ระย้า เตรียมเผาบิ๊กไบค์ไปพร้อมลูกชาย ไม่คิดจะขายต่อเพราะเขารักรถคันนี้มาก

จากกรณีเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เสียหลักล้มบนสะพานข้ามแยกคลองตันฝั่งขาออก ทำให้นายภัทร์นฤณ พงษ์ธนานิกร อายุ 37 ปี  ผู้บริหารค่ายเพลง รถไฟดนตรี  บุตรชายคนเล็กของนายประเสริฐ พงษ์ธนานิกร ผู้บริหารและเจ้าของ บริษัท รถไฟดนตรี จำกัด   และยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ นางเอกสาวไอซ์  ปรีชญา พงษ์ธนานิกร  เสียชีวิต  

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง -แดง ระย้า โพสต์ถึง โน๊ต ต้องจากกันรวดเร็ว ชมลูกชายของพ่อหล่อเหลือเกิน

ผู้เห็นเหตุการณ์  เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ขับขี่ขับรถมาบนถนนเพชรบุรี และขึ้นมาบนสะพานข้ามแยกด้วยความเร็วสูง ก่อนเสียหลักล้ม คอพาดกับราวเหล็กบนสะพานข้ามแยกอย่างรุนแรง จนศรีษะขาด และกระเด็นไปบนสะพานฝั่งขาเข้า ส่วนรถจักรยานยนต์ถไลห่างจากศพไปถึง 200 เมตร 

หลังเกิดเหตุ  ตำรวจ สน.คลองตัน  ได้นำรถบิ๊กไบค์ของผู้เสียชีวิต  มาเก็บไว้ที่ สน.คลองตัน ส่วนสาเหตุอุบัติเหตุ ยังอยู่ระหว่างสอบสวน   โดยมีรายงานว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ลงพื้นตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในที่เกิดเหตุตลอดจนตามเส้นทางที่ผู้เสียชีวิตขับผ่านและได้สอบปากคำบิดาผู้เสียชีวิตไปแล้ว  

จากนั้นวันที่ 29 กรกฎาคม 2562 ครอบครัวได้เดินทางมารับศพ โน๊ต นายภัทร์นฤณ พงษ์ธนานิกร จากสถาบันนิติเวชจุฬาฯ เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยคุณพ่อใส่ชุดสูท สวมแว่นตา แววตาอ่อนล้าสุดเศร้า

 

 

จากนั้นได้เคลื่อนศพขึ้นรถตู้ไปวัดธาตุทอง และปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ใดใด บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก

 

 

 กำหนดการสวดพระอภิธรรม นายภัทร์นฤน  "โน้ต" พงษ์ธนานิกร ณ วัดธาตุทอง ศาลาที่ 4 โดยจะสวดตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม 2562 ก่อนที่ทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 5 สิงหาคม 2562 เวลา 17.00 น.

ทว่าหลังจากนั้นทางครอบครัวได้ยกเลิกพิธีรดน้ำศพ โดยนายประเสิรฐ หรือ ดีเจระย้า เปิดใจว่า "วันนี้การเตรียมงานของเราอาจจะยังไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ เพราะว่ามีเพื่อน ๆ มาร่วมแสดงความเสียใจกันเยอะ ทั้งเพื่อนแม่ เพื่อนพ่อ และก็เพื่อนเขา ทางเราไม่ได้มีพิธีรดน้ำนะครับ เพราะสภาพจิตใจของคุณแม่ค่อนข้างแย่มาก เราเองก็กลัวว่าถ้ามีพิธีรดจะแย่ขึ้นไปอีก ก็เลยยกเลิกดีกว่า สำหรับสภาพจิตใจของเราหัวใจมันสลาย เพราะเขาก็กำลังจะตั้งหลักได้ดี งานการทุกอย่างก็กำลังดี อีกทั้งเมื่อเวลาประมาณ 1 ทุ่ม 14 นาที ในคืนวันศุกร์เขายังโทรมาหาพ่อ บอกกับพ่อว่าจะขอนำโรงจอดรถในบริษัทไปทำเป็นอู่ซ่อมบิ๊กไบค์ ซึ่งพ่อก็ยินดี ยังบอกเขาเลยว่าให้ทำเลย เขาก็ตอบกลับพ่อมาว่า ขอบคุณมากครับพ่อ นั่นแหละครับคำพูดสุดท้ายของเขา"

 

ล่าสุดในงานศพ ระย้า เปิดใจอีกครั้งว่า เรื่องการจัดการรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่นเอส1000อาร์อาร์ของลูกชายนั้น "กำลังตัดสินใจอยู่ว่าถ้าไม่เก็บไว้ที่บ้านก็จะเผาไปด้วยเลย แต่ไม่เคยคิดที่จะขายต่อให้ใครอย่างแน่นอนเพราะลูกชายรักรถคันนี้มาก แต่ก็ต้องปรึกษาคุณแม่ของเขาก่อนว่าหากเห็นรถแล้วจะทำใจได้หรือไม่"

ส่วนประเด็นที่ว่าโน๊ต ได้ดื่มก่อนที่จะเกิดเหตุหรือไม่นั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง วันนั้นก่อนจะแยกย้ายกัน โน้ตไปคุยธุรกิจเรื่องทำอู่บิ๊กไบก์ที่บ้านเพื่อน จากนั้นรอจนถึง 6 โมงเช้าจึงขับรถกลับบ้าน แต่มาประสบอุบัติเหตุก่อน จากการสอบถามเพื่อนๆ ที่อยู่ด้วยล่าสุด ยืนยันว่าโน้ตไม่ได้ดื่ม และโน้ตเลิกดื่มมาได้ระยะหนึ่งแล้ว