมอาจจะเริ่มลอยแล้วก็ได้

 

 

หลังจากนี้ผมตั้งใจไว้ว่าจะเล่นเพาะกายต่อ จะแข่งชิงแชมป์ประเทศไทย ผมคุยกับ กาย (รัชชานนท์ สุประกอบ) แล้ว มองเขาเป็นไอดอล ถ้ามถามว่ากลัวมั้ย บอกเลยว่าไม่กลัวครับ มันไม่ได้เป็นเพราะกีฬา มันเป็นเพราะตัวผม กีฬาไม่ได้ทำร้ายใคร กีฬาทำให้เราแข็งแรง แต่เราหักโหมกับมันมากเกินไป ทำให้เราเกือบจะเสียชีวิตไปกับมัน

 

 

 

ตอนนี้ก็มีแค่ดูแลเรื่องไต เรื่องอาหารการกิน ดูแลสุขภาพ เพราะไตเป็นอวัยวะหนึ่งที่สำคัญต้องดูแลดีๆ ได้ยินว่าก็ไม่ง่ายนะถ้าต้องรักษาอาการไตวาย ฟอกไตก็ใช่เงินเยอะ ส่วนร่างกายผมว่าผมกลับมา 100% นะ ผมว่าผมฟิตนะ หมอก็บอกเจาะเลือดดูค่าไตแล้ว มันโอเคแล้ว เลือดไม่เป็นกรดแล้ว ทุกอย่างเข้าภาวะปกติแล้ว แต่ก็บอกว่าอย่าเพิ่งออกกำลังกายหักโหม และให้ดูแลสุขภาพให้ดี สัปดาห์นี้หมอบอกว่าอย่าเพิ่งออกกำลังกาย งดการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อเยอะ หมอก็นัดฟอลโลว์ประมาณอาทิตย์หน้าครับ

 

ขอบคุณ #10 FIGHT 10